พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3912/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นตรวจค้นสถานที่พักอาศัย: การค้นที่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อผู้ครอบครองสถานที่อยู่ด้วย และการยกประโยชน์แห่งความสงสัย
มาตรา 102 บัญญัติให้เจ้าพนักงานค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้นหรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งเจ้าพนักงานได้ร้องขอมาเป็นพยาน ดังนี้ แม้ขณะเริ่มลงมือค้นเจ้าพนักงานตำรวจจัดให้ จ. ซึ่งมิใช่บุคคลในครอบครัวจำเลยที่ 2 เป็นพยานในการค้นห้องจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียวเพราะจำเลยที่ 2 ไม่อยู่ก็ตาม แต่ระหว่างค้นจำเลยที่ 2 ได้กลับมานำเจ้าพนักงานตำรวจค้นห้องจำเลยที่ 2 ด้วยตนเองต่อไปจนกระทั่งค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลาง จึงถือว่าเจ้าพนักงานทำการค้นห้องจำเลยที่ 2 ต่อหน้าจำเลยที่ 2 ผู้ครอบครองสถานที่ตามมาตรา 102 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4793/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นพบของกลางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 102 ทำให้พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
การค้นพบธนบัตรของกลางในข้องปลาที่แขวนอยู่ข้างบ้านทิศตะวันออก นอกจากมิได้กระทำต่อหน้าจำเลยหรือสามีจำเลย ทั้งๆ ที่จำเลยก็ถูกจับและควบคุมตัวอยู่ที่หน้าบ้านนั้นเองแล้ว ยังได้ความว่าการพบธนบัตรในข้องปลาก็เป็นเรื่องที่ในชั้นแรกสิบตำรวจตรี พ. ค้นพบเพียงคนเดียวก่อน แล้วจึงเรียกกำนันที่เชิญมาเป็นพยานในการค้นมาดู หาใช่ว่าเป็นการค้นพบธนบัตรของกลางที่พบต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยานดังที่ ป.วิ.อ. มาตรา 102 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ไม่ พยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับการค้นพบธนบัตรของกลางซึ่งเจ้าพนักงานผู้ตรวจค้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่ศาลจะรับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2892/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การตรวจค้น, การรับของกลางหลายครั้ง, และการบันทึกการจับกุม/ตรวจค้น
ร.ต.อ.อุทัยได้ทำการตรวจค้นบริเวณด้านหลังอู่ที่พบชิ้นส่วนเครื่องรับวิทยุของกลางภายหลังวันที่จำเลยที่ 1 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนแล้ว จึงมิใช่กรณีของการค้นที่อยู่ของผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมหรือขังอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 102 วรรคสอง แต่เป็นการค้นตามมาตรา 102 วรรคแรก และ ร.ต.อ.อุทัยก็ได้แสดงหมายค้นและค้นต่อหน้าผู้ครอบครองดูแลอู่ในขณะนั้นและได้ทำบันทึกการตรวจค้นโดยมีรายละเอียดสิ่งของที่ค้นพบรวมถึงกล่องวิทยุที่ถูกเผาให้ผู้ครอบครองดูแลอู่ลงชื่อไว้แล้ว การตรวจค้นของ ร.ต.อ.อุทัยจึงชอบด้วยมาตรา 102 จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 รับเอาทรัพย์ของกลางทั้งหมดไว้ในครอบครอง และจากพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1กับพวกได้ร่วมกันแยกเอาชิ้นส่วนออกและพ่นสีรถใหม่ รวมทั้งทำลายหลักฐานบางส่วนโดยการเผา แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 กับพวกทราบดีแล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานรับของโจร ความผิดฐานรับของโจรนั้น อาจเกิดขึ้นหลายครั้งในวันเดียวกันได้ หากจำเลยรับทรัพย์ของกลางไว้หลายคราวและต่างเวลากัน และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ยอมรับว่าจำเลยที่ 1ได้รับเอาทรัพย์ของกลางตามที่โจทก์ฟ้องทุกคดีในคราวเดียวกันอันจะเป็นความผิดกรรมเดียวแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนหรือฟ้องซ้ำกับคดีอื่นที่โจทก์ได้ฟ้องจำเลยแล้ว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำบันทึกการจับกุมในสถานที่ที่จับกุมหรือตรวจค้น อีกทั้งได้ความว่าจำเลยที่ 1 กับพวกถูกจับกุมในสถานที่ต่างกันในเวลาไล่เลี่ยกัน การทำบันทึกการจับกุมที่สถานีตำรวจจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมแล้ว