คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 52 (2)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10282/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษทางอาญา: การพิจารณาโทษฐานต่างๆ และข้อยกเว้นการเพิ่มโทษในความผิดร้ายแรง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม ป.อ. มาตรา 289 (4), 289 (4) ประกอบมาตรา 80, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา 91 โดยให้เพิ่มโทษทุกฐานความผิดกระทงละหนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 92 แต่ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนต้องระวางโทษประหารชีวิต ไม่อาจเพิ่มโทษได้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้ทุกฐานความผิดกระทงละกึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 โดยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนให้จำคุกตลอดชีวิตตาม ป.อ. 52 (2) เมื่อรวมโทษทุกฐานกระทงความผิดแล้ว คงลงโทษจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชัดแจ้งอยู่แล้วว่าให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ทุกฐานความผิด เพียงแต่ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งต้องโทษประหารชีวิตนั้น ไม่อาจเพิ่มโทษได้เท่านั้น จึงไม่ต้องอธิบายคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9121/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) และการคำนวณโทษกึ่งหนึ่งเมื่อกระสุนด้าน
ตาม ป.อ. มาตรา 289 (4) ต้องระวางโทษประหารชีวิต การคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตอย่างใดกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ จึงต้องนำ ป.อ. มาตรา 52 (2) มาใช้ในการกำหนดโทษ โทษกึ่งหนึ่งที่จะลงแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 คือ โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบปีถึงห้าสิบปี ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตลอดชีวิตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นก่อนลดมาตราส่วนโทษหนึ่งในสามเป็นจำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน นั้น เป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดสำหรับความผิดนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4825/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษหลายกระทง, ลดโทษที่ถูกต้อง, และการลงโทษปรับควบคู่จำคุกในคดีอาญา
บทบัญญัติ ป.วิ.อ. มาตรา 134/1 วรรคหนึ่ง เพิ่งจะบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 22)ฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 23 ธันวาคม 2547 แต่คดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 พนักงานสอบสวนทำการสอบคำให้การจำเลยทั้งสองซึ่งมีอายุ 48 ปี และ 37 ปี ตามลำดับ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่มาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะใช้บังคับ จึงไม่อาจนำบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้ย้อนหลังดังนั้น การสอบสวนและจัดทำบันทึกการสอบสวนจำเลยที่ 1 ซึ่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายเดิมย่อมชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้นแล้ว
จำเลยทั้งสองกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลชั้นต้นรวมโทษทุกกระทงแล้วจึงลดโทษให้จำเลยทั้งสองแทนที่จะลดโทษแต่ละกระทงก่อนแล้วจึงรวมโทษ ทั้งอัตราโทษสูงสุดที่จะลงแก่จำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 91 นั้นถ้าเป็นกรณีที่มีการเพิ่มโทษหรือลดโทษแล้วจะต้องมีการเพิ่มโทษหรือลดโทษก่อน มิใช่ต้องปรับบทมาตรา 91 เสียก่อนแล้วจึงจะเพิ่มโทษหรือลดโทษ การที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเดินทางไปนอกราชอาณาจักรปรับคนละ 1,000 บาท ฐานเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายและฐานมีเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำเลยทั้งสองให้ประหารชีวิต รวมโทษจำเลยทั้งสองทุกกระทงแล้ว คงประหารชีวิตสถานเดียวแล้วลดโทษให้จำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (1) หนึ่งในสาม และมาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) กึ่งหนึ่ง ตามลำดับ เป็นจำคุกตลอดชีวิต และศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืนเป็นการไม่ชอบเพราะไม่ได้ลดโทษก่อนตามมาตรา 78 แล้วจึงรวมโทษตามมาตรา 91 นอกจากนี้โทษปรับมิใช่การจำคุกดังนั้น แม้จะจำคุตลอดชีวิตแล้วก็ปรับได้ด้วยไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 91 ที่ศาลล่างทั้งสองไม่ได้ลงโทษปรับย่อมเป็นการไม่ชอบ แต่อย่างไรก็ตามศาลฎีกาก็ไม่อาจลงโทษปรับจำเลยทั้งสองได้เนื่องจากเป็นการเพิ่มเติมโทษซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12477/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด: ศาลฎีกาพิพากษาว่าการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตเหมาะสมกับพฤติการณ์ร้ายแรงของคดี
