พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2395/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีกับทายาทหลังจำเลยเสียชีวิต: หน้าที่ความรับผิดชอบของกองมรดก
ก่อนที่จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2 ทราบคำบังคับและหมายบังคับคดีได้ออกโดยชอบแล้ว เมื่อจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย หน้าที่และความรับผิดของจำเลยที่ 2 ที่จะต้องชำระหนี้ที่เหลือตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ย่อมเป็นกองมรดกตกทอดแก่ทายาท แต่มิใช่ทายาทจะต้องรับผิดเป็นส่วนตัว จึงไม่มีเหตุที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องขอออกคำบังคับหรือหมายบังคับแก่ทายาทอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งให้วางเงินประกันค่าสินไหมทดแทนเป็นที่สุด ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ศาลชอบที่จะจำหน่ายคดีได้
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องวางเงินเพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสอง (1) เป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสาม ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ก็ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249
การที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือไม่ เมื่อผลของคำสั่งจำหน่ายคดีทำให้คดีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดของผู้ร้องเสร็จไปจากศาล คดีจึงไม่จำต้องสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาผิดระเบียบอีกต่อไป ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกคำร้องดังกล่าวเสียได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด คำสั่งให้จำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสาม
การที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือไม่ เมื่อผลของคำสั่งจำหน่ายคดีทำให้คดีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดของผู้ร้องเสร็จไปจากศาล คดีจึงไม่จำต้องสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาผิดระเบียบอีกต่อไป ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกคำร้องดังกล่าวเสียได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด คำสั่งให้จำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคสาม