คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กฤษณ์ โสภิตกุล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 727 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตใบมอบอำนาจและการรับฟังพยานที่ไม่ถูกต้องในศาล
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องความคดีเดียว เป็นการกระทำครั้งเดียวไม่ใช่มอบอำนาจทั่วไป ปิดอากรแสตมป์ 5 บาท ข้อนี้เป็นปัญหาที่ศาลรับฟังพยานผิดกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่อ้างในศาลชั้นต้นจำเลยยกขึ้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหุ้นส่วนในการตรวจบัญชีและการแสดงบัญชีของหุ้นส่วนผู้จัดการ
สามีจำเลยกับโจทก์ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ต่อมาสามีจำเลยตายโจทก์จำเลยตกลงให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากสามีจำเลยเป็นจำเลย ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างย่อมเป็นมรดกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลยก็เท่ากับจำเลยได้ลงหุ้นแล้ว
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆ ของห้างได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1037 ประกอบด้วยมาตรา 1080 แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแสดงบัญชีรายจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันจำเลยเข้าดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะแสดงได้ หาใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหุ้นส่วนในการตรวจสอบบัญชีและการแสดงบัญชีรับจ่ายของห้างหุ้นส่วน
สามีจำเลยกับโจทก์ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ต่อมาสามีจำเลยตายโจทก์จำเลยตกลงให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากสามีจำเลยเป็นจำเลย ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างย่อมเป็นมรดกตกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลยก็เท่ากับจำเลยได้ลงหุ้นแล้ว
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆของห้างได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1037 ประกอบด้วยมาตรา 1080แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแสดงบัญชีรับจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันจำเลยเข้าดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะแสดงได้ หาใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเพราะศาลอุทธรณ์แก้ไขค่าเสียหายเพียงเล็กน้อย ไม่เข้าเหตุฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามมาตรา 248
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าซ่อมอาคารโรงเรียนเป็นเงิน20,125 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้องพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดมาสูงเกินกว่าปกติ และความชำรุดบกพร่องเกิดจากแบบแปลนของโจทก์ไม่ดีด้วยพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 10,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ เจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ เป็นการแก้ไขเฉพาะจำนวนเงินค่าซ่อมให้น้อยลงจากค่าซ่อมอาคารโรงเรียนที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขจำนวนค่าเสียหายโดยศาลอุทธรณ์ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 248
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าซ่อมอาคารโรงเรียนเป็นเงิน 20,125 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดมาสูงเกินกว่าปกติ และความชำรุดบกพร่องเกิดจากแบบแปลนของโจทก์ไม่ดีด้วยพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 10,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ เป็นการแก้ไขเฉพาะจำนวนเงินค่าซ่อมให้น้อยลงจากค่าซ่อมอาคารโรงเรียนที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษผู้มีวัตถุระเบิดมอบต่อเจ้าหน้าที่: พิพากษายกเว้นโทษรวมถึงจำเลยที่ไม่ฎีกา
ระหว่างอุทธรณ์มีกฎหมายให้ผู้มีวัตถุระเบิดโดยไม่อาจรับอนุญาตได้นำไปมอบต่อนายทะเบียนใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ศาลฎีกาพิพากษายกเว้นโทษและให้มีผลไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดของพนักงาน: เริ่มนับเมื่อใด
บิลเก็บเงินค่าน้ำของโจทก์ขาดบัญชีไป และโจทก์รู้ว่า ก. และ ว. เป็นผู้ทำละเมิดจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2515 โจทก์ได้ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่ามีผู้บังคับบัญชาของ ก. และ ว. คนใดบ้านที่จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดของบุคคลทั้งสอง และได้ทราบผลของการสอบสวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2516 ว่าจำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้บังคับชาของ ก. และ ว. จะต้องร่วมรับผิดด้วย โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2517 เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2516 อันเป็นวันที่โจทก์ทราบผลของการสอบสวนจากคระกรรมการสอบสวน โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2517 ภายใน 1 ปี คดีโจทก์สำหรับจำเลยทั้ง 4 จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องค่าเสียหายจากละเมิด: เริ่มนับเมื่อใด? ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเริ่มนับเมื่อทราบตัวผู้ต้องรับผิดชอบ
บิลเก็บเงินค่าน้ำของโจทก์ขาดบัญชีไป และโจทก์รู้ว่า ก. และ ว. เป็นผู้ทำละเมิดจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2515 โจทก์ได้ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่ามีผู้บังคับบัญชาของ ก. และ ว. คนใดบ้างที่จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดของบุคคลทั้งสองและได้ทราบผลของการสอบสวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2516 ว่าจำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ก. และ ว. จะต้องร่วมรับผิดด้วย โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2517 เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2516 อันเป็นวันที่โจทก์ทราบผลของการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2517 ภายใน 1 ปี คดีโจทก์สำหรับจำเลยทั้ง 4 นี้จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ของผู้อยู่อาศัยในที่ดินพิพาทที่อ้างสัญญาจองเช่ากับผู้ก่อสร้าง ย่อมไม่ใช่การเป็นบริวารของจำเลย
โจทก์ในฐานผู้จัดการมรดกของ น.ฟ้องจำเลยว่าทำการก่อสร้างอาคารลงในที่ดินของ น.โดยไม่มีอำนาจ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์สั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปอยู่และทำการค้าในที่ดิน และอาคารที่กำลังก่อสร้างของ น. ต่อมาศาลชั้นต้นเห็นว่า ย. เป็นบริวารจำเลยมีคำสั่งให้ ย. ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามชั่วคราว ดังนี้เมื่อ ย. ต่อสู้ว่า ย. ได้จองเช่าอาคารจากจำเลยโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและด้วยความรู้เห็นยินยอมของเจ้าของที่ดิน จึงเป็นเรื่อง ย.ยกข้อต่อสู้ของตนเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก ในชั้นนี้ยังฟังไม่ได้ว่า ย.เป็นบริวารของจำเลย ศาลจะบังคับ ย.ตามคำร้องขอให้จับ ย. ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ข้อเท็จจริงเรื่องความเป็นบริวารและการมีสิทธิทำสัญญาเช่า ย่อมแยกพิจารณาได้ แม้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นบริวาร
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ น. ฟ้องจำเลยว่าทำการก่อสร้างอาคารลงในที่ดินของ น. โดยไม่มีอำนาจ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์สั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปอยู่และทำการค้าในที่ดินและอาคารที่กำลังก่อสร้างของ น. ต่อมาศาลชั้นต้นเห็นว่า ย.เป็นบริวารจำเลยมีคำสั่งให้ย. ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามชั่วคราว ดังนี้เมื่อ ย.ต่อสู้ว่าย.ได้จองเช่าอาคารจากจำเลยโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและด้วยความรู้เห็นยินยอมของเจ้าของที่ดิน จึงเป็นเรื่อง ย. ยกข้อต่อสู้ของตนเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก ในชั้นนี้ยังฟังไม่ได้ว่า ย.เป็นบริวารของจำเลยศาลจะบังคับย.ตามคำร้องขอให้จับย. ไม่ได้
of 73