พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์สินเมื่อผู้เช่าจำนำทรัพย์ - ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิยึดทรัพย์
ให้เช่าทรัพย์สินไปแล้วผู้เช่าเอาทรัพย์นั้นไปจำนำไว้กับผู้อื่นเจ้าของผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนได้ ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิจะยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์สินเมื่อผู้เช่าจำนำทรัพย์ – สัญญาจำนำไม่ผูกมัดเจ้าของ
ให้เช่าทรัพย์สินไปแล้วผู้เช่าเอาทรัพย์นั้นไปจำนำไว้กับผู้อื่น เจ้าของผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนได้ ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิจะยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการเก็บผลประโยชน์จากที่ดิน ศาลไม่อาจบังคับโอนกรรมสิทธิ์ได้หากมีเหตุขัดแย้งจากคดีอื่น
เดิมบิดาและมารดาทำสัญญาประนีประนอมยกที่ดินที่ปกครองร่วมกัน ให้แก่บุตรชาย บุตรหญิงรวม 2 คนคนละ 1 ส่วนเท่าๆ กันแต่บุตรจะเข้าครอบครองได้ต่อเมื่อบิดามารดาตายหมดแล้วทั้งสองคนครั้นบิดาตายไปก่อนคนเดียวมารดาจึงทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นบุตรชายจึงฟ้องมารดา ในที่สุดศาลพิพากษาบังคับมารดาไม่ให้ขายที่พิพาทนั้นมารดาจึงบอกเลิกข้อผูกพันกับผู้ซื้อ และห้ามมิให้ผู้ซื้อเก็บผลประโยชน์ในที่ดินพิพาทอีกต่อไป ดังนี้ผู้ซื้อจะมาฟ้องมารดาให้โอนที่ดินส่วนของบุตรหญิงให้ผู้ซื้อตามสัญญาเดิมนั้น ย่อมไม่ได้ และจะเรียกค่าเสียหายในฐานที่ถูกมารดาห้ามไม่ให้เก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทต่อไปก็ไม่ได้
และสำหรับมารดาก็จะฟ้องเรียกค่าผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้จากที่ดินนั้นคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะมารดาได้มอบที่ดินให้เขาเก็บผลประโยชน์เอาตามสัญญาจะซื้อขาย
และสำหรับมารดาก็จะฟ้องเรียกค่าผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้จากที่ดินนั้นคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะมารดาได้มอบที่ดินให้เขาเก็บผลประโยชน์เอาตามสัญญาจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการโอนสิทธิในที่ดิน: สิทธิเรียกร้องเมื่อสัญญาไม่สมบูรณ์และการจัดการผลประโยชน์
เดิมบิดาและมารดาทำสัญญาประนีประนอมยกที่ดินที่ปกครองรวมกัน ให้แก่บุตรชาย บุตรหญิงรวม 2 คนๆละ 1 ส่วนเท่าๆกัน แต่บุตรจะเข้าครอบครองได้ต่อเมื่อบิดามารดาตายหมดแล้วทั้งสองคน ครั้นบิดาตายไปก่อนคนเดียว มารดาจึงทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่น บุตรชายจึงฟ้องมารดา ในที่สุดศาลพิพากษาบังคับมารดาไม่ให้ขายที่พิพาทนั้น มารดาจึงบอกเลิกข้อผูกพันกับผู้ซื้อ และห้ามมิให้ผู้ซื้อเก็บผลประโยชน์ในที่ดินพิพาทอีกต่อไป ดังนี้ ผู้ซื้อจะมาฟ้องมารดาให้โอนที่ดินส่วนของบุตรหญิงให้ผู้ซื้อตามสัญญาเดิมนั้น ย่อมไม่ได้ และจะเรียกค่าเสียหายในฐานที่ถูกมารดาห้ามไม่ให้เก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทต่อไปก็ไม่ได้
และสำหรับมารดาก็จะฟ้องเรียกค่าผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้จากที่ดินนั้นคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะมารดาได้มอบที่ดินให้เขาเก็บผลประโยชน์เอาตามสัญญาจะซื้อขาย
และสำหรับมารดาก็จะฟ้องเรียกค่าผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้จากที่ดินนั้นคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะมารดาได้มอบที่ดินให้เขาเก็บผลประโยชน์เอาตามสัญญาจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือโดยผู้ไม่มีสิทธิและสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์มรดก
ผู้เช่าเรือฉ้อโกง เอาเรือของเจ้าของไปขายให้แก่ผู้อื่นโดยปลอมตนว่าเป็นเจ้าของเรือ และลงชื่อเจ้าของเรือปลอมในสัญญาซื้อขายที่อำเภอ แม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริตก็ไม่ได้กรรมสิทธิในเรือนั้น เจ้าของเรือย่อมมีสิทธิเรียกคืนและให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้นได้