และเนื่องจากเป็นการบันทึกการจับกุม มิใช่บันทึกการตรวจค้น จึงไม่จำต้องบันทึกของกลางที่ตรวจพบไว้โดยละเอียด เพียงแต่บันทึกของกลางที่ตรวจพบหรือทำบัญชีของกลางไว้ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 103 พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายวัตถุของกลางให้จำเลยที่ 1ดูแล้ว ทั้งจำเลยที่ 1 มิได้ร้องขอดูวัตถุของกลางโดยตรงจึงนับว่าเพียงพอและไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 242แต่อย่างใด และเนื่องจากวัตถุของกลางเป็นรถยนต์และชิ้นส่วนของรถยนต์ ย่อมไม่สะดวกที่จะบรรจุหีบห่อและตีตราไว้ แต่การที่เจ้าพนักงานตำรวจได้บันทึกภาพวัตถุของกลางดังกล่าวไว้นั้นถือได้ว่าได้ทำเครื่องหมายไว้เป็นสำคัญแก่วัตถุของกลางนั้นชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 101 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5455/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้นในกรณีฉุกเฉินและอำนาจเจ้าพนักงานตำรวจชั้นผู้ใหญ่
สารวัตรสืบสวนสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทำการตรวจค้นได้ในเมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่าสิ่งของที่ได้มาโดยการกระทำผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในที่รโหฐาน และถ้ากรณีมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าหากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมา ตรวจค้นในวันรุ่งขึ้นสิ่งของเหล่านั้นจะถูกโยกย้ายเสียก่อน และพยานหลักฐานสำคัญจะสูญหาย กรณีมีเหตุฉุกเฉินอย่างยิ่ง ฉะนั้นการค้นของสารวัตรสืบสวนสอบสวนแม้จะไม่มีหมายค้นและตรวจค้นในเวลากลางคืนก็อาจจะทำการค้นได้ ของกลางจำนวนมากเป็นชิ้นส่วนรถที่ได้จากที่รโหฐาน ซึ่งได้มีการตรวจสอบกันแล้ว และให้จำเลยรับรองไว้ว่าของกลางต่าง ๆ นั้นค้นได้ที่ที่รโหฐานดังกล่าวซึ่งจำเลยก็ได้ลงชื่อรับรองความถูกต้องไว้ตามบัญชีของกลาง ของกลางอันเป็นพยานวัตถุเหล่านี้จึงใช้ยันจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5455/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้นในเหตุฉุกเฉิน และการใช้ของกลางเป็นหลักฐาน
พฤติการณ์ที่พวกของจำเลยนำชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ที่ได้มาโดยการกระทำผิดบรรทุกรถยนต์ออกจากโกดังที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม โดยภายในโกดังที่เกิดเหตุมีการขน ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ตัดเป็นชิ้นแล้วบรรทุกรถยนต์กระบะอีกคันหนึ่งซึ่ง สามารถขับขนย้ายออกไปได้โดยง่าย มีเหตุผลเชื่อได้ว่าหากเนิ่นช้า กว่าจะเอาหมายค้นมาทำการตรวจค้นในวันรุ่งขึ้น สิ่งของดังกล่าว จะถูกโยกย้ายเสียก่อน และพยานหลักฐานสำคัญจะสูญหาย กรณีมีเหตุ ฉุกเฉินอย่างยิ่งพันตำรวจโท ป. ตำแหน่งสารวัตรสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชั้นผู้ใหญ่ย่อมทำการตรวจค้นโกดังที่ เกิดเหตุในเวลากลางคืนโดยไม่มีหมายค้นได้ ของกลางจำนวนมากเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่ได้จากโกดังที่เกิดเหตุได้มีการตรวจสอบและให้จำเลยลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องไว้ในบัญชีของกลางแล้ว ย่อมใช้ยันจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4791/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้นของเจ้าพนักงาน เมื่อมีเหตุเชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่
สารวัตรตำรวจและสารวัตรปกครองป้องกันเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(17)จึงมีอำนาจตรวจคนโดยไม่ต้องมีหมายค้นตามมาตรา 92 วรรคสุดท้าย เมื่อมีเหตุให้เชื่อได้ว่ามีของที่ได้มาโดยผิดกฎหมายอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ หากไม่ทำการตรวจค้นเสียในวันเกิดเหตุ ของที่อยุ่ในบ้านอาจถูกขนไปเสีย การตรวจค้นต่อหน้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองบ้านที่เกิดเหตุและโดยไม่ทำลายกุญแจก็ไม่อาจทำได้ ทั้งการตรวจค้นของจำเลยซึ่งเป็นสารวัตรตำรวจได้กระทำต่อหน้าพยานสองคน การตรวจค้นของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 92,94 และ 102 จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,358,362,364,365(2) เมื่อจำเลยมีอำนาจค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้น และมีพฤติการณ์ที่จะออกหมายค้นและทำการค้นได้ ดังนั้นหมายค้นจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ไม่ทำให้จำเลยไม่มีอำนาจค้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นที่รโหฐาน: การค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นที่เจ้าพนักงานขอร้องเป็นพยาน ถือเป็นการชอบ
