พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบอนุญาตสถานบริการเป็นสิทธิเฉพาะตัว โอนไม่ได้ สัญญาซื้อขายจึงโมฆะ
ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 เป็นใบอนุญาตเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาต จะขออนุญาตแทนกันไม่ได้พระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้โอนใบอนุญาตแก่กันได้ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ว่าไม่ประสงค์ให้โอนใบอนุญาตแก่กันแม้ใบอนุญาตดังกล่าวจะเป็นทรัพย์สิน ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาตโจทก์จึงไม่อาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนใบอนุญาตให้แก่โจทก์ตามสัญญา เพราะวัตถุประสงค์แห่งสัญญาฝ่าฝืนต่อกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบอนุญาตสถานบริการเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่อาจโอนหรือขอแทนกันได้ สัญญาโอนจึงเป็นโมฆะ
ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 เป็นใบอนุญาตเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาต จะขออนุญาตแทนกันไม่ได้ พระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้โอนใบอนุญาตแก่กันได้ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ว่าไม่ประสงค์ให้โอนใบอนุญาตแก่กัน แม้ใบอนุญาตดังกล่าวจะเป็นทรัพย์สิน ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาตโจทก์จึงไม่อาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนใบอนุญาตให้แก่โจทก์ตามสัญญา เพราะวัตถุประสงค์แห่งสัญญาฝ่าฝืนต่อกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์ การบอกเลิกสัญญา และการติดตามเอารถคืน
จำเลยซื้อรถพิพาทจากโจทก์โดยมีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ในรถดังกล่าวยังไม่โอนไปยังจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 459 เมื่อจำเลยผิดสัญญาซื้อขายโจทก์บอกเลิกสัญญา แล้วโจทก์และจำเลยย่อมกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยต้องคืนรถพิพาทให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืน โจทก์จึงชอบที่จะติดตามเอาคืนในฐานะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 จึงไม่มีอายุความ กรณีหาใช่เป็นเรื่องโจทก์ในฐานะพ่อค้าฟ้องเรียกเอาค่าที่ ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายมีเงื่อนไข สัญญาค้างชำระ การคืนรถและสิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์
จำเลยซื้อรถพิพาทจากโจทก์โดยมีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ในรถดังกล่าวยังไม่โอนไปยังจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 459 เมื่อจำเลยผิดสัญญาซื้อขายโจทก์บอกเลิกสัญญา แล้ว โจทก์และจำเลยย่อมกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยต้องคืนรถพิพาทให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืน โจทก์จึงชอบ ที่จะติดตามเอาคืนในฐานะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 จึงไม่มีอายุความกรณีหาใช่เป็นเรื่องโจทก์ในฐานะพ่อค้าฟ้องเรียกเอาค่าที่ ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2045/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์และการฟ้องขับไล่: ฟ้องซ้ำหรือไม่ และผลผูกพันคำพิพากษาเดิมต่อคู่ความเดิม
โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพากษาจาก ป. เจ้าของเดิม จำเลยอยู่ในที่พิพาทต่อมาโดยไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะอ้างได้ จึงเป็นการอยู่โดยละเมิดสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ ส่วนค่าเสียหายที่ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้แก่ ป. โจทก์ในคดีเดิมย่อมสิ้นสุดลงในวันที่ ป. จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้แก่โจทก์ ค่าเสียหายของโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นค่าเสียหายที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่หาใช่ ค่าเสียหายตามคำพิพากษาในคดีเดิมไม่ จึงเป็นข้อพิพาทคนละประเด็นกับค่าเสียหายของโจทก์ในคดีเดิม ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้โจทก์คดีนี้เป็นคนละคนกับโจทก์ในคดีเดิม แต่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทสืบต่อมาจากโจทก์ในคดีเดิม และจำเลยเป็นคู่ความคนเดียวกับจำเลยในคดีเดิม คำพิพากษาในคดีเดิมที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงมีผลผูกพันจำเลยในคดีนี้ด้วย
