คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1336

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายที่ดินโดยบุตรเพิ่มเติมข้อความในใบมอบฉันทะเกินความประสงค์เดิมของมารดา ย่อมเป็นโมฆะ
บุตรคนหนึ่งเอาแบบพิมพ์มาให้มารดาพิมพ์ลายนิ้วมือโดยแจ้งว่าจะเอาไปจัดการใส่ชื่อบุตรคนนั้นลงในโฉนดที่ดินของมารดาด้วย มารดาก็ยอมและกดพิมพ์ลายนิ้วมือให้ไป แต่บุตรกลับไปเพิ่มเติมข้อความในใบมอบฉันทะนั้นเป็นว่ามารดามอบอำนาจให้บุตร ขายที่ดินโฉนดนั้นแก่บุตร 3 คน ดังนี้ เป็นการผิดความประสงค์การโอนขายย่อมเป็นโมฆะ มารดาย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมโอนขายนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายที่ดินที่เกินเลยเจตนาเดิมของผู้มอบอำนาจเป็นโมฆะ ผู้มอบอำนาจมีสิทธิขอเพิกถอนได้
บุตรคนหนึ่งเอาแบบพิมพ์มาให้มารดาพิมพ์ลายนิ้วมือโดยแจ้งว่าจะเอาไปจัดการใส่ชื่อบุตรคนนั้นลงในโฉนดที่ดินของมารดาด้วย มารดาก็ยอมและกดพิมพ์ลายนิ้วมือให้ไป แต่บุตรกลับไปเพิ่มเติมข้อความในใบมอบฉันทะนั้นเป็นว่ามารดามอบอำนาจให้บุตร ขายที่ดินโฉนดนั้นแก่บุตร 3 คน ดังนี้ เป็นการผิดความประสงค์การโอนขายย่อมเป็นโมฆะมารดาย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมโอนขายนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท สิทธิในที่ดินเมื่อซื้อขายไม่เป็นหนังสือและจดทะเบียน
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชื่อในโฉนดคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้ว และมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์ เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่จดทะเบียน & สิทธิครอบครองจากการชำระราคา - ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชือในโฉนดคืนจากจำเลย ๆต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้วและมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมือเปล่าโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริต ก็ไม่อาจล้มล้างสิทธิเจ้าของที่ดินได้
เอาที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญของผู้อื่นไปขายโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริต ผู้ซื้อก็จะอ้างการซื้อขายซึ่งทำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มาทำลายสิทธิของเจ้าของที่นั้นหาได้ไม่กรณีไม่ต้องด้วย ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1299

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่ทำให้สิทธิเจ้าของที่ดินสิ้นไป
เอาที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญของผู้อื่นไปขายโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริต ผู้ซื้อก็จะอ้างการซื้อขายซึ่งทำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มาทำลายสิทธิของเจ้าของที่นั้นหาได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าทำประโยชน์ที่ดินพิพาทระหว่างคดี: สิทธิบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์จำเลยต่างแย่งกันเป็นเจ้าของนาพิพาทจนคดีถึงศาล โดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าโจทก์เอาที่พิพาทตีชำระหนี้แก่จำเลยแต่โจทก์ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชะนะ จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทรายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าทำโดยมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลจังหวัดได้อยู่ในเวลานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้โจทก์ชะนะ และคดีถึงที่สุดเพียงนั้น ก็จะถือว่าการที่จำเลยเข้าทำนารายนี้เป็นการผิดกฎหมายอันจะประกอบให้เป็นการกระทำฐานละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา 420 ไม่ได้ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยโดยอาศัยมูลละเมิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีและการกระทำละเมิด: แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับ การเข้าทำที่ดินภายใต้คำพิพากษาเดิมไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์จำเลยต่างแย่งกันเป็นเจ้าของนาพิพาทจนคดีถึงศาลโดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าโจทก์เอาที่พิพาทตีชำระหนี้แก่จำเลยแต่โจทก์ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะ จำเลยจึงเข้าทำนำพิพาทรายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าทำโดยมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลจังหวัดได้อยู่ในเวลานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้โจทก์ชนะ และคดีถึงที่สุดเพียงนั้น ก็จะถือว่าการที่จำเลยเข้าทำนารายนี้เป็นการผิดกฎหมายอันจะประกอบให้เป็นการกระทำฐานละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ไม่ได้ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยโดยอาศัยมูลละเมิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ สัญญาไม่ผูกพันบุตร และการครอบครองปรปักษ์ที่ต้องเจตนาเป็นเจ้าของ
บิดาเอาที่ดิน ( ไม่มีโฉนด ) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน 10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีกเพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปี ฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากที่ดินของบุตรโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ผู้รับซื้อฝากอ้างอายุความมิได้ คดีไม่ผูกพันบุตร
บิดาเอาที่ดิน (ไม่มีโฉนด) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้ จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้ และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีก เพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปีฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก (ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว) ขอให้ศาลขับไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์มาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดาเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
of 117