คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1387

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรุกล้ำที่ดิน: เมื่อข้อกล่าวหาเป็นทางสาธารณประโยชน์แต่พิสูจน์ไม่ได้ คดีตกไป
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำรั้วคอนกรีตรุกล้ำเข้าไปในทางพิพาทอันเป็นทางสาธารณประโยชน์โดยมิได้กล่าวอ้างมาในคำฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ได้มาโดยอายุความแต่อย่างใดเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางสาธารณประโยชน์คดีนี้จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ได้มาโดยอายุความหรือไม่และคดีฟังได้ว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางสาธารณประโยชน์ฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยทำรั้วรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณประโยชน์จึงเป็นอันตกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินโดยการต่อเติมอาคาร การครอบครองโดยอาศัยสิทธิเจ้าของเดิม และสิทธิในที่ดิน
ตึกแถวของโจทก์และของจำเลยอยู่ติดกัน ที่ดินและตึกแถวทั้งสองห้องนี้เดิมเป็นของเจ้าของคนเดียวกันโจทก์จำเลยต่างก็เช่าตึกแถวจากเจ้าของเดิม ระหว่างที่เช่าอยู่นั้นจำเลยได้ต่อเติมห้องน้ำห้องครัวที่ด้านหลังของตึกแถว โดยเจ้าของที่ดินคนเดิมรู้เห็นยินยอมต่อมาโจทก์จำเลยต่างก็ซื้อที่ดินและตึกแถวมาเป็นกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่าที่ดินส่วนที่จำเลยต่อเติมเป็นห้องน้ำห้องครัวนั้นอยู่ในโฉนดที่โจทก์ซื้อ จำเลยเพิ่งครอบครองที่ดินดังกล่าวของโจทก์มาเพียง 2 ปี จึงหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับให้จำเลยรื้อถอนห้องน้ำห้องครัวออกจากที่ดินโจทก์ได้ เพราะการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวนั้นก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมไม่ใช่เข้าไปก่อสร้างโดยไม่รู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของเจ้าของเดิม อันจะถือได้ว่าเป็นการสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามมาตรา 1312 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินที่รุกล้ำ: การต่อเติมอาคารโดยอาศัยสิทธิเดิมไม่ใช่การรุกล้ำโดยสุจริต
ตึกแถวของโจทก์และของจำเลยอยู่ติดกัน ที่ดินและตึกแถวทั้งสองห้องนี้เดิมเป็นของเจ้าของคนเดียวกันโจทก์จำเลยต่างก็เช่าตึกแถวจากเจ้าของเดิม ระหว่างที่เช่าอยู่นั้นจำเลยได้ต่อเติมห้องน้ำห้องครัวที่ด้านหลังของตึกแถวโดยเจ้าของที่ดินคนเดิมรู้เห็นยินยอม ต่อมาโจทก์จำเลยต่างก็ซื้อที่ดินและตึกแถวมาเป็นกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่าที่ดินส่วนที่จำเลยต่อเติมเป็นห้องน้ำห้องครัวนั้นอยู่ในโฉนดที่โจทก์ซื้อจำเลยเพิ่งครอบครองที่ดินดังกล่าวของโจทก์มาเพียง2 ปี จึงหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับให้จำเลยรื้อถอนห้องน้ำห้องครัวออกจากที่ดินโจทก์ได้เพราะการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวนั้นก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมไม่ใช่เข้าไปก่อสร้างโดยไม่รู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของเจ้าของเดิมอันจะถือได้ว่าเป็นการสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามมาตรา 1312 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างอาคารคร่อมทางภารจำยอม ไม่ทำให้เสื่อมสภาพการใช้ประโยชน์ จึงไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ
