พบผลลัพธ์ทั้งหมด 727 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คูน้ำที่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คันและคูน้ำ คือคูน้ำที่สร้างตามผังที่กรมชลประทานกำหนด
คูน้ำที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ.2505 หมายถึงคูน้ำที่ทำตามผังและลักษณะที่อธิบดีกรมชลประทานกำหนดและประกาศแล้ว ดังนั้น แม้จำเลยทำให้เกิดขัดข้องน้ำไม่ไหลในคูน้ำที่ผู้เสียหายขุดทำขึ้นเอง จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติ ดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คูน้ำสาธารณะที่ขุดเองไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คันและคูน้ำ หากไม่เป็นไปตามผังที่กรมชลประทานกำหนด
ตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 และเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ฯลฯ พ.ศ. 2509 นั้น เป็นเรื่องการทำคูน้ำจากคลองชลประทานตามโครงการเจ้าพระยาใหญ่ ซึ่งจะต้องทำตามผังและลักษณะที่อธิบดีกรมชลประทานกำหนดและประกาศแล้ว เมื่อคูน้ำที่ผู้เสียหายขุดทำขึ้นมิใช่เป็นคูน้ำที่ทำตามกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายกับพวกทำกันเอง คูน้ำนั้นจึงไม่ใช่คูน้ำที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 แม้จำเลยจะทำให้เกิดขัดข้อง น้ำไม่ไหลในคูของผู้เสียหาย จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาทรัพย์จากการยึดเรือ: ระยะเวลาการนับและการบังคับใช้ข้อตกลงระหว่างคู่ความ
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้จากจำเลย ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดเรือเดินทะเลของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้เคลื่อนย้ายเรือลำดังกล่าวออกจากอู่เรือของผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้โจทก์ถอยเรือออกไปให้พ้นท่าเทียบเรือของผู้ร้อง ต่อมาโจทก์กับผู้ร้องได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาว่า โจทก์ยอมให้เงินผู้ร้องในการที่เรือจอดอยู่ที่อู่ของผู้ร้องเดือนละ 3,000 บาท จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยจะจ่ายให้เมื่อได้ขายทอดตลาดเรือแล้ว และให้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี ต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์และโจทก์ขอหมายบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 (2) ดังนี้ คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวที่ศาลได้สั่งไว้ในระหว่างการพิจารณาก่อนมีคำพิพากษาคงมีผลต่อไปไม่ได้ถูกยกเลิก ทั้งจะถือว่าศาลได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ห้ามเคลื่อนย้ายเรือเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดเรือนั้นไป การนับระยะเวลาที่ผู้ร้องจะได้รับค่ารักษาทรัพย์ 3,000 บาทนั้น จึงต้องนับถึงวันที่ได้ย้ายเรือออกไปจากอู่ของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำสั่งศาลชั่วคราวหลังมีคำพิพากษา และการนับระยะเวลาค่าใช้จ่ายรักษาทรัพย์ในการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้จากจำเลย ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดเรือเดินทะเลของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้เคลื่อนย้ายเรือลำดังกล่าวออกจากอู่เรือของผู้ร้องผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้โจทก์ถอยเรือออกไปให้พ้นท่าเทียบเรือของผู้ร้อง ต่อมาโจทก์กับผู้ร้องได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาว่า โจทก์ยอมให้เงินผู้ร้องในการที่เรือจอดอยู่ที่อู่ของผู้ร้องเดือนละ 3,000 บาทจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยจะจ่ายให้เมื่อได้ขายทอดตลาดเรือแล้ว และให้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี ต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์และโจทก์ขอหมายบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) ดังนี้ คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวที่ศาลได้สั่งไว้ในระหว่างการพิจารณาก่อนมีคำพิพากษาคงมีผลต่อไปไม่ได้ถูกยกเลิก ทั้งจะถือว่าศาลได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ ห้ามเคลื่อนย้ายเรือเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดเรือนั้นไป การนับระยะเวลาที่ผู้ร้องจะได้รับค่ารักษาทรัพย์เดือนละ 3,000 บาทนั้น จึงต้องนับถึงวันที่ได้ย้ายเรือออกไปจากอู่ของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานภาษีในการยึดทรัพย์และสิทธิในการเฉลี่ยทรัพย์ตามกฎหมาย
