พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,162 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายทรัพย์มรดก แม้มีส่วนได้ร่วม ก็ไม่มีอำนาจกระทำ
บังอาจทำลายทรัพย์ มฤดกที่ยังไม่ได้แบ่ง แม้ภริยาจำเลยจะมีส่วนได้อยู่ในทรัพย์รายนี้ด้วย จำเลยก็ไม่มีอำนาจทำลาย จึงต้องมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม่ตรงกับข้อเท็จจริง การสืบพยานไม่สมประเด็นฟ้อง ทำให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์รับโคของจำเลยที่คนของฝ่ายตนทำให้บาดเจ็บไว้รักษาแล้วมอบโคของตนให้จำเลยไปใช้งานแทนก่อนชั่วคราว เมื่อรักษาแผลโคหายแล้วต่างจะคืนโคกันตามเดิมครั้นโคที่เจ็บหายแล้ว โจทก์ส่งคืนจำเลยปรากฏว่าโคที่โจทก์มอบให้จำเลยไปใช้นั้นตายเสียแล้ว ดังนี้โจทก์ควรจะฟ้องเรียกโคของโจทก์กลับคืนหรือเรียกค่าเสียหายฐานยืมใช้คงรูป
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้นจำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน
โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมา ดังนี้ เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องศาลต้องยกฟ้อง
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้นจำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน
โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมา ดังนี้ เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องศาลต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินสวนมะพร้าว แม้ไม่มีโฉนด ย่อมมีระยะเวลาการครอบครองที่คุ้มครองตามกฎหมาย
ที่ดินสวนมะพร้าว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินก็ดี ย่อมถือได้ว่าเป็นที่ดินซึ่งได้ปลูกพรรณไม้อันมีค่า เป็นที่ดินมีราคาแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่ผู้ครอบครองย่อมหวงแหน ถืออำนาจเป็นเจ้าของและครอบครองกรรมสิทธิ์ไม่สละละทิ้งไปง่าย ๆ ต่อเมื่อผู้อื่นเข้าครอบครองโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จึงจะได้กรรมสิทธิตามมาตรา 1382.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินสวนมะพร้าว แม้ไม่มีหนังสือสำคัญ ย่อมได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลาการครอบครอง
ที่ดินสวนมะพร้าว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินก็ดีย่อมถือได้ว่าเป็นที่ดินซึ่งได้ปลูกพรรณไม้อันมีค่าเป็นที่ดินมีราคาแล้วจึงเป็นธรรมดาที่ผู้ครอบครองย่อมหวงแหน ถืออำนาจเป็นเจ้าของและครอบครองกรรมสิทธิ์ไม่สละละทิ้งไปง่ายๆ ต่อเมื่อผู้อื่นเข้าครอบครองโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพเมื่อใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิ์ไว้ชั่วคราวกล่าวคือบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ต้องอยู่ภายในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ นั้น
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพและพิจารณาตามสิทธิทั่วไป
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฏหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์ สินของเจ้าของกรรมสิทธิไว้ชั่วคราว กล่าว+บทบัญญัติใน ป.พ.พ.ม. 1336 +อยู่ภายในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. นั้น
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายพืชผลในที่ดินเช่าโดยผู้รับโอนสิทธิ ถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่าเดิม
เช่าที่ดินจากเจ้าของเดิมแต่ไม่มีหนังสือสัญญาเช่าต่อกันผู้เช่าได้ปกครองที่ดินโดยสุจริต ได้ปลูกปักต้นกล้วยและผลไม้ล้มลุกไว้ในที่ดินผู้รับโอนที่ดินนั้นมาโดยคำพิพากษาได้ทำลายต้นผลไม้ที่ผู้เช่าปลูกไว้ดังนี้นับว่าเป็นการกระทำละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420ผู้เช่ามีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของมีสิทธิฟ้องเรียกคืนได้โดยตรง
ยืมทรัพย์ของผู้อื่นไปจากผู้รับฝากทรัพย์นั้นไว้ โดยเจ้าของมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เจ้าของทรัพย์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนจากผู้ยืมได้โดยตรง
โจทก์ฟ้องเรียกกระดุมทองคำของโจทก์คืนจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง ดังนี้ ประเด็นฝ่ายจำเลยมีแต่เพียงนำสืบว่าไม่ได้ยืมกระดุมไปตามฟ้อง ไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทอง
โจทก์ฟ้องเรียกกระดุมทองคำของโจทก์คืนจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยืมไปตามฟ้อง ดังนี้ ประเด็นฝ่ายจำเลยมีแต่เพียงนำสืบว่าไม่ได้ยืมกระดุมไปตามฟ้อง ไม่มีประเด็นจะนำสืบว่ากระดุมของโจทก์เป็นลงหินชุบทอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินด้วยปากเปล่า ผู้ซื้อครอบครองไม่ครบ 10 ปี ยังไม่เกิดกรรมสิทธิ์ ผู้ขายมีสิทธิเรียกคืนได้
ซื้อขายที่สวนกันด้วยปากเปล่า ผู้ซื้อซื้อแล้วก็เข้าครอบครองถึง 6 ปี แม้ที่สวนนั้นจะไม่มีหนังสือสำคัญ ผู้ซื้อก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ เพราะครอบครองยังไม่ครบ 10 ปี ตามมาตรา 1382 ผู้ขายฟ้องเรียกคืนได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินด้วยวาจาและผลกระทบของการครอบครองไม่ครบ 10 ปีตามกฎหมาย
ซื้อขายที่สวนกันด้วยปากเปล่า ผู้ซื้อซื้อแล้วก็เข้าครอบครองถึง 6 ปีแม้ที่สวนนั้นจะไม่มีหนังสือสำคัญผู้ซื้อก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ เพราะครอบครองยังไม่ครบ 10 ปี ตามมาตรา 1382 ผู้ขายฟ้องเรียกคืนได้