แม้โจทก์คดีนี้เป็นคนละคนกับโจทก์ในคดีเดิม แต่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทสืบต่อมาจากโจทก์ในคดีเดิม และจำเลยเป็นคู่ความคนเดียวกับจำเลยในคดีเดิม คำพิพากษาในคดีเดิมที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงมีผลผูกพันจำเลยในคดีนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906-1907/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาท: ศาลพิจารณาจากเอกสารราชการและพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
ประเด็นพิพาทมีว่า บ้านพิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยเป็นเรื่องใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ข้อแก้ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะยังไม่ได้เข้าครอบครองที่พิพาทซึ่งบ้านพิพาทปลูกอยู่ จึงตกไปเพราะถ้าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถมที่ดินเพื่อจัดสรรและการระบายน้ำ การกระทำไม่ถือเป็นการละเมิดหากน้ำท่วมเกิดจากปัจจัยภายนอก
โจทก์ที่ 2 และจำเลยที่ 2 มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกันโดยมีลำเหมืองสาธารณะคั่นกลาง การที่จำเลยที่ 2 ถมที่ดินของตนซึ่งเดิมมีระดับต่ำกว่าที่ดินของโจทก์ที่ 2 ให้มีระดับใกล้เคียงกันย่อมเป็นสิทธิโดยชอบที่จะกระทำได้ แม้จำเลยที่ 2 จะถมลำเหมืองสาธารณะเป็นบางส่วนด้วย แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการที่เกิดน้ำท่วมที่ดินของโจทก์ที่ 2 ซึ่งโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ทำประโยชน์เป็นผลโดยตรงจากการที่ฝนตกหนัก 3 วันติดต่อกัน การกระทำดังกล่าวจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถมที่ดินเพื่อจัดสรรและการระบายน้ำ การกระทำไม่ถือเป็นการละเมิดหากเกิดจากเหตุสุดวิสัย
โจทก์ที่ 2 และจำเลยที่ 2 มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกันโดยมีลำเหมืองสาธารณะคั่นกลาง การที่จำเลยที่ 2 ถมที่ดินของตนซึ่งเดิมมีระดับต่ำกว่าที่ดินของโจทก์ที่ 2ให้มีระดับใกล้เคียงกันย่อมเป็นสิทธิโดยชอบที่จะกระทำ ได้ แม้จำเลยที่ 2 จะถมลำเหมืองสาธารณะเป็นบางส่วนด้วย แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการที่เกิดน้ำท่วมที่ดินของโจทก์ที่ 2 ซึ่งโจทก์ ที่ 1 เป็นผู้ทำประโยชน์เป็นผลโดยตรงจากการที่ฝนตกหนัก3วันติดต่อกัน การกระทำดังกล่าวจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกค่าเช่าบ้านเท็จ – อำนาจฟ้องของกรม – ความรับผิดทางแพ่ง
กรมสามัญศึกษาโจทก์เป็นนิติบุคคลโดยเป็นกรมในรัฐบาลการฟ้องคดีของโจทก์ย่อมแสดงออกโดยการกระทำของอธิบดีซึ่งเป็นผู้แทนเมื่อเห็นว่าโจทก์มีสิทธิเรียกเงินค่าเช่าบ้านที่จำเลยเบิกไปโดยไม่มีสิทธิคืนโจทก์ก็ชอบที่จะฟ้องคดีได้ อ.ก.พ.กระทรวงไม่มีอำนาจที่จะกระทำการแทนโจทก์ ฉะนั้นจะมีมติอย่างไรในเรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจของโจทก์ในการฟ้องคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขายและการคืนทรัพย์สิน: กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ขายจนกว่าจะชำระเงินครบถ้วน แม้จำเลยครอบครองเป็นเวลานานก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
จำเลยได้รับมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ไว้ในความครอบครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจะซื้อขายอันเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้จะครอบครองเป็นเวลาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใดโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใดโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก