คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1336

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการออกโฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลเพิกถอนโฉนดคืนสิทธิผู้ครอบครองเดิม
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องฟ้องโจทก์ขาดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองไว้เพราะจำเลยให้การต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375อันเป็นบทบัญญัติในเรื่องระยะเวลาในการใช้สิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองแม้โจทก์จะอ้างว่ากรณีเป็นเรื่องการเรียกทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336ก็เป็นการฟ้องคดีเพื่อเรียกคืนซึ่งสิทธิครอบครองซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ4ลักษณะ3และประเด็นดังกล่าวนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้มิได้กำหนดประเด็นไว้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5) เมื่อที่ดินของจำเลยที่6มีการออกโฉนดซึ่งที่ดินทั้งแปลงแล้วน.ส.3ของที่ดินแปลงนั้นย่อมเป็นอันยกเลิกไปโฉนดที่ดินเลขที่13130ซึ่งจำเลยที่6รังวัดออกมาจากที่ดินน.ส.3ดังกล่าวนั้นอีกจึงเป็นโฉนดที่ดินที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา61 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ทั้งสามเป็นฝ่ายครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมาการที่จำเลยที่6ขอออกโฉนดที่ดินเลขที่13130ทับที่ดินน.ส.3ของโจทก์ทั้งสามและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์สืบต่อกันมาจนถึงจำเลยที่4โดยมิได้เข้าครอบครองที่พิพาทกรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้แม้จะเกิน1ปีนับแต่วันที่ทางราชการออกโฉนดที่ดินให้แก่จำเลยที่6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินต่อเนื่อง + โฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย = ผู้ครอบครองมีสิทธิ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามน.ส.3โจทก์จึงมีแต่เพียงสิทธิครอบครองแม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นการเรียกทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336แต่ก็เป็นการฟ้องคดีเพื่อเรียกคืนซึ่งสิทธิครอบครองต้องอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ4ลักษณะ3ว่าด้วยการครอบครองต้องฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในหนึ่งปีตามมาตรา1375 ที่ดินน.ส.3ของจำเลยมีการออกโฉนดที่ดินทั้งแปลงแล้วน.ส.3ย่อมเป็นอันยกเลิกโฉนดที่ดินซึ่งจำเลยรังวัดออกมาจากที่ดินน.ส.3ดังกล่าวจึงเป็นโฉนดที่ดินที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา61 โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่ดินการที่จำเลยขอออกโฉนดที่ดินทับที่ดินน.ส.3ของโจทก์และมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์สืบต่อกันมาโดยมิได้เข้าครอบครองที่ดินจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินจากโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้แม้จะเกิน1ปีนับแต่วันที่ทางราชการออกโฉนดที่ดินให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายบริการดับเพลิง: เงินที่ได้รับไม่ใช่รายได้แผ่นดิน แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการให้บริการ
กองบังคับการตำรวจดับเพลิงมีหน้าที่จัดส่งน้ำบริการให้แก่ประชาชนและสถานที่ราชการที่ขอมาโดยไม่ได้คิดค่าบริการ แต่เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของทางราชการ จึงได้วางระเบียบไว้ว่าผู้ที่ได้รับบริการต้องเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าน้ำประปา เงินที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจ่ายให้จำเลยในลักษณะเหมาเป็นเที่ยวจึงเป็นเงินที่จ่ายให้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ตามคำสั่งและระเบียบของกองบังคับการตำรวจ-ดับเพลิง ทั้งในการรับเงินค่าใช้จ่ายก็มิได้มีการออกใบเสร็จรับเงินให้ ฉะนั้นการที่จำเลยรับเงินดังกล่าวจึงเป็นการรับเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าน้ำประปาและค่าใช้จ่ายอื่นแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย อันถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการใช้ทรัพย์สิน มิใช่เป็นเงินที่ได้มาจากการให้ใช้ทรัพย์สินของทางราชการซึ่งโจทก์ไม่ได้คิดค่าบริการอยู่แล้ว จำเลยจึงไม่ต้องนำเงินที่ได้รับให้โจทก์เพื่อส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตาม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รวม-มรดก: สิทธิฟ้องขับไล่จำกัด, การแบ่งทรัพย์สินต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ดิน
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับจ.บิดาโจทก์โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทนจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของจ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมายแต่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทอื่นๆมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา86ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รวมและมรดก: สิทธิฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้มีกรรมสิทธิ์โดยตรง การแบ่งมรดกเป็นอำนาจผู้จัดการมรดก
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับ จ.บิดาโจทก์ โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทน จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท
การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของ จ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ผู้จัดการมรดก หรือทายาทอื่น ๆ มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อ ป.ที่ดินมาตรา 86 ผลต่อไปต้องเป็นไปตาม ป.ที่ดินมาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: โฉนดเป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่แท้จริง แม้ผู้อื่นยึดถือไว้ก็ไม่มีสิทธิ
ที่ดินที่มีโฉนดเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินของโจทก์ที่ทางราชการออกโฉนดก็โดยมีความประสงค์จะออกให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามโฉนดแม้ฉ.ซึ่งมิใช่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจะได้ขอออกโฉนดและทางราชการได้ออกให้แก่ฉ. ก็ตามฉ. ก็หาได้เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดไม่เมื่อฉ.มิได้เป็นเจ้าของที่ดินฉ. จึงไม่มีสิทธิที่จะยึดถือโฉนดไว้ได้โจทก์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงย่อมมีอำนาจติดตามเอาโฉนดซึ่งเป็นเอกสารสิทธิสำหรับที่ดินของโจทก์กลับคืนมาได้จำเลยซึ่งเป็นผู้ยึดถือโฉนดไว้แทนฉ. จึงต้องส่งคืนให้แก่โจทก์ ฉ. ส่งมอบโฉนดให้แก่จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้แต่หนี้เงินกู้มิได้เป็นหนี้ที่เป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวกับโฉนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา241จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7331/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ก่อนสัญญาเช่าทำให้สัญญาเช่าไม่ผูกพันผู้ซื้อ และมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
เมื่อ ส. จดทะเบียนโอนขายที่ดินและตึกแถวพิพาทให้แก่โจทก์ก่อนสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับ ส. จะมีผลบังคับ สัญญาเช่าจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อไป และบอกกล่าวแล้ว จำเลยจึงต้องออกไปจากตึกแถวพิพาท เมื่อจำเลยเพิกเฉย โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวพิพาทได้ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7331/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าเมื่อมีการซื้อขายทรัพย์สิน: สัญญาเช่าสิ้นสุดเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ก่อนสัญญาเช่ามีผล
เมื่อ ส. จดทะเบียนโอนขายที่ดินและตึกแถวพิพาทให้แก่โจทก์ก่อนสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับ ส. จะมีผลบังคับ สัญญาเช่าจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อไป และบอกกล่าวแล้ว จำเลยจึงต้องออกไปจากตึกแถวพิพาท เมื่อจำเลยเพิกเฉย โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวพิพาทได้ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7275/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินคืนจากผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่เข้าอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 448
ใบสำคัญรับเงินค่ากระบือมิใช่สัญญาซื้อขายหรือจะซื้อขายใบสำคัญรับเงินดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง การที่โจทก์นำสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารดังกล่าวจึงไม่ต้องห้ามมิให้รับฟังตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94
อายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 448 ใช้บังคับเฉพาะกรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิด แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 พนักงานของโจทก์ในตำแหน่งปศุสัตว์จังหวัดซึ่งเบิกเงินทดรองไปจากโจทก์เพื่อจัดซื้อกระบือตามโครงการพระราชดำริ และเมื่อจ่ายค่ากระบือที่ซื้อแล้วมีเงินเหลือให้คืนเงินส่วนที่เหลือแก่โจทก์ อันเป็นการขอให้บังคับจำเลยที่ 1 คืนหรือใช้เงินของโจทก์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 แก่โจทก์ จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของทรัพย์ฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336ไม่มีกำหนดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7275/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากผู้ยืมเงิน กรณีไม่ใช่การเรียกค่าเสียหาย
ใบสำคัญรับเงินค่ากระบือมิใช่ สัญญาซื้อขายหรือจะซื้อขายใบสำคัญรับเงินดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง การที่โจทก์นำสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารดังกล่าวจึงไม่ต้องห้ามมิให้รับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 อายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448ใช้บังคับเฉพาะกรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดแต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 พนักงานของโจทก์ในตำแหน่งปศุสัตว์จังหวัดซึ่งเบิกเงินทดรองไปจากโจทก์เพื่อจัดซื้อกระบือตามโครงการพระราชดำริ และเมื่อจ่ายค่ากระบือที่ซื้อแล้วมีเงินเหลือให้คืนเงินส่วนที่เหลือแก่โจทก์ อันเป็นการขอให้บังคับจำเลยที่ 1 คืนหรือใช้เงินของโจทก์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 แก่โจทก์ จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของทรัพย์ฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ไม่มีกำหนดอายุความ
of 117