ประมวลรัษฎากรมาตรา 12 เป็นกฎหมายพิเศษให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานที่จะเรียกเก็บภาษีอากรค้างโดยสั่งยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินได้เอง ไม่จำต้องนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาล ถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆซึ่งบุคคลภายนอกอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมายซึ่งบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่กระทบกระทั่งถึงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287. เจ้าพนักงานซึ่งเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีการค้าและภาษีเทศบาลจึงมีสิทธิขอเข้าเฉลี่ยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ได้ แม้จะมิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้ระเบียบภายในของ รฟท. และสิทธิในการเบิกจ่ายเงินสืบสวนลับ
คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบในการวางแผนงานและหลักเกณฑ์ใช้จ่ายเงินงบประมาณในการสืบสวนลับใหม่ ถือได้ว่าเป็นระเบียบที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้วางไว้ตั้งแต่มีมติดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้ถือว่าเป็นระเบียบอีก และตามมตินี้มิใช่เป็นเรื่องคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยวางข้อบังคับว่าด้วยระเบียบปฏิบัติงานที่จะให้ผู้ว่าการรถไฟทำอันเกี่ยวกับนิติกรรมแต่เป็นระเบียบที่วางไว้เป็นการภายในให้โจทก์ในฐานะผู้บังคับการตำรวจรถไฟ จะต้องหารือกับผู้ว่าการรถไฟก่อนถ้าจะทำตามแผนสืบสวนของกองตำรวจรถไฟ กรณีจึงไม่ต้องด้วยมาตรา25(4) แห่ง พระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ที่จะต้องให้รัฐมนตรีประกาศข้อบังคับนั้นในราชกิจจานุเบกษา
โจทก์ซึ่งเป็นผู้บังคับการตำรวจรถไฟได้ทราบระเบียบนี้แล้วก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบใหม่เมื่อโจทก์จ่ายเงินค่าสืบสวนลับไปโดยผิดหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบใหม่ ย่อมเป็นการนอกเหนือหน้าที่อันโจทก์จะพึงปฏิบัติโจทก์จึงไม่มีสิทธิเบิกจ่ายเงินค่าสืบสวนลับดังกล่าวได้
โจทก์ซึ่งเป็นผู้บังคับการตำรวจรถไฟได้ทราบระเบียบนี้แล้วก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบใหม่เมื่อโจทก์จ่ายเงินค่าสืบสวนลับไปโดยผิดหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบใหม่ ย่อมเป็นการนอกเหนือหน้าที่อันโจทก์จะพึงปฏิบัติโจทก์จึงไม่มีสิทธิเบิกจ่ายเงินค่าสืบสวนลับดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์: การฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งปันมรดกเพื่อเรียกร้องทรัพย์มรดกคืน
กรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งปันมรดก เป็นการฟ้องเรียกร้องให้ได้ทรัพย์พิพาทคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ (อ้างฎีกาที่ 2180/2517)
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์โดยไม่ได้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดี ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้อง จำเลยฎีกาได้ (อ้างฎีกาที่ 474/2503)
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์โดยไม่ได้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดี ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้อง จำเลยฎีกาได้ (อ้างฎีกาที่ 474/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์หรือไม่: การฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและแบ่งมรดกเพื่อเรียกทรัพย์คืน
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งมรดก เป็นการฟ้องเรียกร้องให้ได้ทรัพย์พิพาทคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาทเป็นคดีมีทุนทรัพย์
แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์จึงไม่ได้หมายเรียกจำเลยให้มาแก้คดี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้พิจารณาจำเลยฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์จึงไม่ได้หมายเรียกจำเลยให้มาแก้คดี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้พิจารณาจำเลยฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341-342/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมโดยมิสมัครใจ และการรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา
คำพิพากษาคดีแพ่งว่าจำเลยจัดให้มีการทำพินัยกรรมของเจ้ามรดกขึ้น หาใช่เจ้ามรดกสมัครใจทำขึ้นไม่ เป็นเรื่องชั่งน้ำหนักคำพยานจะนำข้อเท็จจริงนั้นมารับฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารในคดีอาญาไม่ได้ พยานในคดีอาญาแตกต่างไม่น่าเชื่อไม่พอรับฟังลงโทษจำเลย ศาลพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่จดทะเบียนสมรสหลังมีสินสอด ไม่ถือเป็นการละเมิด
สมรสตามพิธีมีสินสอด แต่ไม่มีการหมั้น แล้วชายไม่ไปจดทะเบียนสมรส ไม่เป็นละเมิด