คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กฤษณ์ โสภิตกุล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 727 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: หนังสือมอบอำนาจที่ผู้มอบอำนาจลงนามเพียงฝ่ายเดียวสมบูรณ์ และข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีฟ้องขับไล่
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฟ้องคดี สมบูรณ์เมื่อผู้มอบอำนาจลงลายมือชื่อ แม้ผู้รับมอบอำนาจไม่ลงชื่อ
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทนและการผูกพันตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้องและทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้นจึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลยโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทน และผลผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้อง และทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ ทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่ เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้น จึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลย โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้: การตกลงเปลี่ยนจากการชำระเงินเป็นบริการถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์ โดยจำเลยชำระเงินให้โจทก์ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ค้างชำระตกลงกันว่า หากไม่นำมาชำระให้จำเลยจะทำภาพยนตร์ตัวอย่างเพื่อโฆษณาร้านค้าให้โจทก์แต่จำเลยก็ไม่นำเงินที่ค้างมาชำระ และไม่ทำภาพยนตร์โฆษณาให้โจทก์ดังนี้ ถือได้ว่าหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศที่ค้างชำระดังกล่าวนั้นโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้ โดยเปลี่ยนวัตถุแห่งหนี้จากการที่จำเลยจะต้องชำระเงินมาเป็นหนี้ที่จำเลยจะต้องถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณากิจการร้านค้าให้โจทก์เสียแล้วหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระเงินย่อมเป็นอันระงับไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินที่ค้างตามสัญญาซื้อขายซึ่งระงับไปแล้วด้วยการแปลงหนี้ใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้: การตกลงเปลี่ยนสิ่งชำระหนี้จากเงินเป็นบริการ (ทำภาพยนตร์) ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์ โดยจำเลยชำระเงินให้โจทก์ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ค้างชำระตกลงกันว่า หากไม่นำมาชำระให้จำเลยจะทำภาพยนตร์ตัวอย่างเพื่อโฆษณาร้านค้าให้โจทก์ แต่จำเลยก็ไม่นำเงินที่ค้างมาชำระ และไม่ทำภาพยนตร์โฆษณาให้โจทก์ ดังนี้ ถือได้ว่าหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศที่ค้างชำระดังกล่าวนั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้ โดยเปลี่ยนวัตถุแห่งหนี้จากการที่จำเลยจะต้องชำระเงินมาเป็นหนี้ที่จำเลยจะต้องฉ่ายทำภาพยนตร์โฆษณากิจการร้านค้าให้โจทก์เสียแล้ว หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระเงินย่อมเป็นอันระงับไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินที่ค้างตามสัญญาซื้อขายซึ่งระงับไปแล้วด้วยการแปลงหนี้ใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดประเด็นและหน้าที่นำสืบในคดีมรดก จำเลยฎีกาต้องแสดงการคัดค้านคำสั่งศาลให้ชัดเจนก่อน
จำเลยฎีกาขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นในเรื่องการกำหนดประเด็นและหน้าที่นำสืบ ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาในวันชี้สองสถานว่าคู่ความสละข้อหาหรือข้อต่อสู้อื่นทั้งหมด คงมีประเด็นพิพาทเพียง 2 ข้อคือพินัยกรรมปลอมหรือไม่และพินัยกรรมครอบคลุมถึงทรัพย์สินอย่างอื่นนอกจากทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมหรือไม่ หลังจากไปตรวจที่พิพาทแล้วศาลชั้นต้นกำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยนำสืบก่อน ต่อมาจำเลยยื่นคำแถลงว่าในวันตรวจที่พิพาท จำเลยได้คัดค้านคำสั่งศาลด้วยวาจาว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลสั่งด้วยวาจาว่าให้แถลงคัดค้านเข้ามาจำเลยจึงยื่นคำแถลงอธิบายความหมายตามที่จำเลยแถลง ศาลชั้นต้นสั่งสำเนาให้โจทก์ร่วม ดังนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 26 กำหนดว่าถ้าศาลได้ออกคำสั่งหรือคำชี้ขาดเกี่ยวกับการการดำเนินคดี คู่ความคัดค้านว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนที่ศาลจะดำเนินคดีต่อไปให้ศาลจดคำสั่งหรือคำชี้ขาดนั้นและสภาพแห่งการคัดค้านนั้นไว้ในรายงานเมื่อตามสำนวนไม่ปรากฏว่าจำเลยคัดค้านคำสั่งหรือคำชี้ขาดข้อใดจึงไม่มีข้อคัดค้านศาลชั้นต้นที่ศาลฎีกาจะพิจารณาตามฎีกาของจำเลย
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำสืบก่อนและโจทก์จำเลยสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว แม้จะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตามถ้าไม่ทำให้คำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะสั่งแก้ไข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อโมฆะ หากกรรมการลงนามไม่ครบตามข้อบังคับบริษัท และไม่ได้ประทับตรา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 วรรค 2 บัญญัติว่า สัญญาเช่าซื้อนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ ซึ่งหมายความถึงว่า เจ้าของทรัพย์สินและผู้เช่าซื้อจะต้องลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อด้วยกันทั้งสองฝ่าย
โจทก์เป็นบริษัทจำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนข้อบังคับไว้ว่าลายมือชื่อกรรมการใดๆ สองนายร่วมกันพร้อมด้วยตราบริษัทพึงมีผลผูกพันบริษัท แต่ตามสัญญาเช่าซื้อกรรมการบริษัทโจทก์ลงชื่อเพียงคนเดียวและไม่ได้ประทับตราบริษัท ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทหนึ่งซึ่งได้จดทะเบียนไว้ เท่ากับว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์หรือให้เช่าซื้อไม่ได้ลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อ สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อโมฆะ หากกรรมการลงนามไม่ครบตามข้อบังคับบริษัท และไม่มีตราบริษัท
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 วรรค 2 บัญญัติว่าสัญญาเช่าซื้อนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ ซึ่งหมายความถึงว่า เจ้าของทรัพย์สินและผู้เช่าซื้อจะต้องลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อด้วยกันทั้งสองฝ่าย
โจทก์เป็นบริษัทจำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนข้อบังคับไว้ว่าลายมือชื่อกรรมการใดๆ สองนายร่วมกันพร้อมด้วยตราบริษัทพึงมีผลผูกพันบริษัทแต่ตามสัญญาเช่าซื้อกรรมการบริษัทโจทก์ลงชื่อเพียงคนเดียวและไม่ได้ประทับตราบริษัท ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทซึ่งได้จดทะเบียนไว้ เท่ากับว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์หรือผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้ลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อ สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรงต่อเนื่องหลายนัด ศาลฎีกายืนโทษจำคุก
จำเลยกับพวกใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงไปที่กลุ่มผู้เสียหายซึ่งอยู่ห่าง 1 วาเศษ กระสุนปืนถูกพวกผู้เสียหายที่เท้า ทั้งปรากฏว่าหลังจากยิงนัดแรกแล้วยังมีการยิงต่อไปอีก 4 นัด แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่า
of 73