พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7407/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาซื้อขายและการรับรองการไม่มีภาระติดพัน การฟ้องผิดสัญญาต่างจากการฟ้องเรื่องรอนสิทธิ
โจทก์ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามข้อตกลงในสัญญาที่จำเลยทั้งสองผิดสัญญารับรองกับโจทก์ว่าไม่มีการรอนสิทธิ โดยโจทก์มิได้ฟ้องร้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดเพราะการรอนสิทธิ การฟ้องร้องว่าจำเลยทั้งสองผิดสัญญาเรียกค่าเสียหายในกรณีเช่นนี้ ไม่มีบทบัญญัติกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องถือบทบัญญัติอายุความทั่วไปคือ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5366/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองกรรมสิทธิ์โดยปริยายและความรับผิดในสัญญาซื้อขาย
การที่จำเลยนำรถยนต์มาขายให้แก่โจทก์เท่ากับว่าจำเลยผู้ขายได้รับรองโดยปริยายว่า จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่นำมาขาย เมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่มีและไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นให้แก่โจทก์ได้ จึงเป็นการผิดสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากโจทก์ต้องชำระเงินจำนวน 240,000 บาท คืนให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไปจากโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ หาใช่การฟ้องคดีในข้อรับผิดเพื่อการรอนสิทธิอันมีอายุความ 3 เดือน ตามมาตรา 481แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ การฟ้องคดีเช่นนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความทั่วไป 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5366/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาซื้อขายรถยนต์ และอายุความฟ้องเรียกค่าเสียหาย ไม่ใช่การรอนสิทธิ
การที่จำเลยนำรถยนต์มาขายให้แก่โจทก์เท่ากับว่าจำเลยผู้ขายได้รับรองโดยปริยายว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่นำมาขายเมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่มีและไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นให้แก่โจทก์ได้จึงเป็นการผิดสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากโจทก์ต้องชำระเงินจำนวน240,000บาทคืนให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไปจากโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้หาใช่การฟ้องคดีในข้อรับผิดเพื่อการรอนสิทธิอันมีอายุความ3เดือนตามมาตรา481แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่การฟ้องคดีเช่นนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความทั่วไป10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4366/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาซื้อขายรถยนต์ และอายุความฟ้องเรียกค่าเสียหาย กรณีผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
การที่จำเลยนำรถยนต์มาขายให้แก่โจทก์ทั้งสองเท่ากับว่าจำเลยผู้ขายได้รับรองโดยปริยายแก่โจทก์ทั้งสองว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่นำมาขายเมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่มีและไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ให้แก่โจทก์ทั้งสองได้จึงเป็นการผิดสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ทั้งสองเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายเนื่องจากต้องชำระเงินคืนให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไปจากโจทก์ทั้งสองโจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้หาใช่การฟ้องคดีในข้อรับผิดเพื่อการรอนสิทธิอันมีอายุความ3เดือนตามมาตรา481แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่การฟ้องคดีเช่นนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความทั่วไป10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164เดิม(มาตรา193/30ที่ตรวจชำระใหม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4995/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาซื้อขายรถยนต์ที่ถูกลักมา และการบอกกล่าวหนี้ กรณีผู้ขายไม่สามารถส่งมอบรถได้
จำเลยไม่มีอำนาจขายรถยนต์ที่ถูกลักมาให้โจทก์ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์ไป หากโจทก์และผู้ซื้อรถยนต์ต่อจากโจทก์ไม่ยอมให้ยึดก็อาจมีความผิดในทางอาญาและโจทก์ ต้องคืนเงินค่ารถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อเพราะโจทก์ผู้ขายไม่สามารถ จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อไปยังผู้ซื้อได้ และไม่มีเหตุจะอ้าง ยึดถือเงินค่ารถยนต์ของผู้ซื้อไว้ กรณีไม่เป็นการยอมตามที่ บุคคลภายนอกเรียกร้อง ความรับผิดของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับอายุความสามเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 481 แต่อยู่ในบังคับอายุความทั่วไปตามมาตรา 193/30ซึ่งมีอายุความสิบปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์มิได้บอกกล่าวก่อนฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาซื้อขายรถยนต์ แต่การที่ ช. บุตรหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์โทรศัพท์แจ้งจำเลยว่ารถยนต์ถูกเจ้าพนักงาน ตำรวจยึดไปเพราะเป็นรถยนต์ที่ถูกลักมา จำเลยทราบแล้วนิ่งเฉยจนโจทก์ยื่นฟ้อง ถือได้ว่าโจทก์ได้ถูกโต้แย้งสิทธิแล้ว คำฟ้องโจทก์เป็นการบอกกล่าวจำเลยอยู่ในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4995/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีซื้อขายรถยนต์ที่ถูกลักมา: ไม่เข้าอายุความสั้นสามเดือน แต่เข้าอายุความทั่วไปสิบปี