แม้สร้างตึกคร่อมทางภารจำยอมพิพาท แต่ยังเดินผ่านและรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่แล่นเข้าออกได้สะดวก ไม่ทำให้เสื่อมสภาพต่อการใช้ประโยชน์แห่งทางภารจำยอมพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 เป็นบทบัญญัติที่กล่าวถึงลักษณะแห่งภารจำยอมมิใช่บทบัญญัติห้ามเจ้าของภารยทรัพย์สร้างอาคารตึกคร่อมทางภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3867/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องทางจำเป็น/ภาระจำยอม: ศาลฎีกาไม่อุทธรณ์ประเด็นนอกฟ้องเดิม และถือคำพิพากษาศาลชั้นต้นถึงที่สุด
คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่น ทั้งยังบรรยายว่าที่ดินที่มีทางภาระจำยอมนั้นเป็นที่ดินมรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกัน ถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ ทั้งในชั้นชี้สองสถานก็ได้กำหนดประเด็นไว้ว่ามีทางภาระจำยอมหรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นทางจำเป็นและให้เปิดทางจำเป็น จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดนอกฟ้องนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภาระจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3867/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องทางจำเป็น/ภารจำยอม: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยนอกประเด็นที่กำหนด และถือว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับทางภารจำยอมถึงที่สุดแล้ว
คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่น ทั้งยังบรรยายว่าที่ดินที่มีทางภารจำยอมนั้นเป็นที่ดินมรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ ทั้งในชั้นชี้สองสถานก็ได้กำหนดประเด็นไว้ว่ามีทางภารจำยอมหรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นทางจำเป็นและให้เปิดทางจำเป็น จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดนอกฟ้องนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภารจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3075/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การแบ่งแยกครอบครองที่ดินมรดกและการใช้ทางเดินเป็นทางภารจำยอม
โจทก์จำเลยและบุตรคนอื่นของ อ. ต่างได้แบ่งแยกกันครอบครองที่ดินโฉนดแปลงเดียวกัน เป็นส่วนสัดตามที่ อ. ชี้แบ่งเขตให้ แต่ละคนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะส่วนที่ได้ครอบครองมา เมื่อโจทก์ได้ครอบครองที่ดินเฉพาะส่วนที่ได้รับแบ่งแยกมาตั้งแต่ก่อน อ. ถึงแก่กรรมและได้ใช้ทางเดินผ่านเข้าออกจากที่บ้านไปสู่ถนน โดยผ่านที่ดินที่จำเลยทั้งสองครอบครองอยู่มาตั้งแต่แรกเกินกว่า 10 ปีแล้ว ทางเดินดังกล่าวจึงตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเปิดทางภารจำยอมโดยมิได้เรียกค่าเสียหาย เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินโดยสิทธิอาศัยไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับโอนที่ดินมาจากเจ้าของเดิมซึ่งได้ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยออกสู่ถนนสาธารณะมาราว 40ปี จนได้ภารจำยอมแล้วจึงขายให้โจทก์ ต่อมาจำเลยปิดทางภาระยอมนั้นเสีย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเปิดได้ความว่าเดิมที่ดินแปลงของจำเลยกับแปลงของโจทก์เป็นที่ดินมรดกแปลงเดียวกัน เมื่อได้รับมรดกมาแล้วทายาทได้แบ่งโฉนดกันที่แปลงของโจทก์อยู่ข้างใน ส่วนแปลงของจำเลยอยู่ติดถนนสาธารณะมีบ้านมรดกอยู่ในที่ดินแปลงของจำเลยหนึ่งหลัง