ตาม ป.อ. มาตรา 52 (2) ในการลดโทษประหารชีวิตถ้าจะลดกึ่งหนึ่ง ให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปี ถึง 50 ปี ซึ่งศาลจะเห็นสมควรลดโทษให้เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดว่าร้ายแรงหรือไม่เพียงใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8944/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษคดีเมทแอมเฟตามีน: ลดโทษจากประหารชีวิตเหลือจำคุก 28 ปี พิจารณาจากปริมาณสารบริสุทธิ์ พฤติการณ์ และการรับสารภาพ
เมทแอมเฟตามีนของกลางที่จำเลยผลิตเพื่อจำหน่ายและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีน้ำหนักทั้งสิ้น 27.320 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 0.375 กรัมและพฤติการณ์แห่งคดีมิใช่ผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณา สมควรกำหนดโทษให้เบาลงเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความผิด วางโทษประหารชีวิต ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงจำคุก 28 ปี และนำโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้ แม้โจทก์มิได้ฎีกาขอให้บวกโทษก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าเมื่ออาวุธปืนไม่สามารถใช้งานได้จริง การกำหนดโทษตาม ป.อ.มาตรา 81
อาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นอาวุธปืนแก๊ปยาว โดยปกติการใช้อาวุธปืนดังกล่าว ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้คือแก๊ปสำหรับจุดระเบิดหากไม่มีการใส่แก๊ปก็ไม่สามารถทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้เลย แม้จำเลยจะได้ใช้อาวุธปืนแก๊ปยาวยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า แต่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า อาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีการใส่แก๊ปปืนไว้แล้ว ดังนี้กระสุนปืนจึงไม่อาจลั่นออกได้อย่างแน่นอนการกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำ เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตาม ป.อ.มาตรา 288ประกอบมาตรา 81 วรรคหนึ่ง
ป.อ.มาตรา 81 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ความผิดตาม ป.อ.มาตรา 288 ซึ่งกำหนดโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี การคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตหรือโทษจำคุกตลอดชีวิต กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้จึงต้องนำ ป.อ.มาตรา 52 (2) และ 53 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดโทษ เมื่อคำนวณแล้วย่อมมากกว่าโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี ส่วนโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี ก็คือโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี 6 เดือนถึง 10 ปี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยก่อนลดโทษตาม ป.อ.มาตรา 78จำคุก 2 ปี เป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้ ตาม ป.อ.มาตรา288 ประกอบด้วยมาตรา 81 วรรคหนึ่ง หาใช่ว่าจะต้องกำหนดโทษจำคุกจำเลยไม่ต่ำกว่า 7 ปี 6 เดือนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่า: การขาดปัจจัยสำคัญ (แก๊ป) ทำให้การกระทำไม่บรรลุผลทางอาญา
อาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นอาวุธปืนแก๊ปยาวโดยปกติการใช้อาวุธปืนดังกล่าวปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้คือแก๊ปสำหรับจุดระเบิดหากไม่มีการใส่แก๊ปก็ไม่สามารถทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้เลยแม้จำเลยจะได้ใช้อาวุธปืนแก๊ปยาวยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าแต่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีการใส่แก๊ปปืนไว้แล้วดังนี้กระสุนปืนจึงไม่อาจลั่นออกได้อย่างแน่นอนการกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288ประกอบมาตรา81วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา81วรรคหนึ่งกำหนดให้ลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288ซึ่งกำหนดโทษประหารชีวิตจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่15ปีถึง20ปีการคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตหรือโทษจำคุกตลอดชีวิตกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา52(2)และ53มาใช้เป็นหลักในการกำหนดโทษเมื่อคำนวณแล้วย่อมมากกว่าโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่15ปีถึง20ปีส่วนโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่15ปีถึง20ปีก็คือโทษจำคุกตั้งแต่7ปี6เดือนถึง10ปีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยก่อนลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา78จำคุก2ปีเป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288ประกอบด้วยมาตรา81วรรคหนึ่งหาใช่ว่าจะต้องกำหนดโทษจำคุกจำเลยไม่ต่ำกว่า7ปี6เดือนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่า: การที่อาวุธปืนแก๊ปยาวไม่ลั่นเนื่องจากไม่มีแก๊ป เป็นเหตุให้การกระทำไม่บรรลุผล
อาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นอาวุธปืนแก๊ปยาว โดยปกติการใช้อาวุธปืนดังกล่าว ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้คือแก๊ปสำหรับจุดระเบิดหากไม่มีการใส่แก๊ปก็ไม่สามารถทำให้กระสุนปืนลั่นออกได้เลย แม้จำเลยจะได้ใช้อาวุธปืนแก๊ปยาวยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า แต่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า อาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีการใส่แก๊ปปืนไว้แล้ว ดังนี้กระสุนปืนจึงไม่อาจลั่นออกได้อย่างแน่นอนการกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำ เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 81 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งกำหนดโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี การคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตหรือโทษจำคุกตลอดชีวิต กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52(2) และ 53 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดโทษ เมื่อคำนวณแล้วย่อมมากกว่าโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี ส่วนโทษกึ่งหนึ่งของโทษจำคุกตั้งแต่15 ปี ถึง 20 ปี ก็คือโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี 6 เดือน ถึง 10 ปีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยก่อนลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุก 2 ปี เป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81 วรรคหนึ่ง หาใช่ว่าจะต้องกำหนดโทษจำคุกจำเลยไม่ต่ำกว่า7 ปี 6 เดือนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือค้ายาเสพติด: ตัวการหรือผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 1 และ บ.เป็นผู้ค้ายาเสพติดให้โทษ จำเลยที่ 3กับพวกนัดพบกันหลายครั้งและจำเลยที่ 3 รับเงินจาก บ.นำไปมอบให้แก่จำเลยที่ 1เพื่อเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดหาลักลอบขนยาเสพติดให้โทษ มีการบรรทุกกระสอบซึ่งบรรจุตะเกียบไปส่งที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 กับที่ตึกแถวที่จำเลยที่ 1เช่า และมีการขนถ่ายสินค้าไปเก็บที่ตึกแถวที่เช่า มีคนงานบรรจุตะเกียบลงกล่องกระดาษและขนกล่องกระดาษใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังท่าเรือคลองเตย เจ้าพนักงาน-ตำรวจติดตามไปและได้ตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว พบเฮโรอีนของกลางอยู่ในกล่องกระดาษ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด จำเลยที่ 3 ต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการ หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดไม่การลดโทษประหารชีวิตให้กึ่งหนึ่ง ศาลจะลดเหลือจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่25 ถึง 50 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 52 (2) ย่อมเป็นดุลพินิจของศาลโดยพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ความร้ายแรงแห่งคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันค้ายาเสพติด: จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานตัวการ ไม่ใช่ผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 1 และ บ.เป็นผู้ค้ายาเสพติดให้โทษ จำเลยที่ 3กับพวกนัดพบกันหลายครั้งและจำเลยที่ 3 รับเงินจาก บ.นำไปมอบให้แก่จำเลยที่ 1เพื่อเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดหาลักลอบขนยาเสพติดให้โทษ มีการบรรทุกกระสอบซึ่งบรรจุตะเกียบไปส่งที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 กับที่ตึกแถวที่จำเลยที่ 1เช่า และมีการขนถ่ายสินค้าไปเก็บที่ตึกแถวที่เช่า มีคนงานบรรจุตะเกียบลงกล่องกระดาษและขนกล่องกระดาษใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังท่าเรือคลองเตย เจ้าพนักงาน-ตำรวจติดตามไปและได้ตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว พบเฮโรอีนของกลางอยู่ในกล่องกระดาษ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด จำเลยที่ 3 ต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการ หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดไม่การลดโทษประหารชีวิตให้กึ่งหนึ่ง ศาลจะลดเหลือจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่24 ถึง 50 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 52 (2) ย่อมเป็นดุลพินิจของศาลโดยพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ความร้ายแรงแห่งคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป
of 2