คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 240

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 248 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุตติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การปฏิบัติตามสัญญา, เบี้ยปรับ, และการลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสัญญาในคดีแพ่งและการฎีกาประเด็นที่เคยอุทธรณ์แล้ว ศาลฎีกาอนุญาตให้ฎีกาได้
โจทก์คัดสำเนาเอกสารส่งศาลพร้อมกับฟ้องและส่งให้จำเลยแล้ว แล้วยื่นต้นฉะบับต่อศาล ในวันสืบพะยานโจทก์ดังนี้ เป็นการชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว
จำเลยได้คัดค้านคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นเคยได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นแล้ว แต่ศาลชั้นต้นไม่รับ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าวนั้น จำเลยก็ยกขึ้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งเอกสารประกอบการฟ้องและการยกข้อคัดค้านคำสั่งระหว่างพิจารณาในชั้นฎีกา
โจทก์คัดสำเนาเอกสารส่งศาลพร้อมกับฟ้องและส่งให้จำเลยแล้วแล้วยื่นต้นฉบับต่อศาล ในวันสืบพยานโจทก์ ดังนี้ เป็นการชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว จำเลยได้คัดค้านคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โดยได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นแล้ว แต่ศาลชั้นต้นไม่รับ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าวนั้น จำเลยก็ยกขึ้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส การพิจารณาหลักฐานและระยะเวลาการสมรส
ประมวนแพ่ง ฯ ม. 1519 ถึง 1524 เปนบทบัญญัติกล่าวถึงเด็กเกิดระหว่างมีการสมรสชอบด้วยกดหมาย ม.1524 จึงเปนเรื่องวางวิธีพิสูจน์การเปนบุตรที่เกิดระหว่างมีการสมรสที่ชอบด้วยกดหมายไม่ไช่เปนบทบัญญัติถึงความสมบูรน์ของการเปนบุตร
ม. 1526 ถึง 1531 บัญญัติถึงเรื่องเด็กเกิดระหว่างที่มิได้มีการสมรสกันตามกดหมาย
กดหมายย่อมรับรองหรือรับรู้แต่ฉเพาะการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมายถ้าหากจะมีการรับรอง
การสมรสที่ไม่สมบูรน์สำหรับกรนีไดก็ย่อมบัญญัติไว้ชัดแจ้งไนบทบัญญัตินั้น ๆ
คำว่าสมรสตาม ม.1526 หมายถึงการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมาย
เด็กที่เกิดจากชายที่มิได้จดทะเบียนสมรสกับหยิงนั้น แม้จะรู้กันทั่วไปว่าเปนบุตรของชายก็ไม่ถือว่าเปนบุตรที่ชอบด้วยกดหมายของชาย
บุตรที่ไม่ชอบด้วยกดหมายไม่มีสิทธิได้รับมรดกของบิดา
สาลอุธรน์ยังมิได้พิจารนาข้อเท็ดจิงอันเปนประเด็นสำคันของคดี สาลดีกาย้อนไปไห้พิจารนาแล้วตัดสินไหม่
กรนีที่โจทดีกาแบะชนะคดีตามข้อดีกา แต่สาลดีกาได้ค่ารีชาทำเนียมและค่าทนายเปนพับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตัดประเด็นในชั้นศาลและการมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น ทำให้ประเด็นนั้นยุติในชั้นอุทธรณ์
ไนคดีที่มีข้อโต้เถียงระหว่างคู่ความพลายข้อ สาลชั้นต้นตัดประเด็นข้ออื่น ๆ หมดลงเหลือประเด็นข้อเดียวที่ทำการพิจารนาและประเด็นที่ถูกตัดเสียนั้นคู่ความมิได้โต้เถียงแย้งคำสั่งสาลชั้นต้นไว้ แต่กลับอุธรน์ไปประเด็นข้อเดียวที่สาลชั้นต้นพิจารนามาเท่านั้น ดั่งนี้ประเด็นข้ออื่น ๆ เปนอันยุติ
สาลอุธรน์ไม่มีอำนาดย้อนสำนวนไปไหสาลชั้นต้นพิจารนาพิพากสาไหม่ไนประเด็นที่คู่ความมิได้อุธรน์
โจทชนะความแล้วยึดทรัพย์ สามีจำเลยร้องขัดทรัพย์ สาลชั้นต้นกะประเด็นไห้สืบข้อเดียวว่าทรัพย์ที่ยึดเปนสินเดิมหรือสินสมรส ส่วนประเด็นที่ว่าจำเลยได้รับอนุญาตไห้กู้หรือไม่และทำเพื่อประโยชน์ด้วยกันหรือไม่ ไม่ไห้นำสืบ และคู่ความมิได้คัดค้าน ดังนี้ สาลอุธรน์กะไห้สืบพยานไนข้อหลังนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ยื่นภายในอายุความ: ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาซ้ำหากไม่ยื่นฎีกาภายในกำหนดหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
คดีที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่และส่งไปอ่านให้คู่ความฟังแล้วแต่คู่ความไม่ยื่นฎีกาเสียภายในอายุฎีกาครั้นเกินกำหนดแล้ว คู่ความจะมาร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้ส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ - กระทงความผิดที่ไม่อุทธรณ์ และการพิจารณาความผิดหลายกรรม
กระทงความผิดที่คู่ความมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์และแยกกันได้เด็ดขาดจากกระทงความผิดที่อุทธรณ์มานั้นย่อมถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา
การที่จำเลยยิงปืน 2 นัดถูกผู้เสียหายคนหนึ่งตาย อีก 2 คนบาดเจ็บหากไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แยกทำร้ายผู้เสียหายคนใดเป็น 2 กรรมแล้วถือว่าจำเลยทำผิดกระทงเดียว
พฤติการณ์ที่ถือว่าป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า, การป้องกันเกินสมควร, และอำนาจศาลอุทธรณ์
กะทงความผิดที่คู่ความมิได้ยกขึ้นอุธรน์ และแยกกันได้เด็ดขาดจากกะทงความผิดที่อุธรน์มานั้นย่อมถึงที่สุดเพียงสาลชั้นต้น สาลอุธรน์ไม่มีอำนาดพิจารานาพิพากสา
การที่จำเลยยิงปืน 2 นัดถูกผู้เสียหายคนหนึ่งตายอีก 2 คนบาดเจ็บหากไม่ปรากตว่าจำเลยได้แยกทำร้ายผู้เสียหายคนไดเปน 2 กัมแล้วถือว่าจำเลยทำผิดกะทงเดียว
พรึติการน์ถือว่าป้องกันเกินสมควนแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยค่าบำเหน็จนำจับ และข้อจำกัดในการบังคับคดีตามสัญญา
ในกรณีที่จำเลยอุทธรณ์ขอลดค่าบำเหน็จนำจับนั้นศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ในเรื่องบำเหน็จนำจับถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โจทก์ฟ้องเรื่องบำเหน็จนำจับโดยกล่าวว่าเจ้าพนักงานสัญญาจะจ่ายเงินให้แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร ท้ายฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ตามแต่ศาลจะเห็นสมควรนั้น ถือว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลไม่บังคับให้จำเลยใช้
of 25