แม้ผู้ตายจะมีบุตรและภริยาอยู่ก็ดี บิดาของผู้ตายก็เป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเหมือนกัน บิดาของผู้ตาย จึงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ไม่มีสิทธิยึดถือคืนมาได้
แม้ผู้ตายจะมีบุตรและภริยาอยู่ก็ดี บิดาของผู้ตายก็เป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเหมือนกัน บิดาของผู้ตาย จึงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ไม่มีสิทธิยึดถือคืนมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือโดยผู้ไม่มีสิทธิ กรรมสิทธิไม่ตกแก่ผู้ซื้อแม้สุจริต ทายาทมีสิทธิเรียกร้องทรัพย์มรดก
ผู้เช่าเรือฉ้อโกง เอาเรือของเจ้าของไปขายให้แก่ผู้อื่น โดยปลอมคนว่าเป็นเจ้าของเรือ และลงชื่อเจ้าของเรือปลอมในสัญญาซื้อขายที่อำเภอแม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิในเรือนั้น เจ้าของเรือย่อมมีสิทธิในเรือนั้น เจ้าของเรือย่อมมีสิทธิเรียกคืนและให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้นได้
แม้ผู้ตายจะมีบุตรและภิริยาอยู่ก็ดี บิดาของผู้ตายก็เป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเหมือนกัน บิดาของผู้ตาย จึงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ไม่มีสิทธิยึดถือคืนมาได้
แม้ผู้ตายจะมีบุตรและภิริยาอยู่ก็ดี บิดาของผู้ตายก็เป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเหมือนกัน บิดาของผู้ตาย จึงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ไม่มีสิทธิยึดถือคืนมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: ผู้ครอบครองเดิมมีสิทธิจดทะเบียน แม้ผู้ขอออกโฉนดทับไม่มีสิทธิ
ที่ดินมือเปล่าที่มีเจ้าของครอบครองมาฝ่ายเดียวนั้น เจ้าของย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ครอบครองแม้จะได้ขอออกโฉนดทับที่เขา ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะจดทะเบียนสิทธิได้ ฉะนั้นแม้จะได้โฉนดมาแล้วโอนขายไป ทั้งผู้โอนและผู้รับโอนโดยไม่สุจริตต่างก็ไม่มีใครจะเอาที่ดินนั้นเป็นสิทธิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมสิ้นสุดเมื่อเจ้าของที่ดินรวมเป็นคนเดียวกัน แม้เคยมีมาก่อน ย่อมไม่เกิดภาระจำยอมโดยอายุความ
ที่ดิน 2 แปลง เมื่อตกได้แก่เจ้าของเดียวกันแล้วแม้หากจะเคยมีภาระจำยอมมาก่อน ภาระจำยอมนั้นก็ย่อมหมดไป และแม้เจ้าของจะใช้ทางผ่านในที่ดินนั้น ก็เป็นเรื่องใช้อำนาจกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่ภาระจำยอม ฉะนั้นเมื่อขายที่ดินแปลงหนึ่งให้บุคคลอื่นไปยังไม่ถึง 10 ปีจึงยังไม่มีทางก่อเกิดภาระจำยอมโดยทางอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1401 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินที่ได้มาจากการอ้างซื้อ เมื่อความจริงเป็นสัญญาเช่า สิทธิครอบครองย่อมไม่สมบูรณ์
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้ตนนั้น แม้ศาลจะมีคำสั่งแสดงว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตาม เมื่อความจริงปรากฏว่าเจ้าของที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่า ดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขาย: สิทธิของผู้ซื้อยังไม่เกิดจนกว่าจะโอนทรัพย์ ผู้ซื้อจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืนหรือห้ามเกี่ยวข้องกับทรัพย์
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและบ้านเรือนกัน ผู้ขายมอบที่ดินและบ้านเรือนให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อน จนกว่าจะได้ไปโอนกันภายหลังนั้น ผู้ซื้อยังไม่มีสิทธิในทรัพย์ที่จะซื้อขายกันนั้น ผู้ซื้อเพียงมีสิทธิตามสัญญาจะซื้อขาย อันเป็นสิทธิเหนือบุคคลผู้เป็นคู่สัญญาและทายาทของเขา ฉะนั้นเมื่อมีคนเข้ามารื้อเรือนเอาไป และร้องขอให้อำเภอขายที่ดินนั้นโดยอ้างว่า เขาเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้าของที่ดินนั้น ผู้ซื้อจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องให้เขาคืนทรัพย์หรือ ห้ามมิให้เขาเกี่ยวข้องกับทรัพย์รายพิพาทนั้น