คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1387

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งภาระจำยอมโดยการใช้ทางปรปักษ์ แม้ใช้ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปีก็ถือเป็นการใช้สิทธิได้
โจทก์ได้ใช้ทางพิพาทของจำเลยเป็นทางเดินผ่านทุกปีเมื่อสิ้นฤดูทำนา เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ภาระจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินของโจทก์แล้ว แม้โจทก์จะมิได้ใช้ทางพิพาทในฤดูทำนาก็ตาม ก็หาทำให้การใช้ทางนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่ จำเลยจะปิดกั้นหรือขุดบ่อทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางดังกล่าวหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งภารจำยอมโดยการใช้ทางต่อเนื่องเกิน 10 ปี แม้ใช้เฉพาะช่วงเวลาที่ทำนา การปิดกั้นทางเป็นเหตุละเมิด
โจทก์ได้ใช้ทางพิพาทของจำเลยเป็นทางเดินผ่านทุกปีเมื่อสิ้นฤดูทำนา เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ภาระจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินของโจทก์แล้ว แม้โจทก์จะมิได้ใช้ทางพิพาทในฤดูทำนาก็ตาม ก็หาทำให้การใช้ทางนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่ จำเลยจะปิดกั้นหรือขุดบ่อ ทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางดังกล่าวหาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น ระยะเวลา 10 ปี
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ก็ทำให้ผู้ที่มิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจของผู้ผ่านหรือเข้าไปเอง และถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไป ที่ดินที่ถูกผ่านหรือเข้าไปก็ต้องตกเป็นภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น การห้าม และการครอบครองปรปักษ์
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าวโดยอาศัยอำนาจของตนเอง ถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไปที่ดินนั้นก็ต้องตกอยู่ในภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอกฤดูทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมในฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอกโจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอกเพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในภารจำยอมโดยอายุความและการปิดกั้นทางระบายน้ำ
เดิมที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่มาแบ่งแยกภายหลัง มีคูระบายน้ำและใช้ระบายน้ำโสโครกผ่านที่ดินในส่วนที่ตกมาเป็นของจำเลยตั้งแต่เจ้าของเดิม เมื่อที่ดินตกมาเป็นของโจทก์ โจทก์ก็ใช้คูระบายน้ำโสโครกต่อมาอีกกว่า 10 ปีแล้ว ดังนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิในภาระจำยอมโดยอายุความเหนือที่ดินจำเลย จำเลยจะปิดคูระบายน้ำเสียไม่ได้
ข้อต่อสู้ของจำเลยว่า จำเลยมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ไม่ขอสืบพยานนั้น ศาลไม่รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมต้องเกิดเมื่อกรรมสิทธิ์แยกขาด การใช้ทางเดินต่อเนื่องหลังแบ่งแยกที่ดินยังไม่ทำให้เกิดภาระจำยอม
ทางเดินพิพาทอยู่ในที่ดินโฉนดแปลงเดียวกัน ซึ่งมีเจ้าของรวม 2 ฝ่ายครอบครองร่วมกันมาโดยมิได้แยกกันครอบครองเป็นส่วนสัด และในระหว่างนั้น ถึงแม้ผู้เช่าห้องแถวของเจ้าของรวมอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ใช้ทางเดินพิพาทนั้นมาเป็นเวลา 20 ปีเศษก็ตาม และภายหลังเมื่อได้แบ่งแยกโฉนดครอบครองกันเป็นส่วนสัดแล้ว แต่ก็ยังใช้ทางเดินพิพาทนั้นไม่ถึง 10 ปี นับแต่ได้แยกกันครอบครองทางเดินพิพาทย่อมไม่เป็นทางภาระจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขอทางจำเป็นสงวนไว้สำหรับเจ้าของที่ดินเท่านั้น ผู้เช่าหรือผู้อาศัยไม่มีสิทธิฟ้อง
ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดินที่ตกอยู่ในที่ล้อม ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349
โจทก์ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของผู้อื่นโดยเป็นเพียงผู้อาศัย (แม้จะอ้างว่าโจทก์ต้องใช้ทางเดินสายที่ผ่านเข้าไปในที่ดินของจำเลยมาราว 50 ปีแล้ว) แต่โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินอันเป็นสามายทรัพย์ จะมาฟ้องขอให้เปิดทางซึ่งเป็นภารจำยอมเองไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนจึงมีผล โจทก์ผู้รับโอนที่ดินแปลงอื่นไม่มีสิทธิอาศัยสิทธิภารจำยอมของเจ้าของเดิม
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงฟ้อง คำให้การและคำวินิจฉัยศาลล่าง แล้วฎีกาว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นยังขัดต่อข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงซึ่งได้จากคำให้การของโจทก์อันเป็นการอธิบายฟ้องของโจทก์ที่จะปรับเข้ากับข้อกฎหมายได้แล้ว แม้จะให้สืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปอีกก็ไม่มีเหตุที่จะทำข้อกฎหมายที่จะนำมาใช้บังคับตามฟ้องเปลี่ยนแปลงไปได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบและยกฟ้อง โจทก์จึงชอบแล้ว ดังนี้ ไม่ใช่ฎีกาย่อ ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225, 247
ข้อตกลงระหว่างทายาทที่ให้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งไว้เป็นทางภารจำยอมนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ย่อมไม่บริบูรณ์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ผู้รับโอน ที่ดินแปลงอื่นจากทายาทคนหนึ่งไม่มีสิทธิจะฟ้องทายาทเหล่านั้นให้เปิดทางภารจำยอมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: สิทธิเดินทางแม้เจ้าของเดิมมิได้ใช้เอง หากผู้เช่าใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี
ภารจำยอมในเรื่องทางเดินเป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่ง กฎหมายเพิ่งเล็งถึงความสำคัญของที่ดินไม่ใช่ส่วนตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
ตอนแรกโจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินซึ่งเป็นสามนทรัพย์ปลูกบ้านอยู่ และโจทก์ที่ 2 เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ในที่ดินนั้นด้วย ระหว่างนั้นโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมา ตอนหลังโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินนั้นและก็คงใช้ทางพิพาทเดินตลอดมา เมื่อรวมระยะเวลาทั้ง 2 ตอน เกิน 10 ปี โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่ถือเป็นการเพิ่มภารจำยอม หรือสละสิทธิ หากยังคงสภาพเดิม และภารจำยอมยังไม่สิ้นสุด
การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2503)
จดทะเบียนภารจำยอมว่าเป็นทางเดินของผู้ที่อยู่ในโฉนดซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของ แต่แล้วใช้ทางนี้เป็นทางรถด้วยก็ดี หรือมีคนอื่นซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดของจำเลยได้ใช้เป็นทางเดินด้วยก็ดี ก็ยังไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม
เมื่อการจดทะเบียนภารจำยอมยังคงอยู่แม้ผู้ใช้ทางนั้นจะอ้างว่าเป็นทางสาธารณ ก็ไม่ถือว่าสละสิทธิภารจำยอม
of 52