จำเลยไม่มีอำนาจขายรถยนต์ที่ถูกลักมาให้โจทก์เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์ไปหากโจทก์และผู้ซื้อรถยนต์ต่อจากโจทก์ไม่ยอมให้ยึดก็อาจมีความผิดในทางอาญาและโจทก์ต้องคืนเงินค่ารถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อเพราะโจทก์ผู้ขายไม่สามารถจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อไปยังผู้ซื้อได้และไม่มีเหตุจะอ้างยึดถือเงินค่ารถยนต์ของผู้ซื้อไว้กรณีไม่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องความรับผิดของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับอายุความสามเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา481แต่อยู่ในบังคับอายุความทั่วไปตามมาตรา193/30ซึ่งมีอายุความสิบปีคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์มิได้บอกกล่าวก่อนฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาซื้อขายรถยนต์แต่การที่ช. บุตรหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์โทรศัพท์แจ้งจำเลยว่ารถยนต์ถูกเจ้าพนักงานตำรวจยึดไปเพราะเป็นรถยนต์ที่ถูกลักมาจำเลยทราบแล้วนิ่งเฉยจนโจทก์ยื่นฟ้องถือได้ว่าได้ถูกโต้แย้งสิทธิแล้วคำฟ้องโจทก์เป็นการบอกกล่าวจำเลยอยู่ในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2053/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิจากการซื้อขายรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม แม้ผู้ขายไม่ทราบเหตุ ผู้ขายก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยผู้ขายต้องรับผิดในการ รอนสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา475แม้จะไม่ทราบถึงเหตุแห่งการรอนสิทธิก็ตามและเมื่อโจทก์จำต้องยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์พิพาทซึ่งซื้อมาจากจำเลยไปเพราะเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาความรับผิดของจำเลยดังกล่าวจึงไม่อยู่ในบังคับ อายุความฟ้องร้องตามมาตรา481แต่มีอายุความ10ปีตามมาตรา193/30
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิจากการซื้อขายรถยนต์ที่ผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ และอายุความฟ้องคดี
โจทก์ตกลงซื้อรถยนต์จากจำเลยทั้งสอง แต่ขณะที่จำเลยทั้งสองโอนรถยนต์ให้กับโจทก์นั้น บุคคลอื่นเป็นเจ้าของ มิใช่จำเลยทั้งสองต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถยนต์ไปเป็นของกลางเพื่อคืนให้แก่เจ้าของเดิม ถือว่าโจทก์ถูกรอนสิทธิ รถยนต์ที่โจทก์ซื้อจากจำเลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไปทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ได้ ต้องเช่ารถผู้อื่นมาใช้แทนนับได้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์แล้ว โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้นับตั้งแต่วันที่ถูกยึดไปและสามารถคิดดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวได้ ไม่เป็นการคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อน โจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะคาดคิดได้ว่าถ้าโจทก์ไม่ยอมให้ยึดรถยนต์ โจทก์อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ไม่ใช่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง ซึ่งมีอายุความ 3 เดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 481 ต้องใช้อายุความธรรมดา10 ปี ตามมาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิจากรถยนต์ที่มีเจ้าของเดิม การคิดดอกเบี้ยค่าเสียหาย และอายุความ
โจทก์ตกลงซื้อรถพิพาทจากจำเลยทั้งสอง เมื่อปรากฏว่าขณะที่จำเลยทั้งสองโอนรถพิพาทให้กับโจทก์นั้น บริษัทสยามกลการ จำกัด เป็นเจ้าของรถพิพาท มิใช่จำเลยทั้งสอง ต่อมารถพิพาทถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไปเป็นของกลางเพื่อคืนให้แก่เจ้าของเดิม ถือว่าโจทก์ถูกรอนสิทธิแล้ว
รถพิพาทถูกยึดไปทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้รถพิพาทได้ นับได้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์แล้ว โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้นับตั้งแต่วันที่รถพิพาทถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไป และสามารถคิดดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวได้ ไม่เป็นการคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อนแต่อย่างใด
โจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะคาดคิดได้ว่าถ้าโจทก์ไม่ยอมให้ยึดรถพิพาท โจทก์อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม กรณีหาใช่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง ซึ่งมีอายุความ 3 เดือนดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 481 ไม่ ต้องใช้อายุความธรรมดา 10 ปี ตามมาตรา 164
รถพิพาทถูกยึดไปทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้รถพิพาทได้ นับได้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์แล้ว โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้นับตั้งแต่วันที่รถพิพาทถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไป และสามารถคิดดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวได้ ไม่เป็นการคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อนแต่อย่างใด
โจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะคาดคิดได้ว่าถ้าโจทก์ไม่ยอมให้ยึดรถพิพาท โจทก์อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม กรณีหาใช่เป็นการยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง ซึ่งมีอายุความ 3 เดือนดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 481 ไม่ ต้องใช้อายุความธรรมดา 10 ปี ตามมาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความรับผิดจากการซื้อขายรถยนต์คันที่ถูกลักมา: มาตรา 481 vs. มาตรา 164
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายรถยนต์ให้โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าเป็นรถยนต์ของผู้อื่นที่ถูกคนร้ายลักไป เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ยึดรถยนต์ไปจากโจทก์ ขอให้จำเลยใช้ราคารถยนต์พร้อมด้วยค่าเสียหายจำเลยให้การว่า โจทก์ถูกรอนสิทธิเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2526แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดคดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว แม้คำให้การของจำเลยจะไม่ระบุระยะเวลาที่เป็นอายุความไว้ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติเรื่องอายุความรับผิดในการรอนสิทธิไว้ในลักษณะซื้อขาย มาตรา 481เพียงมาตราเดียว โดยกำหนดอายุความไว้สามเดือน จึงพอถือได้ว่าจำเลยต่อสู้ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความในเรื่องความรับผิดในการรอนสิทธิแล้ว การที่จะนำอายุความสามเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 481 มาใช้บังคับนั้น ข้อเท็จจริงต้องได้ความว่า โจทก์ได้ประนีประนอมยอมความคืนรถยนต์ให้แก่บุคคลภายนอก หรือยอมคืนรถยนต์ให้ตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง การที่รถยนต์ถูกเจ้าพนักงานตำรวจยึดเนื่องจากเป็นรถยนต์ของผู้อื่นที่ถูกลักมาจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง ความรับผิดของจำเลยผู้ขายจึงไม่ตกอยู่ในบังคับอายุความตามมาตรา 481แต่ต้องตกอยู่ในอายุความทั่วไปตามมาตรา 164 ซึ่งมีอายุความสิบปี