คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 85

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 200 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานลักทรัพย์: การปรับบทลงโทษเมื่อกฎหมายใหม่ไม่ถือว่าการลักของใช้ราชการเป็นเหตุฉกรรจ์
เหตุเกิดในขณะใช้กฎหมายลักษณะอาญา จำเลยทั้ง 4 คนสมคบกันลักของใช้สำหรับราชการ และลักในเวลาค่ำคืน แต่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 มิได้บัญญัติว่าการลักของใช้ในราชการเป็นเหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์ จึงลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294(4) ไม่ได้(เทียบฎีกาที่ 535/2500) แต่ว่าโดยที่การกระทำของจำเลยยังเป็นเหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์อยู่อีก 2 ประการ คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ยังบัญญัติไว้ให้เป็นเหตุฉกรรจ์อยู่ในอนุมาตรา (1) และ (7) ซึ่งตรงกับกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293(1) และ (11) และโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293 เบากว่าโทษในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 เช่นนี้ ต้องวางบทลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 293(1) และ(11)
ขณะนี้ผลแห่งการตรวจสอบด้วยเครื่องจับเท็จ ยังมิใช่เป็นพยานหลักฐานทีศาลยุติธรรมจะรับฟังเป็นยุติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่า-ปลูกสร้าง: สิทธิของผู้เช่า-ผู้ปลูกสร้างในที่ดินของผู้อื่น แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยเข้าปลูกห้องแถวในที่พิพาทโดยได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดินแล้ว การกระทำของจำเลยก็ไม่ใช่บุกรุกอันจะเป็นการละเมิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกจากเจ้าของที่ดิน สัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับเจ้าของที่ดินเดิมจะปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์หรือไม่ไม่สำคัญ เพราะแม้จำเลยจะเข้าไปปลูกห้องแถวด้วยการตกลงเช่าปากเปล่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ยังฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปปลูกห้องแถว โดยความยินยอมของเจ้าของที่ดินซึ่งจะหาว่าจำเลยละเมิดมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินและการปลูกสร้างโดยความยินยอม แม้สัญญาไม่สมบูรณ์ก็ไม่ถือเป็นการบุกรุก
จำเลยเข้าปลูกห้องแถวในที่พิพาทโดยได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดินแล้ว การกระทำของจำเลยก็ไม่ใช่บุกรุกอันจะเป็นการละเมิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกจากเจ้าของที่ดิน สัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับเจ้าของที่ดินเดิมจะปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์หรือไม่ไม่สำคัญ เพราะแม้จำเลยจะเข้าไปปลูกห้องแถวด้วยการตกลงเช่าปากเปล่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ยังฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปปลูกห้องแถวโดยความยินยอมของเจ้าของที่ดินซึ่งจะหาว่าจำเลยละเมิดมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าบุหรี่ค้างชำระ โดยโจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะหุ้นส่วน
โจทก์กล่าวฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2496 โจทก์กับพวกได้เข้าหุ้นกันรับบุหรี่มาจำหน่าย และโจทก์ได้ขายบุหรี่แก่จำเลย จำเลยยังค้างชำระค่าบุหรี่อยู่12,036.05 บาทขอเรียกราคาบุหรี่ที่ค้าง ครั้นเวลานำสืบ โจทก์กลับนำสืบว่าที่โจทก์กับพวกเข้าหุ้นกันเช่นว่านั้นคือเมื่อ พ.ศ.2493(ไม่ใช่ พ.ศ.2496 ตามที่บรรยายในฟ้อง) เช่นนี้ ไม่กระทำให้คดีของโจทก์เสียไปอย่างใดเพราะเห็นได้ชัดว่าโจทก์ฟ้องคดีในฐานะส่วนตัวของโจทก์มิใช่ฟ้องในฐานะเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ข้อที่ว่าโจทก์จะได้เป็นหุ้นส่วนนั้นเมื่อใด จึงมิใช่เป็นประเด็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ และเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าบุหรี่ค้างชำระ: โจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะหุ้นส่วน แม้เวลาในการเข้าหุ้นจะแตกต่างกัน
โจทก์กล่าวฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2496 โจทก์กับพวกได้เข้าหุ้นกันรับบุหรี่มาจำหน่าย และโจทก์ได้ขายบุหรี่แก่จำเลย ๆ ยังค้างชำระค่าบุหรี่อยู่ 12,036.05 บาท ขอเรียกราคาบุหรี่ที่ค้าง ครั้นเวลานำสืบ โจทก์กลับนำสืบว่าที่โจทก์กับพวกเข้าหุ้นกันเช่นว่านั้นคือเมื่อ พ.ศ. 2493 (ไม่ใช่ พ.ศ.2496 ตามที่บรรยายในฟ้อง) เช่นนี้ ไม่กระทำให้คดีของโจทก์เสียไปอย่างใด เพราะเห็นได้ชัดว่าโจทก์ฟ้องคดีในฐานะส่วนตัวของโจทก์ มิใช่ฟ้องในฐานะเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ข้อที่ว่าโจทก์จะได้เป็นหุ้นส่วนนั้นเมื่อใด จึงมิใช่เป็นประเด็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ และเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีแชร์เปียหวย เมื่อจำเลยปฏิเสธทั้งหมด ศาลเชื่อพยานโจทก์ได้
