คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 281

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดต่อหน้าธารกำนัล ต้องพิจารณาว่าบุคคลที่เห็นการกระทำนั้นเห็นรายละเอียดของการกระทำหรือไม่
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิงคนหนึ่งในห้องนอนมืด เพียงแต่เหตุเกิดต่อหน้าเด็กหญิงเท่านั้น และโจทก์มิได้ยืนยันโต้แย้งว่าจำเลยได้กระทำโดยประการที่ให้เด็กหญิงได้เห็นการกระทำของจำเลย หรือว่าจำเลยได้กระทำในลักษณะที่เปิดเผยให้บุคคลอื่นสามารถเห็นการกระทำของจำเลยได้ ดังนี้ พฤติการณ์แห่งคดีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดต่อหน้าธารกำนัล หากผู้เสียหายได้แถลงต่อศาลไม่ติดใจเอาความจากจำเลย ขอถอนคำร้องทุกข์ ศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ฉุดคร่าและข่มขืน แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดินนำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรม: ฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเรา แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดิน นำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีข่มขืนฯ และประเด็นการเป็นความผิดฐานโทรมหญิง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 โดยมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และอ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 นั้น เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานโทรมหญิงด้วย เมื่อผู้เสียหายกับจำเลยตกลงยอมความกัน คดีย่อมระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีข่มขืนกระทำชำเราและการพิจารณาว่าเป็นการโทรมหญิงหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายสำเร็จความใคร่คนละหนึ่งครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 โดยมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และอ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281 นั้น เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานโทรมหญิงด้วย เมื่อผู้เสียหายกับจำเลยตกลงยอมความกัน คดีย่อมระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล แม้ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์หรือการร้องทุกข์ ก็ดำเนินคดีได้หากเป็นการประทุษร้าย
จำเลยกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งเป็นความผิดอันไม่อาจยอมความได้นั้น แม้ไม่มีการร้องทุกข์ เจ้าพนักงานก็ดำเนินคดีแก่จำเลยได้
จำเลยจับนมผู้เสียหายในรถประจำทางซึ่งมีคนโดยสารแน่นนั้น เป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัล แม้มิได้มีพยานรู้เห็นการกระทำของจำเลยมาเบิกความในชั้นศาล
การที่จำเลยจับนมผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้อนุญาตยินยอมนั้น เป็นการใช้กำลังประทุษร้ายตามมาตรา 278 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาที่ยอมความได้ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ และคำพิพากษาศาลล่างสิ้นผล
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ที่เป็นความผิดอันยอมความได้นั้นเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายขอถอนฟ้องชั้นฎีกา และศาลฎีกาสั่งอนุญาตแล้วสิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไป คำพิพากษาศาลล่างก็ย่อมระงับไปด้วยในตัว ไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างซึ่งให้ลงโทษจำเลยไว้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาที่ยอมความได้ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ และคำพิพากษาศาลล่างเป็นอันระงับไปด้วย
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ที่เป็นความผิดอันยอมความได้นั้น เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายขอถอนฟ้องชั้นฎีกา และศาลฎีกาสั่งอนุญาตแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไป คำพิพากษาศาลล่างก็ย่อมระงับไปด้วยในตัวไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างซึ่งให้ลงโทษจำเลยไว้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ย่อมระงับสิทธิการฟ้อง
คดีความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความได้นั้นถ้ามารดาของผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ถอนคำร้องทุกข์โดยผู้เสียหายยินยอมไม่คัดค้าน สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) อัยการโจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะดำเนินคดีนั้นต่อไปอีก ฉะนั้น การที่อัยการโจทก์แถลงขอผัดเวลายื่นคำร้องขอถอนฟ้อง โดยจะไปขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อน เพื่อมิให้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ย่อมไม่บังเกิดผลแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ย่อมระงับสิทธิในการฟ้อง
คดีความผิดฐานกระทำอนาจารซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความได้นั้น ถ้ามารดาของผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ถอนคำร้องทุกข์โดยผู้เสียหายยินยอมไม่คัดค้านสิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) อัยการโจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะดำเนินคดีนั้นต่อไปอีก ฉะนั้น การที่อัยการโจทก์แถลงขอผัดเวลายื่นคำร้องขอถอนฟ้องโดยจะไปขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อน เพื่อมิให้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ย่อมไม่บังเกิดผลแต่อย่างใด
of 6