เจ้าของที่ดินเดิมแปลงของโจทก์ได้อาศัยอยู่ในบ้านมรดกหลังนี้ตลอดมา เพิ่งออกไปตอนขายที่ดินให้โจทก์แล้ว ดังนี้ การที่เจ้าของที่ดินเดิมอยู่ในบ้านมรดกนั้นเป็นการอยู่โดยใช้สิทธิอาศัยที่ดินจำเลยฉะนั้น การเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะย่อมเป็นการเดินโดยใช้สิทธิอาศัยจำเลย ไม่ใช่โดยปรปักษ์แม้จะใช้เดิน ติดต่อกันมาถึง 40 ปี ก็ไม่ได้ภาระจำยอมโดยอายุความโจทก์เองเพิ่งใช้ทางเดินผ่านที่ดินแปลงของจำเลยเมื่อได้รับโอนมายังไม่ถึงสิบปี ที่ดินแปลงของจำเลยจึงยังไม่ตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินแปลงของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัย vs. ภารจำยอม: การใช้ทางเดินผ่านที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้สิทธิโดยชอบธรรม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับโอนที่ดินมาจากเจ้าของเดิมซึ่งได้ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยออกสู่ถนนสาธารณะมาราว 40ปี จนได้ภารจำยอมแล้วจึงขายให้โจทก์ ต่อมาจำเลยปิดทางภารจำยอมนั้นเสีย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเปิดได้ความว่าเดิมที่ดินแปลงของจำเลยกับแปลงของโจทก์เป็นที่ดินมรดกแปลงเดียวกัน เมื่อได้รับมรดกมาแล้วทายาทได้แบ่งโฉนดกันที่แปลงของโจทก์อยู่ข้างใน ส่วนแปลงของจำเลยอยู่ติดถนนสาธารณะ มีบ้านมรดกอยู่ในที่ดินแปลงของจำเลยหนึ่งหลัง เจ้าของที่ดินเดิมแปลงของโจทก์ได้อาศัยอยู่ในบ้านมรดกหลังนี้ตลอดมา เพิ่งออกไปตอนขายที่ดินให้โจทก์แล้ว ดังนี้ การที่เจ้าของที่ดินเดิมอยู่ในบ้านมรดกนั้นเป็นการอยู่โดยใช้สิทธิอาศัยที่ดินจำเลยฉะนั้น การเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะย่อมเป็นการเดินโดยใช้สิทธิอาศัยจำเลย ไม่ใช่โดยปรปักษ์ แม้จะใช้เดิน ติดต่อกันมาถึง 40 ปี ก็ไม่ได้ภารจำยอมโดยอายุความโจทก์เองเพิ่งใช้ทางเดินผ่านที่ดินแปลงของจำเลยเมื่อได้รับโอนมายังไม่ถึงสิบปี ที่ดินแปลงของจำเลยจึงยังไม่ตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินแปลงของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283-284/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทแยกจากกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จำเลยไม่มีสิทธิภารจำยอมเมื่อซื้อเฉพาะเรือน
ที่ดินของโจทก์ทั้งสองเดิมเป็นของนาง ส.นางส.เป็นผู้ปลูกเรือนพิพาทขึ้นบนที่ดิน. ต่อมานาง ส.ขายเฉพาะตัวเรือนพิพาทให้จำเลย จากนั้นจึงแบ่งแยกที่ดินแปลงใหญ่ออกเป็นแปลงเล็กหลายแปลง และนางส.ได้แบ่งขายที่ดินให้โจทก์ทั้งสองคนละแปลง ที่ดินที่แบ่งขายให้โจทก์ทั้งสองนี้มีเรือนพิพาทปลูกรุกล้ำคร่อมอยู่ โดยจำเลยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ติดต่อกับโจทก์ทั้งสองเลย ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยซื้อเรือนพิพาทซึ่งเจ้าของที่ดินเดิมปลูกไว้ แม้การซื้อขายจะทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ถูกต้อง จำเลยก็ได้กรรมสิทธิ์เฉพาะตัวเรือนพิพาทเท่านั้น ไม่มีสิทธิในที่ดินปลูกเรือน จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของเรือนพิพาทจึงไม่มีสิทธิฟ้องให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิเป็นภารจำยอม เมื่อเจ้าของเดิมขายที่ดินซึ่งปลูกเรือนพิพาทให้โจทก์ทั้งสอง และโจทก์ทั้งสองไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่อาศัยต่อไป จำเลยก็ไม่มีสิทธิเหนือพื้นดินที่จะอยู่ต่อไปได้
of 52