คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม. 4

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 80 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องการพนันไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุยอดเงิน ยอดเงินเป็นรายละเอียดที่สืบได้ในชั้นพิจารณา
ยอดเงินตามโพยมิใช่องค์ประกอบความผิดฐานจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบที่ต้องกล่าวมาในฟ้อง แต่เป็นรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพนันฟุตบอลและสลากกินรวบ: ความผิดหลายกรรม, การรับสารภาพ, และการปรับบทลงโทษ
สำหรับข้อหาเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโลก โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นทายผลฟุตบอลโลก อันเป็นการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการเล่นการพนันซึ่งได้ระบุไว้ในบัญชี ข. หมายเลข 3 ท้าย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน นำมาซึ่งผลประโยชน์ของตน และร่วมเล่นกับพวกที่หลบหนีอยู่ ส่วนข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบ อันนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และร่วมกันเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อันเป็นการเล่นซึ่งระบุไว้ในบัญชี ข. หมายเลข 16 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัว ของเลขรางวัลที่ 1 และเลขท้าย 2 ตัว ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 และ 16 ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2541 ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2541 เป็นเลขถูกรางวัลสลากกินรวบ ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นการบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี อีกทั้งจำเลยก็ให้การรับสารภาพ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาตามคำฟ้องแล้ว ส่วนยอดเงินตามโพยมิใช่องค์ประกอบความผิดแต่เป็นรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องทั้งสองข้อหาจึงหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องโจทก์ จำเลยจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า พฤติการณ์ในการค้นและออกหมายค้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่อาจนำพยานหลักฐานที่ได้มาใช้รับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งยังเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นฎีกาซึ่งมิใช่ข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิด 2 กรรมต่างกัน จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวซึ่งไม่ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฏหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์และฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรปรับบทลงโทษเสียให้ถูกต้องโดยไม่แก้ไขโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพนันทายผลฟุตบอล: ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และอำนาจศาลในการแก้ไขฐานความผิด
การเล่นอย่างใดที่เสี่ยงโชคให้เงินแก่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งตามบัญชี ข. หมายเลข 16 ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ต้องมีลักษณะคล้ายกับการเล่นการพนันสลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบซึ่งอยู่ในบัญชี ข. หมายเลขเดียวกันด้วย
จำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งเป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินแก่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง อันเป็นการพนันประเภทต้องขออนุญาตตามบัญชี ข. หมายเลข 16 ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ แต่การพนันทายผลฟุตบอลไม่มีลักษณะคล้ายกับการเล่นการพนันสลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 4
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ วรรคสอง บัญญัติว่า "คำว่า "การเล่น" ในวรรคก่อนให้หมายความรวมตลอดถึงการทายและการทำนายด้วย" การเล่นพนันทายผลฟุตบอลเป็นการเล่นอื่นใดนอกจากที่กล่าวในมาตรา 4 และมิใช่การเล่นที่ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง จึงเป็นความผิดตามมาตรา 4 ทวิ
โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนันทายผลฟุตบอล พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และประสงค์ให้ลงโทษจำเลยจากการกระทำนั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยเล่นการพนันดังกล่าวจริง อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้โจทก์มิได้บรรยายว่า การเล่นพนันทายผลฟุตบอลเป็นการเล่นอื่นใดนอกจากที่กล่าวในมาตรา 4 ซึ่งมิได้ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง และอ้างบทมาตรา 4 ทวิ มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่มาตรา 4 ทวิ ไม่ใช่บทมาตราที่บัญญัติองค์ประกอบความผิดและความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ก็มีบทลงโทษรวมอยู่ในมาตรา 12 ซึ่งโจทก์อ้างมาในคำขอท้ายฟ้องด้วย กรณีจึงเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคห้า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.การพนัน ต้องมีเจตนาจัดให้มีการเล่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
การจัดให้มีการเล่นตามบัญชี ข. ท้าย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 จะต้องเป็นการจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้จัด ผู้จัดจึงจะมีความผิด แม้ตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษจะใช้ถ้อยคำว่าผู้จัดให้มีการเล่น...เท่านั้น ก็ย่อมหมายถึงผู้จัดให้มีการเล่นอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 นั่นเอง
ข้อความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสอง ที่ว่า จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัดโดยทางตรงหรือทางอ้อม เป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อความว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการเล่นบิลเลียดขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 158 (5)ปัญหานี้แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้าง แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดเล่นพนันต้องมีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ หากไม่มีเจตนาดังกล่าว แม้จัดให้มีการเล่น ก็ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
