พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินที่ผิดหลง ทำให้สิทธิในที่ดินเป็นโมฆะ ผู้รับโอนรายหลังไม่สามารถอ้างสิทธิได้
เมื่อศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือสำคัญและรายการจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2486 มาตรา 12 ก็ต้องถือว่ารายการจดทะเบียนนั้นมิได้มีอยู่ ผู้ใดจะมาอ้างทรัพย์สิทธิอย่างใด เนื่องมาจากการจดทะเบียนนั้นมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ดิน ทำให้สิทธิในที่ดินเป็นโมฆะ ผู้รับโอนสิทธิไม่มีทางชนะคดี
เมื่อศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือสำคัญและรายการจดทะเบียนตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 มาตรา 12 ก็ต้องถือว่ารายการจดทะเบียนนั้นมิได้มีอยู่ ผู้ใดจะมาอ้างทรัพย์สิทธิอย่างใด เนื่องมาจากการจดทะเบียนนั้นมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยินยอมของมารดาแทนบุตรผู้เยาว์, สิทธิครอบครองเวนคืน, และการฟ้องขับไล่
อำเภอเปรียบเทียบให้ที่นาและที่สวนเป็นสิทธิแก่ฝ่ายจำเลยแต่ปรากฏว่า ที่นาและที่สวนนี้เป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และมารดาโจทก์ร่วมกัน เมื่อมารดาโจทก์แต่ผู้เดียวได้ยินยอมตามที่อำเภอเปรียบเทียบการยินยอมนั้นย่อมไม่ชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546
อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายจำเลยได้ครอบครองที่นาและที่สวนพิพาทนี้มาเกิน 1 ปีแล้วฝ่ายจำเลยก็ได้สิทธิครอบครองที่นาพิพาท เพราะเป็นที่มือเปล่า ส่วนที่สวนโจทก์ฟ้องเรียกคืนได้ เพราะจำเลยยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี
ประเด็นข้อที่ว่ามารดาไม่มีอำนาจให้ความยินยอมแทนบุตรตามที่อำเภอเปรียบเทียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1546 นั้น เป็นเรื่องกระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้เยาว์และเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนวินิจฉัยได้
อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายจำเลยได้ครอบครองที่นาและที่สวนพิพาทนี้มาเกิน 1 ปีแล้วฝ่ายจำเลยก็ได้สิทธิครอบครองที่นาพิพาท เพราะเป็นที่มือเปล่า ส่วนที่สวนโจทก์ฟ้องเรียกคืนได้ เพราะจำเลยยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี
ประเด็นข้อที่ว่ามารดาไม่มีอำนาจให้ความยินยอมแทนบุตรตามที่อำเภอเปรียบเทียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1546 นั้น เป็นเรื่องกระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้เยาว์และเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการครอบครองโดยเปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของ แม้ได้รับมอบการครอบครองและชำระเงินมัดจำแล้วก็ยังไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน ผู้ขายได้รับเงินมัดจำไว้แล้วได้มอบการครอบครอง ที่ดินให้ผู้ซื้อโดยเจตนาจะโอนขายให้ผู้ซื้อในภายหลัง แต่ก็ไม่ใช่มอบให้ในการขายเลย เป็นแต่จะได้ทำขายในภายหลัง ซึ่งผู้ซื้อจะต้องชำระเงินเพิ่มขึ้นอีก ดังนี้ มิใช่เป็นการมอบกรรมสิทธิ์และย่อมต้องถือว่าผู้ซื้อได้ครอบครองโดยอาศัยอำนาจของผู้ขาย จึงไม่ใช่เป็นการครอบครองปรปักษ์ตาม มาตรา 1382 ฉะนั้นแม้จะได้ครอบครองมาถึง 10 ปี ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การมอบครองเพื่อทำการซื้อขายในอนาคต ไม่ถือเป็นการมอบกรรมสิทธิ
