พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5017/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าปลอม และการคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ
การเอาชื่อ รูป และรอยประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมที่ได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้านมข้นหวานในจำพวก 29 มาใช้โดยทำให้ปรากฏที่กล่องหรือลังกระดาษสำหรับบรรจุ ซึ่งเท่ากับเป็นการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้านมกระป๋องดังกล่าวโดยมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าที่อยู่ในกล่องกระดาษหรือลังดังกล่าวเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมถือได้ว่าเป็นการปลอมเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของโจทก์ร่วมที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรตามที่ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108 บัญญัติไว้เป็นความผิดโดยเฉพาะแล้ว ดังนั้น การเอาชื่อ รูป หรือรอยประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นมาใช้โดยทำให้ปรากฏที่หีบห่อบรรจุสินค้าโดยมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่นอันจะเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 271 (1) นั้น จึงต้องเป็นการเอาชื่อ รูป หรือรอยประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในราชอาณาจักรมาใช้เท่านั้น เพราะหากเป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร การกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าดังที่ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108 บัญญัติไว้เป็นบทเฉพาะซึ่งมีระวางโทษหนักกว่า
เมื่อการเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์ร่วมมาใช้โดยทำให้ปรากฏที่หีบห่อเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108 ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว การกระทำดังกล่าวจึงไม่อาจเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 272 (1) ได้อีก แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้องก็ตาม ไม่ใช่เรื่องการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา 90
เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มีวัตถุประสงค์ในการควบคุมคุณภาพของอาหารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค ความผิดฐานจำหน่ายอาหารปลอมตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 59 ประกอบมาตรา 25 (2) และ 27 จึงเป็นความผิดต่อรัฐ รัฐเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานนี้ โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานนี้ ไม่อาจอุทธรณ์ในข้อหาความผิดฐานนี้ได้
แม้ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรปลอมได้ ก็ต้องริบนมกระป๋องตรามะลิปลอมของกลางตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 115
เมื่อการเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์ร่วมมาใช้โดยทำให้ปรากฏที่หีบห่อเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108 ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว การกระทำดังกล่าวจึงไม่อาจเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 272 (1) ได้อีก แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้องก็ตาม ไม่ใช่เรื่องการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา 90
เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มีวัตถุประสงค์ในการควบคุมคุณภาพของอาหารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค ความผิดฐานจำหน่ายอาหารปลอมตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 59 ประกอบมาตรา 25 (2) และ 27 จึงเป็นความผิดต่อรัฐ รัฐเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานนี้ โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานนี้ ไม่อาจอุทธรณ์ในข้อหาความผิดฐานนี้ได้
แม้ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรปลอมได้ ก็ต้องริบนมกระป๋องตรามะลิปลอมของกลางตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 115
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: อาหารปลอมและเครื่องหมายการค้าปลอม มีเจตนาเดียวคือจำหน่ายอาหารปลอม
การที่จำเลยมีอาหารปลอมหรืออาหารที่ไม่ได้มาตรฐานไว้เพื่อจำหน่าย โดยที่สินค้านั้นมีเครื่องหมายการค้าปลอมติดอยู่ ก็ด้วยเจตนาเดียวคือประสงค์จะมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารปลอม การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่การกระทำความผิดต่างกรรมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผลิตอาหารปลอมเกินมาตรฐาน โต้เถียงข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพเป็นฎีกาไม่ชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปใจความได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตอาหารประเภทเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดแห้งที่ต้องละลายก่อนบริโภคบรรจุซองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นอาหารควบคุมเฉพาะตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 65(พ.ศ. 2525) ที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของเครื่องดื่มเกลือแร่ 1 ลิตร ต้องมีปริมาณโซเดียม40มิลลิอิควิวาเลนท์ แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ที่จำเลยทั้งสองผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายมีปริมาณโซเดียมมากถึง115 มิลลิอิควิวาเลนท์ ต่อเครื่องดื่มเกลือแร่ 1 ลิตร มีปริมาณโซเดียมเกินกว่าร้อยละ 187.5 จากเกณฑ์สูงสุดตามกฎหมาย จึงเป็นอาหารที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ถึงขนาดส่วนประกอบที่เป็นคุณค่าทางอาหาร มีปริมาณเกินกว่าร้อยละ 30 จากเกณฑ์สูงสุดและแตกต่างจากคุณภาพหรือมาตรฐานที่ระบุไว้จนทำให้เกิดโทษหรืออันตรายแก่ร่างกายผู้บริโภค อันเป็นอาหารปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำ ข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แม้มิได้บรรยายว่าเมื่อบริโภคโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากตามฟ้องแล้วจะทำให้ผู้บริโภคได้รับโทษหรืออันตรายอย่างไรก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณาหากจำเลยให้การปฏิเสธ.
เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องของโจทก์ จำเลยทั้งสองจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าโซเดียมจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งมิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องของโจทก์ จำเลยทั้งสองจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าโซเดียมจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งมิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผลิตเครื่องดื่มเกลือแร่เกินมาตรฐานตามกฎหมาย และการรับสารภาพที่ผูกพันในชั้นพิจารณา
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปใจความได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตอาหารประเภทเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดแห่งที่ต้องละลายก่อนบริโภคบรรจุซองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นอาหารควบคุมเฉพาะตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 65(พ.ศ. 2525) ที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของเครื่องดื่มเกลือแร่ 1 ลิตร ต้องมีปริมาณโซเดียม40มิลลิอิควิวาเลนท์ แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ที่จำเลยทั้งสองผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายมีปริมาณโซเดียมมากถึง115 มิลลิอิควิวาเลนท์ ต่อเครื่องดื่มเกลือแร่ 1 ลิตร มีปริมาณโซเดียมเกินกว่าร้อยละ 187.5 จากเกณฑ์สูงสุดตามกฎหมายจึงเป็นอาหารที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ถึงขนาดส่วนประกอบที่เป็นคุณค่าทางอาหารมีปริมาณเกินกว่าร้อยละ 30 จากเกณฑ์สูงสุดและแตกต่างจากคุณภาพหรือมาตรฐานที่ระบุไว้จนทำให้เกิดโทษหรืออันตรายแก่ร่างกายผู้บริโภค อันเป็นอาหารปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แม้มิได้บรรยายว่าเมื่อบริโภคโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากตามฟ้องแล้วจะทำให้ผู้บริโภคได้รับโทษหรืออันตรายอย่างไร ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณาหากจำเลยให้การปฏิเสธ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องของโจทก์จำเลยทั้งสองจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า โซเดียมจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งมิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาหารปลอม: การบรรยายฟ้องที่สมบูรณ์ และการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปใจความได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตอาหารประเภทเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดแห้งที่ต้องละลายก่อนบริโภคบรรจุซองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นอาหารควบคุมเฉพาะตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 65(พ.ศ. 2525) ที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของเครื่องดื่มเกลือแร่ 1 ลิตร ต้องมีปริมาณโซเดียม40มิลลิอิควิวาเลนท์แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ที่จำเลยทั้งสองผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายมีปริมาณโซเดียมมากถึง115มิลลิอิควิวาเลนท์ ต่อเครื่องดื่มเกลือแร่1 ลิตร มีปริมาณโซเดียมเกินกว่าร้อยละ 187.5 จากเกณฑ์สูงสุดตามกฎหมาย จึงเป็นอาหารที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ถึงขนาดส่วนประกอบที่เป็นคุณค่าทางอาหารมีปริมาณเกินกว่าร้อยละ 30 จากเกณฑ์สูงสุดและแตกต่างจากคุณภาพหรือมาตรฐานที่ระบุไว้จนทำให้เกิดโทษหรืออันตรายแก่ร่างกายผู้บริโภคอันเป็นอาหารปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แม้มิได้บรรยายว่าเมื่อบริโภคโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากตามฟ้องแล้วจะทำให้ผู้บริโภคได้รับโทษหรืออันตรายอย่างไร ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณาหากจำเลยให้การปฏิเสธ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องของโจทก์ จำเลยทั้งสองจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า โซเดียมจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งมิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉลากอาหารไม่ถูกต้อง แต่ไม่มีเจตนาหลอกลวง และความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะ
ฉลากอาหารกระป๋องที่จำเลยผลิตไม่ถูกต้องเฉพาะเลขทะเบียนซึ่งระบุที่ฉลากโดยเลขทะเบียนที่ระบุที่ฉลากอาหาร 2 รายการแรกเป็นของผู้อื่นส่วนเลขทะเบียนที่ระบุที่ฉลากอาหาร 3 รายการหลังเป็นของจำเลย แต่เป็นเลขทะเบียนอาหารชนิดอื่นที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารแล้ว ดังนี้จำเลยหามีเจตนาลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่อง คุณภาพ ปริมาณ ประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่างอื่น หรือในเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิตไม่ เพราะไม่อาจทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าวได้อาหารที่มีฉลากดังกล่าวจึงมิใช่เพื่อลวง หรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าว จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25(2),59
ความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะโดยไม่ได้รับอนุญาตกับผลิตอาหารควบคุมเฉพาะไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารไว้ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 31 วรรคหนึ่ง,64 กับมาตรา 34,66 เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว ทั้งการที่จะลงโทษตามบทมาตราดังกล่าวได้ โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องว่าเป็นอาหารควบคุมเฉพาะซึ่งต้องมีฉลากและฉลากนั้นต้องมีเลขทะเบียนตำรับอาหาร.
ความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะโดยไม่ได้รับอนุญาตกับผลิตอาหารควบคุมเฉพาะไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารไว้ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 31 วรรคหนึ่ง,64 กับมาตรา 34,66 เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว ทั้งการที่จะลงโทษตามบทมาตราดังกล่าวได้ โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องว่าเป็นอาหารควบคุมเฉพาะซึ่งต้องมีฉลากและฉลากนั้นต้องมีเลขทะเบียนตำรับอาหาร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉลากอาหารไม่ถูกต้อง, เลขทะเบียนผิด, ไม่มีเจตนาลวง, ความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะ
ฉลากอาหารกระป๋องที่จำเลยผลิตไม่ถูกต้องเฉพาะเลขทะเบียนซึ่งระบุที่ฉลากโดยเลขทะเบียนที่ระบุที่ฉลากอาหาร 2 รายการแรกเป็นของผู้อื่นส่วนเลขทะเบียนที่ระบุที่ฉลากอาหาร 3 รายการหลังเป็นของจำเลย แต่เป็นเลขทะเบียนอาหารชนิดอื่นที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารแล้ว ดังนี้จำเลยหามีเจตนาลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่อง คุณภาพ ปริมาณ ประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่างอื่น หรือในเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิตไม่ เพราะไม่อาจทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าวได้อาหารที่มีฉลากดังกล่าวจึงมิใช่เพื่อลวง หรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าว จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25 (2), 59
ความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะโดยไม่ได้รับอนุญาตกับผลิตอาหารควบคุมเฉพาะไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารไว้ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 31 วรรคหนึ่ง, 64 กับมาตรา 34, 66 เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว ทั้งการที่จะลงโทษตามบทมาตราดังกล่าวได้ โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องว่าเป็นอาหารควบคุมเฉพาะซึ่งต้องมีฉลากและฉลากนั้นต้องมีเลขทะเบียนตำหรับอาหาร
ความผิดฐานผลิตอาหารควบคุมเฉพาะโดยไม่ได้รับอนุญาตกับผลิตอาหารควบคุมเฉพาะไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับอาหารไว้ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 31 วรรคหนึ่ง, 64 กับมาตรา 34, 66 เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว ทั้งการที่จะลงโทษตามบทมาตราดังกล่าวได้ โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องว่าเป็นอาหารควบคุมเฉพาะซึ่งต้องมีฉลากและฉลากนั้นต้องมีเลขทะเบียนตำหรับอาหาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาหารผิดมาตรฐาน vs. อาหารปลอม: การพิสูจน์โทษต่อสุขภาพและการรับผิดชอบของกรรมการบริษัท
อาหารที่ผลิตขึ้นตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25(2)ประกอบกับมาตรา 27(5) จะถึงขั้นเป็นอาหารปลอมต่อเมื่ออาหารที่ผลิตขึ้นนั้นแตก ต่างไปจากคุณภาพ หรือมาตรฐานตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขจนทำให้เกิดโทษหรือเป็นอันตรายเมื่อพยานโจทก์ไม่ยืนยันว่าอาหารที่จำเลยผลิตขึ้นจะเป็นโทษต่อร่างกายหรือจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาหารดังกล่าวจึงมิใช่อาหารปลอม เป็นแต่เพียงอาหารผิดมาตรฐาน ตามมาตรา 25(3)ประกอบกับมาตรา 28 เท่านั้น ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรานี้ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 นิติบุคคลจะดำเนินงานหรือปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ของตนด้วยตนเองมิได้ต้องกระทำโดยผู้แทน จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำเลย ที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินหรือปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 1 กระทำผิดก็ได้ชื่อ ว่าเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3308/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมเป็นความผิดคนละกรรม แม้กระทำพร้อมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจผลิตอาหารปลอมโดยผลิตซอสน้ำมันหอยที่ผสมปรุงแต่งและทำขึ้นเทียมซอสน้ำมันหอยตราชาวประมงที่อ.