การจัดให้มีการเล่นตามบัญชี ข. ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 จะต้องเป็นการจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้จัด ผู้จัดจึงจะมีความผิดแม้ตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษจะใช้ถ้อยคำว่าผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้น ก็ย่อมหมายถึงผู้จัดให้มีการเล่นอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 นั่นเอง ข้อความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสอง ที่ว่า จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัดโดยทางตรงหรือทางอ้อม เป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อตามคำฟ้องของ โจทก์ไม่ปรากฎข้อความว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการเล่นบิลเลียดขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนโดยทางตรงหรือทางอ้อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ปัญหานี้แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้าง แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8344/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าไม่ใช่เครื่องเล่นพนัน หากไม่มีการแพ้ชนะระหว่างบุคคล การจัดให้เล่นจึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
คำว่า"เครื่องเล่น"ตามกฎกระทรวงฉบับที่23(พ.ศ.2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ.2478ที่กำหนดว่าเป็นเครื่องเล่นซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้นั้นย่อมมีความหมายตามปกติว่าเป็นการแพ้ชนะระหว่างบุคคลตั้งแต่2คนขึ้นไปแต่เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางสามารถเล่นคนเดียวก็ได้หากผู้เล่นมีความสามารถหรือมีทักษะก็จะได้คะแนนดีคะแนนที่ปรากฏบนจอภาพเป็นคะแนนความสามารถของผู้เล่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นดังกล่าวโดยสภาพของเครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางเป็นการให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้เล่นโดยผู้เล่นจะต้องจ่ายค่าเล่นด้วยการหยอดเหรียญ5บาทลงไปในตู้การจะใช้ผลคะแนนดังกล่าวเพื่อเล่นการพนันกันได้นั้นเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างหากหาใช่เป็นคุณสมบัติปกติของเครื่องเล่นดังกล่าวไม่เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางจึงไม่ใช่เครื่องเล่นในความหมายของกฎกระทรวงฉบับที่23(พ.ศ.2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ.2478การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8344/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าไม่ใช่เครื่องเล่นพนัน หากไม่มีการใช้ผลคะแนนเพื่อเล่นการพนัน
คำว่า "เครื่องเล่น" ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ที่กำหนดว่าเป็นเครื่องเล่นซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้นั้น ย่อมมีความหมายตามปกติว่าเป็นการแพ้ชนะระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป แต่เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางสามารถเล่นคนเดียวก็ได้หากผู้เล่นมีความสามารถหรือมีทักษะก็จะได้คะแนนดี คะแนนที่ปรากฏบนจอภาพเป็นคะแนนความสามารถของผู้เล่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นดังกล่าว โดยสภาพของเครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางเป็นการให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้เล่น โดยผู้เล่นจะต้องจ่ายค่าเล่นด้วยการหยอดเหรียญ 5 บาท ลงไปในตู้ การจะใช้ผลคะแนนดังกล่าวเพื่อเล่นการพนันกันได้นั้น เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างหาก หาใช่เป็นคุณสมบัติปกติของเครื่องเล่นดังกล่าวไม่ เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าของกลางจึงไม่ใช่เครื่องเล่นในความหมายของกฎกระทรวง ฉบับที่ 23(พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8344/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตู้เกมไฟฟ้าไม่ใช่เครื่องเล่นพนัน หากให้ความสนุกเพลิดเพลิน ไม่มีการแพ้ชนะหรือผลตอบแทน
เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าที่เล่นคนเดียวก็ได้ หากผู้เล่นมีความสามารถหรือมีทักษะ ก็จะได้คะแนนดี แต่ผู้เล่นจะไม่ได้รับ ผลตอบแทนใด ๆ จากเครื่องเล่น คงได้รับความสนุกเพลิดเพลิน เท่านั้น แสดงว่า โดยสภาพของเครื่องเล่นนั้นเป็นการ ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้เล่น โดยผู้เล่นจะต้อง จ่ายค่าเล่นด้วยการหยอดเหรียญลงไปในตู้ แม้จะมีคะแนน ปรากฏบนจอภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นดังกล่าว โดยเป็นเพียงสิ่งที่แสดงถึงความสามารถหรือทักษะของผู้เล่น เท่านั้น จึงไม่เป็นเครื่องเล่นที่อยู่ในความหมายของกฎกระทรวง ฉบับที่ 23(พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ที่จะต้องขออนุญาตจัดให้มีการเล่นดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดเล่นบิลเลียดในสมาคมเพื่อความรื่นเริงโดยเก็บค่าเกมส์ตามสมควร ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
จำเลยที่ 1 เป็นสมาคมได้จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดเพียง4 โต๊ะโดยจำเลยที่ 1 เก็บเงินค่าเกมส์ จากผู้เล่นในอัตราชั่วโมงละ 60 บาทต่อหนึ่งโต๊ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าเกมส์ตามสมควร และไม่ปรากฏว่ามีการพนันเอาทรัพย์สินกันจึงเป็นการจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริงในสมาคม การจัดให้มีการเล่นในสมาคมของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องมีใบอนุญาตตามกฎกระทรวงฉบับที่ 17 พ.ศ. 2503 ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 18(พ.ศ. 2504) ข้อ 5 ส่วนการที่จำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์จะไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้นแต่กลับมาจัดตั้งโต๊ะบิลเลียดดังกล่าวก็เป็นเพียงฝ่าฝืนกฎหมายอื่นเท่านั้น หาเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสลากกินรวบ - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - ขั้นเตรียมการกระทำผิด
โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่า จำเลยได้ขายสลากกินรวบ แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะจับ ศ. ซึ่งเป็นผู้ซื้อสลากกินรวบมาได้ในขณะเกิดเหตุศ. ก็ให้การว่า ได้มาซื้อสลากกินรวบที่บ้านจำเลยมิได้ระบุว่าซื้อจากจำเลย โจทก์ไม่ได้ตัว ศ. มาสืบ คงส่งแต่บันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของ ศ. เป็นพยานต่อศาล บันทึกคำให้การดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่าซึ่งมีน้ำหนักน้อย ไม่พอฟังว่า ศ. ซื้อสลากกินรวบจากจำเลย โพยของกลางก็ไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้เขียนและขายโพยนั้น แม้จะฟังว่าจำเลยเขียนเลขสลากกินรวบไว้เพื่อขาย แต่ยังไม่ทันลงมือขายก็ถูกจับ ดังนี้ จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบ เป็นเพียงขั้นเตรียมการกระทำผิดเท่านั้น.
of 8