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันผู้ขายได้รับเงินมัดจำไว้แล้ว ได้มอบการครอบครองที่ดินให้ผู้ซื้อโดยเจตนาจะโอนขายให้ผู้ซื้อในภายหลัง แต่ก็ไม่ใช่มอบให้ในการขายเลยเป็นแต่จะได้ทำขายในภายหลัง ซึ่งผู้ซื้อจะต้องชำระเงินเพิ่มขึ้นอีก ดังนี้ มิใช่เป็นการมอบกรรมสิทธิและย่อมต้องถือว่าผู้ซื้อได้ครอบครองโดยอาศัยอำนาจของผู้ขาย จึงไม่ใช่เป็นการครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา 1382 ฉะนั้นแม้จะได้ครอบครองมาถึง 10 ปี ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องรังวัดเพื่อออกโฉนดให้ผู้อื่น แม้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ผู้มีกรรมสิทธิหรือมีสิทธิครอบครองที่ดิน ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ที่นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดที่นั้นเพื่อออกโฉนดให้เป็นของผู้อื่นเป็นจำเลย โดยฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองที่นั้นและห้ามมิให้มารบกวนการครอบครองที่นั้นได้ แม้ว่าจำเลยจะกระทำไปตามหน้าที่ราชการและอาศัยสิทธิของบุคคลที่ 3 ก็ดี ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะเรียกบุคคลที่ 3 ซึ่งจำเลยอาศัยสิทธินั้นเข้ามาในคดี,หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องฟ้องบุคคลที่ 3 ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องร้องการรังวัดเพื่อออกโฉนดให้ผู้อื่น แม้เจ้าพนักงานทำตามหน้าที่
ผู้มีกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองที่ดิน ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ที่นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดที่นั้นเพื่อออกโฉนดให้เป็นของผู้อื่นเป็นจำเลยโดยฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่นั้น และห้ามมิให้มารบกวนการครอบครองที่นั้นได้ แม้ว่าจำเลยจะกระทำไปตามหน้าที่ราชการและอาศัยสิทธิของบุคคลที่ 3 ก็ดี ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะเรียกบุคคลที่ 3 ซึ่งจำเลยอาศัยสิทธินั้นเข้ามาในคดี หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องฟ้องบุคคลที่ 3 ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่เป็นเจ้าของ & ผิดสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย
บิดามารดาทำสัญญาจะขายที่ดินของบุตร 2 คน คนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ อีกคนหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแก่บุคคลภายนอก โดยทำสัญญาเป็นหนังสือและรับเงินมัดจำไว้แล้ว ภายหลังเพิกเฉยไม่ดำเนินการจัดการอย่างใดเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ดังนี้ ย่อมถือว่าบิดามารดาผิดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้จะซื้อ ส่วนบุตรเป็นคนนอกสัญญาและไม่ปรากฎว่าบิดาเป็นตัวแทน จึงไม่ผูกมัดตามสัญญาและจะบังคับให้บิดามารดาโอนขายที่ดินตามสัญญาไม่ได้เพราะมิใช่ที่ดินของบิดามารดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ บิดามารดาผิดสัญญาต้องชดใช้ค่าเสียหาย
บิดามารดาทำสัญญาจะขายที่ดินของบุตร 2 คน คนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกคนหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแก่บุคคลภายนอก โดยทำสัญญาเป็นหนังสือและรับเงินมัดจำไว้แล้ว ภายหลังเพิกเฉย ไม่ดำเนินการจัดการอย่างใดเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ดังนี้ ย่อมถือว่าบิดามารดาผิดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้จะซื้อ ส่วนบุตรเป็นคนนอกสัญญาและไม่ปรากฏว่า บิดาเป็นตัวแทนจึงไม่ผูกมัดตามสัญญา และจะบังคับให้บิดามารดาโอนขายที่ดินตามสัญญาไม่ได้ เพราะมิใช่ที่ดินของบิดามารดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์หลังชำระหนี้ด้วยที่ดิน
โจทก์เอาที่ดิน (มีโฉนดแต่ยังเป็นชื่อคนอื่น ยังไม่ได้โอน) ของโจทก์ยกให้บิดาจำเลยเป็นการตีใช้หนี้เงินกู้บิดาจำเลยก็รับชำระและยึดถือครอบครองที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ฝ่ายจำเลยย่อมได้กรรมสิทธิในที่พิพาทในทางครอบครอง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกที่พิพาทคืนได้