พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนอง เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับเงินจากการขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้
เดิมโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ แล้วตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความผ่อนชำระหนี้เป็นงวด ๆ ภายใน 12 ปีโดยจำเลยจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ดังนั้นเมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำเลยจำนองนั้นโดยติดจำนอง เงินที่ได้มาเมื่อหักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีแล้วจึงต้องนำมาจ่ายให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองและผลกระทบต่อบุคคลภายนอกจากการซื้อขายฝาก: ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้แม้กรรมสิทธิ์โอนไป
จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์ แล้วนำไปขายฝากกับผู้ร้องและไม่ไถ่กรรมสิทธิ์จึงตกเป็นของผู้ร้องโดยมีภารจำนองติดไปด้วย โจทก์จึงมีสิทธิบอกกล่าวแก่ผู้ร้องว่ามีความจำนงจะบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินจำนองจากจำเลยได้ตาม มาตรา 736, 737 เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ฟ้องขอบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์ยังไม่มีสิทธิจะยึดที่พิพาทที่จำนองแก่โจทก์ เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก
โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา 702 (2)
โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา 702 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองเมื่อมีการโอนทรัพย์สินโดยสัญญาขายฝาก ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองต่อผู้รับโอนได้
จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์. แล้วนำไปขายฝากกับผู้ร้องและไม่ไถ่กรรมสิทธิ์ จึงตกเป็นของผู้ร้องโดยมีภาระจำนองติดไปด้วยโจทก์จึงมีสิทธิบอกกล่าวแก่ผู้ร้องว่ามีความจำนงจะบังคับจำนองแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินจำนองจากจำเลยได้ตาม มาตรา 736, 737เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ฟ้องขอบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์ยังไม่มีสิทธิจะยึดที่พิพาทที่จำนองแก่โจทก์ เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก
โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา 702(2)
โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา 702(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินที่ติดจำนอง: สิทธิไถ่ถอนของผู้รับโอนและผลของการยกให้โดยเสน่หา
การที่จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งติดจำนองให้แก่ผู้ร้องสิทธิจำนองย่อมติดไปกับที่พิพาทด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 จึงเป็นสิทธิของผู้ร้องจะไถ่จำนองในฐานะผู้รับโอนที่พิพาทมาก็ได้ ถ้าหากผู้ร้องประสงค์จะไถ่ถอนแล้วก็จำต้องใช้เงินค่าไถ่ถอนเองจะถือเอาการที่ต้องไถ่จำนองเองเป็นค่าตอบแทนการโอนหาได้ไม่
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการการยกให้เสียก่อนนั้นเมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่าแม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดได้นั้นไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการการยกให้เสียก่อนนั้นเมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่าแม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชี้ขาดได้นั้นไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินที่มีจำนอง: สิทธิการไถ่ถอนและผลของการโอนโดยเสน่หา
การที่จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งติดจำนองให้แก่ผู้รอง สิทธิจำนองย่อมติดไปกับที่พิพาทด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 จึงเป็นสิทธิของผู้ร้องจะไถ่จำนองในฐานะผู้รับโอนที่พิพาทมาก็ได้ ถ้าหากผู้ร้องประสงค์จะไถ่ถอนแล้ว ก็จำต้องใช้เงินค่าไถ่ถอนเอง จะถือเอาการที่ต้องไถ่จำนองเองเป็นค่าตอบแทนการโอนหาได้ไม่
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบทีจะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการยกให้เสียก่อนนั้น เมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่า แม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชึ้ขาดได้นั้น ไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้
ข้อที่ว่าโจทก์ชอบทีจะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการยกให้เสียก่อนนั้น เมื่อมิได้ยกขึ้นว่ากันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลสูงก็ย่อมไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปว่า แม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนเสียก่อน ศาลก็มีอำนาจชึ้ขาดได้นั้น ไม่ทำให้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายชั้นอุทธรณ์ที่ผู้ร้องจะฎีกาต่อมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดติดภาระจำนอง แม้ซื้อสุจริตมีสินจ้างก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น
กรณีที่ผู้ซื้อรู้ถึงการรอนสิทธิอยู่แล้วในเวลาซื้อขาย
รับซื้อที่ดินติดภาระจำนองในการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ถึงแม้จะซื้อโดยสุจริตและเสียสินจ้างก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น เพราะเป็นการขายเฉพาะสิทธิเท่าที่มีอยู่ของเจ้าของที่ดิน
รับซื้อที่ดินติดภาระจำนองในการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ถึงแม้จะซื้อโดยสุจริตและเสียสินจ้างก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น เพราะเป็นการขายเฉพาะสิทธิเท่าที่มีอยู่ของเจ้าของที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินติดภาระจำนองในการขายทอดตลาด แม้สุจริตและเสียสินจ้าง ก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น
กรณีที่ผู้ซื้อรู้ถึงการรอนสิทธิอยู่แล้วในเวลาซื้อขาย
รับซื้อที่ดินติดภาระจำนองในการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ถึงแม้จะซื้อโดยสุจริตและเสียสินจ้างก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น เพราะเป็นการขายเฉพาะสิทธิเท่าที่มีอยู่ของเจ้าของที่ดิน
รับซื้อที่ดินติดภาระจำนองในการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ถึงแม้จะซื้อโดยสุจริตและเสียสินจ้างก็ไม่ทำให้ภาระจำนองหลุดพ้น เพราะเป็นการขายเฉพาะสิทธิเท่าที่มีอยู่ของเจ้าของที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155-156/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินติดจำนอง: สิทธิของผู้ซื้อเมื่อจำนองถูกไถ่ถอน
ผู้ขายได้ขายที่ติดจำนองแก่ผู้ซื้อ ผู้รับจำนองฟ้องบังคับจำนองและผู้ขายไถ่ถอนจำนองแล้ว ดังนี้ เมื่อไม่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่น สัญญาซื้อขายนั้นไม่เลิกกัน
ขายที่ดินบางส่วนซึ่งติดการจำนองผู้ซื้อฟ้องขอให้บังคับผู้ขายแบ่งแยกโอนให้ตนได้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิจำนอง
ขายที่ดินเฉพาะบางส่วนให้แก่หลายคน แม้จะไม่พอแบ่งแยกให้แก่ผู้ซื้อทุกๆ คนก็ตาม ถ้ายังไม่มีการแบ่งแยกที่ดินไป ผู้ซื้อคนหนึ่งก็มาฟ้องขอให้แบ่งแยกโอนขายให้ตนได้
ที่ดินหลายเจ้าของเมื่อเจ้าของคนหนึ่ง ๆ รับโอนมาโดยทราบถึงนิติกรรมการซื้อขายก่อนแล้ว ศาลก็บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อได้ ไม่ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1361 วรรคสอง
ขายที่ดินบางส่วนซึ่งติดการจำนองผู้ซื้อฟ้องขอให้บังคับผู้ขายแบ่งแยกโอนให้ตนได้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิจำนอง
ขายที่ดินเฉพาะบางส่วนให้แก่หลายคน แม้จะไม่พอแบ่งแยกให้แก่ผู้ซื้อทุกๆ คนก็ตาม ถ้ายังไม่มีการแบ่งแยกที่ดินไป ผู้ซื้อคนหนึ่งก็มาฟ้องขอให้แบ่งแยกโอนขายให้ตนได้
ที่ดินหลายเจ้าของเมื่อเจ้าของคนหนึ่ง ๆ รับโอนมาโดยทราบถึงนิติกรรมการซื้อขายก่อนแล้ว ศาลก็บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อได้ ไม่ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1361 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155-156/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามสัญญาซื้อขายที่ดินติดจำนอง แม้มีการไถ่ถอนและจำนองใหม่ สิทธิของผู้ซื้อยังคงมีอยู่
ผู้ขายได้ขายที่ติดจำนองแก่ผู้ซื้อ ผู้รับจำนองฟ้องบังคับจำนองและผู้ขายไถ่ถอนจำนองแล้ว ดังนี้เมื่อไม่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่นสัญญาซื้อขายนั้นไม่เลิกกัน
ขายที่ดินบางส่วนซึ่งติดการจำนองผู้ซื้อฟ้องขอให้บังคับผู้ขายแบ่งแยกโอนให้ตนได้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิ-จำนอง
ขายที่ดินเฉพาะบางส่วนให้แก่หลายคน แม้จะไม่พอแบ่งแยกให้แก่ผู้ซื้อทุกๆคนก็ตาม ถ้ายังไม่มีการแบ่งแยกที่ดินไป ผู้ซื้อหนึ่งคนหนึ่งก็มาฟ้องขอให้แบ่งแยกโอนขายให้ตนได้.
ที่ดินหลายเจ้าของเมื่อเจ้าของคนหนึ่ง ๆ รับโอนมาโดยทราบถึงนิติกรรมการซื้อขายก่อนแล้ว ศาลก็บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อได้ ไม่ขัดกับประมวลแพ่งฯ ม.1361 วรรค 2
ขายที่ดินบางส่วนซึ่งติดการจำนองผู้ซื้อฟ้องขอให้บังคับผู้ขายแบ่งแยกโอนให้ตนได้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิ-จำนอง
ขายที่ดินเฉพาะบางส่วนให้แก่หลายคน แม้จะไม่พอแบ่งแยกให้แก่ผู้ซื้อทุกๆคนก็ตาม ถ้ายังไม่มีการแบ่งแยกที่ดินไป ผู้ซื้อหนึ่งคนหนึ่งก็มาฟ้องขอให้แบ่งแยกโอนขายให้ตนได้.
ที่ดินหลายเจ้าของเมื่อเจ้าของคนหนึ่ง ๆ รับโอนมาโดยทราบถึงนิติกรรมการซื้อขายก่อนแล้ว ศาลก็บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อได้ ไม่ขัดกับประมวลแพ่งฯ ม.1361 วรรค 2