เมื่อฟังว่าจำเลยเป็นนายวงแชร์เปียหวย และโจทก์ได้เล่นแชร์เปียหวยกับจำเลยจนแชร์หรือหวยล้ม ย่อมเป็นการแน่ว่าการที่หวยล้มไม่ทันครบรอบดังนี้ จะต้องมีค่าหุ้นที่โจทก์ส่งไปแล้วค้างชำระอยู่ที่จำเลย โดยที่โจทก์ยังไม่เคยประมูลได้เลย เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เลยว่าได้ส่งเงินค่าหุ้นคืนให้โจทก์หรือไม่ หรือว่ายังค้างชำระอยู่เพียงใด แต่จำเลยกลับให้การปฏิเสธเสียสิ้นว่าไม่ได้เล่นแชร์เปียหวยกับโจทก์เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ในการวินิจฉัยคดีก็ควรเชื่อได้ตามคำยืนยันของโจทก์ (แม้มีคำตัวโจทก์เพียงคนเดียวเท่านั้น)ว่าจำเลยยังค้างเงินค่าหุ้นซึ่ง จะใช้คืนให้โจทก์ตามจำนวนดังฟ้องจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีแชร์เปียหวย เมื่อจำเลยปฏิเสธสิ้นเชิง ศาลเชื่อพยานโจทก์ได้
เมื่อฟังว่าจำเลยเป็นนายวงแชร์เปียหวย และโจทก์ได้เล่นแชร์เปียหวยกับจำเลยจนแชร์หรือหวยล้ม ย่อมเป็นการแน่ว่าการที่หวยล้มไม่ทันครบรอบ ดังนี้ จะต้องมีค่าหุ้นที่โจทก์ส่งไปแล้วค้างชำระอยู่ที่จำเลยโดยที่โจทก์ยังไม่เคยประมูลได้เลย เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เลยว่าได้ส่งเงินค่าหุ้นคืนให้โจทก์หรือไม่ หรือว่ายังค้างชำระอยู่เพียงใด แต่จำเลยกลับให้การปฏิเสธเสียสิ้นว่าไม่ได้เล่นแชร์เปียหวยกับโจทก์เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ในการวินิจฉัยคดีก็ควรเชื่อได้ตามคำยืนยันของโจทก์(แม้มีคำตัวโจทก์เพียงคนเดียวเท่านั้น) ว่าจำเลยยังค้างเงินค่าหุ้นซึ่งจะใช้คืนให้โจทก์ตามจำนวนดังฟ้องจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ขึ้นอยู่กับการนำสืบเรื่องการบอกกล่าวให้จำเลยออกจากห้องเช่า การฟังข้อเท็จจริงนอกพยานหลักฐานเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าห้องพิพาทโจทก์ซื้อมาจากเจ้าของเดิม โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้ว ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ยังไม่ได้บอกกล่าว จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
ก่อนพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่าโจทก์เป็นเจ้าของห้องพิพาทจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จำเลยขายข้าวสารน้ำปลาและของเบ็ดเตล็ดและอาศัยอยู่ในห้องพิพาท ได้จดทะเบียนการค้าตามโจทก์อ้างจริง แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ดังนี้แม้ในฟ้องของโจทก์ได้กล่าวว่าได้บอกกล่าวจำเลยแล้วจำเลยก็มิได้รับตามฟ้อง จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความในเรื่องบอกกล่าวจึงจะมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย เมื่อไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง แต่ศาลชั้นต้นกลับฟังว่าโจทก์ได้บอกกล่าวแล้วจึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงเรื่องบอกกล่าวนอกพยานหลักฐานในสำนวน และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ใช่ข้อเท็จจริงไม่ต้องห้ามฎีกา
อนึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้านในชั้นอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้(เรื่องบอกกล่าว) จึงให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ต้องมีการพิสูจน์การบอกกล่าว หากไม่สืบพยาน ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าห้องพิพาทโจทก์ซื้อมาจากเจ้าของเดิมโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้ว ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ยังไม่ได้บอกกล่าว จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
ก่อนพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่าโจทก์เป็นเจ้าของห้องพิพาทจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จำเลยขายข้าวสาร น้ำปลาและของเบ็ดเตล็ดและอาศัยอยู่ในห้องพิพาทได้จดทะเบียนการค้าตามโจทก์อ้างจริง แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ดังนี้แม้ในฟ้องของโจทก์ได้กล่าวว่าได้บอกกล่าวจำเลยแล้วจำเลยมิได้รับตามฟ้อง จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความในเรื่องบอกกล่าวจึงจะมีอำนาจฟ้องแต่ศาลชั้นต้นกลับฟังว่าโจทก์ได้บอกกล่าวแล้วจึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงเรื่องบอกกล่าวนอกพยานหลักฐานในสำนวน และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อ ก.ม.ไม่ใช่ข้อเท็จจริงไม่ต้องห้ามฎีกา
อนึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้านในชั้นอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้ (เรื่องบอกกล่าว) จึงให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปราณีประนอมยอมความใช้บังคับได้แม้พินัยกรรมเป็นโมฆะ หากไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
ทายาทตามพนัยกรรมตกลงกันทำสัญญาปราณีประนอมยอมความว่าให้ถือเอาตามพินัยกรรมซึ่งตามกฎหมายเป็นโมฆะแล้วนั้นใช้บังคับได้ สัญญานั้นย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับได้ เพราะพินัยกรรมนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและสัญญาปราณีประนอมนั้น ก็ไม่ต้องห้ามตามบทกฎหมายใด ๆ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกตามพินัยกรรม เพราะจำเลยทำสัญญาปราณีประนอมยอมความให้ถือเอาตามพินัยกรรมนั้นแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยทำสัญญาโดยสำคัญผิดว่าพินัยกรรมนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้องตาม ก.ม.ประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งจำเลยต่อสู้ว่า สามีจำเลยได้บอกล้างนิติกรรมที่จำเลยได้กระทำไปโดยมิได้รับความยินยอมแล้วเช่นนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่สืบก็ไม่มีข้อเท็จจริงจะวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ได้
of 20