การค้นในที่รโหฐานนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 102 บัญญัติให้ทำการค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น เท่าที่สามารถจะทำได้ หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อย 2 คน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าสามารถทำการค้นได้ต่อหน้าคนอื่น ฉะนั้น การที่จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำการค้นบ้านโจทก์ต่อหน้ามารดาโจทก์และบุคคลอื่นอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งจำเลยขอร้องมาเป็นพยาน จึงอาจเป็นกรณีที่จำเลยกระทำเท่าที่สามารถจะทำได้ และไม่อาจจะหาบุคคลอื่นใดมาเป็นพยานในการค้นของจำเลยมากไปกว่านั้น ถือได้ว่าเป็นการค้นที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นในที่รโหฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ครอบครองมีข้อจำกัดทางร่างกาย
การค้นในที่รโหฐานนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 102 บัญญัติให้ทำการค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น เท่าที่สามารถจะทำได้ หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอย่างอื่น 2 คน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าสามารถทำการค้นได้ต่อหน้าคนอื่น ฉะนั้น การที่จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำการค้นบ้านโจทก์ต่อหน้ามารดาโจทก์และบุคคลอื่นอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งจำเลยขอร้องมาเป็นพยาน จึงอาจเป็นกรณีที่จำเลยกระทำเท่าที่สามารถจะทำได้ และไม่อาจหาบุคคลอื่นใดมาเป็นพยานในการค้นของจำเลยมากไปกว่านั้น ถือได้ว่าเป็นการค้นที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งออกยาสูบโดยไม่ได้รับอนุญาต และประเด็นการตรวจค้นที่ไม่เป็นไปตามวิธีพิจารณาความอาญา
กรนีที่ถือว่าฟ้องโจทไม่เคลือบคลุมพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุลกากรเปนผู้ตรวดค้นของกลาง และมิได้ทำการบันทึกการตรวดค้นตามวิธีการแห่งประมวนกดหมายวิธีพิจารนาความอาญาดังนี้ โจทนำพยานบุคคลที่รู้เห็นเข้าสืบได้เพราะการตรวดค้นได้กะทำโดยอำนาดของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุลกากรตามกดหมายสุลกากร
ตามฟ้องกล่าวว่าเหตุเกิดเวลา 18.00 น. เสสทางพิจารนาปรากตว่าเหตุเกิดเวลา 17.00น. เสสดั่งนี้ เปนการประมานเวลาไกล้เคียงกัน เรียกไม่ได้ว่าข้อเท็ดจิงต่างกัน
จำเลยนำยาสูบออกไปยังสถานีปะดังเบซานอกราชอานาจักรโดยมิได้รับอนุญาตจากรัถมนตรีกะซวงพานิชหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเปนเจ้าพนักงาน ดั่งนี้ ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปและนำเข้ามาไนราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง
ตามฟ้องกล่าวว่าเหตุเกิดเวลา 18.00 น. เสสทางพิจารนาปรากตว่าเหตุเกิดเวลา 17.00น. เสสดั่งนี้ เปนการประมานเวลาไกล้เคียงกัน เรียกไม่ได้ว่าข้อเท็ดจิงต่างกัน
จำเลยนำยาสูบออกไปยังสถานีปะดังเบซานอกราชอานาจักรโดยมิได้รับอนุญาตจากรัถมนตรีกะซวงพานิชหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเปนเจ้าพนักงาน ดั่งนี้ ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปและนำเข้ามาไนราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้นพบของกลางที่บ้านจำเลย แม้มิได้ทำบันทึกการค้น แต่พยานบุคคลยืนยันได้ ศาลลงโทษได้
เจ้าพนักงานไปค้นและได้ของกลางจากบ้านจำเลยโดยมิได้ทำบันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและส่งของที่ค้นได้นั้นถ้าพะยานบุคคลของโจทก์ฟังได้ว่าค้นของกลางได้จากบ้านจำเลยแล้วศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้