ผลิตทำขึ้นและทำออกจำหน่ายเป็นอาหารแท้อย่างนั้นซอสน้ำมันหอยที่จำเลยผลิตขึ้นนั้นมีคุณภาพและมาตรฐานไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขโดยมีจำนวนจุลินทรีย์เกินมาตรฐานที่กำหนดและใช้กรดเบนโซอิคเป็นวัตถุกันเสียเกินปริมาณกำหนดจนทำให้เกิดโทษและอันตรายแก่ผู้บริโภคและจำเลยได้นำอาหารที่ผลิตขึ้นนั้นแบ่งบรรจุขวดแล้วนำฉลากเครื่องหมายการค้าที่จำเลยทำปลอมขึ้นปิดที่ขวดเพื่อลวงหรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณภาพปริมาณและประโยชน์ว่าอาหารดังกล่าวเป็นซอสน้ำมันหอยตราชาวประมงที่แท้จริงที่อ.ผลิตขึ้นคำบรรยายฟ้องดังกล่าวจึงครบถ้วนตามความหมายของอาหารปลอมตามพระราชบัญญัติอาหารพ.ศ.2522มาตรา27(2),(5)และ(4)แล้วและได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่สมบูรณ์. ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยผลิตอาหารโดยมีจำนวนจุลินทรีย์เกินกำหนดมาตรฐานและใช้กรดเบ็นโซอิคเป็นวัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กำหนดจนทำให้เกิดโทษและอันตรายแก่ผู้บริโภคได้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่ามีจำนวนจุลินทรีย์เท่าใดและใช้กรดเบ็นโซอิคจำนวนเท่าใดเพราะเป็นข้อเท็จจริงที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณาเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ. ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานผลิตอาหารปลอมตามพระราชบัญญัติอาหารเป็นความผิดตามกฎหมายคนละฉบับและแยกจากกันได้แม้จำเลยจะกระทำในเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3308/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานผลิตอาหารปลอมและปลอมเครื่องหมายการค้าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ฟ้องชัดเจนครบถ้วน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจผลิตอาหารปลอม โดยผลิตซอสน้ำมันหอยที่ผสมปรุงแต่ง และทำขึ้นเทียมซอสน้ำมันหอยตราชาวประมงที่ อ.ผลิตทำขึ้น และทำออกจำหน่ายเป็นอาหารแท้อย่างนั้น ซอสน้ำมันหอยที่จำเลยผลิตขึ้นนั้นมีคุณภาพและมาตรฐานไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีจำนวนจุลินทรีย์เกินมาตรฐานที่กำหนด และใช้กรดเบนโซอิคเป็นวัตถุกันเสียเกินปริมาณกำหนด จนทำให้เกิดโทษและอันตรายแก่ผู้บริโภค และจำเลยได้นำอาหารที่ผลิตขึ้นนั้นแบ่งบรรจุขวด แล้วนำฉลากเครื่องหมายการค้าที่จำเลยทำปลอมขึ้นปิดที่ขวด เพื่อ ลวง หรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณภาพ ปริมาณ และประโยชน์ว่า อาหารดังกล่าวเป็นซอสน้ำมันหอยตราชาวประมงที่แท้จริงที่ อ.ผลิตขึ้น คำบรรยายฟ้องดังกล่าว จึงครบถ้วนตามความหมายของอาหารปลอม ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 27 (2), (5) และ (4) แล้ว และได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เป็นฟ้องที่สมบูรณ์.
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยผลิตอาหารโดยมีจำนวนจุลินทรีย์เกินกำหนดมาตรฐานและใช้กรดเบ็นโซอิคเป็นวัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กำหนดจนทำให้เกิดโทษและอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่ามีจำนวนจุลินทรีย์เท่าใดและใช้กรดเบ็นโซอิคจำนวนเท่าใดเพราะเป็นข้อเท็จจริงที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณาเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ
ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานผลิตอาหารปลอมตามพระราชบัญญัติอาหาร เป็นความผิดตามกฎหมายคนละฉบับและแยกจากกันได้ แม้จำเลยจะกระทำในเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรม
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยผลิตอาหารโดยมีจำนวนจุลินทรีย์เกินกำหนดมาตรฐานและใช้กรดเบ็นโซอิคเป็นวัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กำหนดจนทำให้เกิดโทษและอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่ามีจำนวนจุลินทรีย์เท่าใดและใช้กรดเบ็นโซอิคจำนวนเท่าใดเพราะเป็นข้อเท็จจริงที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณาเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ
ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานผลิตอาหารปลอมตามพระราชบัญญัติอาหาร เป็นความผิดตามกฎหมายคนละฉบับและแยกจากกันได้ แม้จำเลยจะกระทำในเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรม