คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 289 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 58 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3558/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย และการกำหนดโทษที่เหมาะสม
การฆ่าโดยทรมานนั้นจะต้องมีการกระทำอื่นนอกจากการกระทำให้ตายในลักษณะที่จะทำให้ผู้ตายได้รับความลำบากจนสาหัสก่อนตายส่วนการที่ผู้ตายทั้งสองถูกทำร้ายมีบาดแผลทั้งถูกยิงถูกฟันตีหลายแห่งเกิดจากการกระทำของจำเลยที่ปราศจากความยับยั้งเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดโดยปัจจุบันทันด่วน และแม้จำเลยที่ 4ใช้ไม้กระดานพาดที่คอ ส. ผู้ตาย แล้วพวกของจำเลยขึ้นไปยืนบนปลายไม้เพื่อกดศีรษะให้จมน้ำ ก็เป็นการกระทำเพื่อจะให้ ส.ถึงแก่ความตายโดยฉับพลันเท่านั้น มิใช่เป็นการฆ่าโดยทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการไล่ผีปอบ: ศาลพิจารณาเหตุเชื่อตามประเพณีท้องถิ่น ไม่ถือว่าเป็นการกระทำทารุณโหดร้าย
จำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกต้องการไล่ผีปอบออกจากร่างของผู้ตายได้ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกตีผู้ตายล้มลง แล้วใช้ด้ามมีดตีศีรษะผู้ตาย ด้ามมีดทำด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาว 8.5 นิ้ว จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าถ้าตีศีรษะผู้ตายโดยแรงและตีนาน ๆ ย่อมทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยตีผู้ตายนานถึง 2 ชั่วโมง ผู้ตายมีรอยฟกช้ำที่หน้าผาก โหนกแก้ม ศีรษะบวมช้ำแบบศีรษะน่วม ความตายของผู้ตายจึงเป็นผลโดยตรงจากการทำร้ายของจำเลยกับพวก จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเมื่อการกระทำดังกล่าวเป็นการไล่ผีปอบตามความเชื่อและตามประเพณีท้องถิ่นที่ปฏิบัติกันมา แม้การทำร้ายใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงจนผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็เป็นเรื่องของการไล่ผีปอบ ไม่ได้เป็นการกระทำที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (5) กรณีนี้เป็นเหตุในลักษณะคดีศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งถอนฎีกาไปแล้วด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการไล่ผีปอบ: ศาลฎีกาตัดสินว่าการกระทำเพื่อความเชื่อทางประเพณี ไม่ถือเป็นความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษ
จำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกต้องการไล่ผีปอบออกจากร่างของผู้ตายได้ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกตีผู้ตายล้มลง แล้วใช้ด้ามมีดตีศีรษะผู้ตาย ด้ามมีดทำด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาว 8.5 นิ้วจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า ถ้าตีศีรษะผู้ตายโดยแรงและตีนาน ๆย่อมทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยตีผู้ตายนานถึง 2 ชั่วโมงผู้ตายมีรอยฟกช้ำที่หน้าผาก โหนกแก้ม ศีรษะบวมช้ำแบบศีรษะน่วมความตายของผู้ตายจึงเป็นผลโดยตรงจากการทำร้ายของจำเลยกับพวกจำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเมื่อการกระทำดังกล่าวเป็นการไล่ผีปอบตามความเชื่อและตามประเพณีท้องถิ่นที่ปฏิบัติกันมา แม้การทำร้ายใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงจนผู้ตายถึงแก่ความตายก็เป็นเรื่องของการไล่ผีปอบ ไม่ได้เป็นการกระทำที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)กรณีนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2ซึ่งถอนฎีกาไปแล้วด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการไล่ผีปอบ ไม่ถึงแก่การกระทำทารุณโหดร้าย
จำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกต้องการไล่ผีปอบออกจากร่างของผู้ตายได้ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกตีผู้ตายล้มลง แล้วใช้ด้ามมีดตีศีรษะผู้ตาย ด้ามมีดทำด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาว8.5 นิ้ว จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าถ้าตีศีรษะผู้ตายโดยแรงและตีนาน ๆ ย่อมทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยตีผู้ตายนานถึง 2 ชั่วโมง ผู้ตายมีรอยฟกช้ำที่หน้าผาก โหนกแก้ม ศีรษะบวมช้ำแบบศีรษะน่วม ความตายของผู้ตายจึงเป็นผลโดยตรงจากการทำร้ายของจำเลยกับพวก จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเมื่อการกระทำดังกล่าวเป็นการไล่ผีปอบตามความเชื่อและตามประเพณีท้องถิ่นที่ปฏิบัติกันมา แม้การทำร้ายใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงจนผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็เป็นเรื่องของการไล่ผีปอบ ไม่ได้เป็นการกระทำที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5) กรณีนี้เป็นเหตุในลักษณะคดีศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งถอนฎีกาไปแล้วด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความรุนแรงถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นการทารุณโหดร้าย หากมีเจตนาให้ถึงแก่ความตายโดยเร็ว
จำเลยเอายาพิษให้ผู้ตาย 4 คนซึ่งเป็นบุตรของจำเลยกินแล้วยังใช้ไม้ตีและเอาเชือกรัดคอผู้ตาย ก็ด้วยเจตนาจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเร็ว ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ตายได้รับความเจ็บปวดทรมาน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความรุนแรงต่อบุตร ไม่ถือเป็นการทารุณโหดร้าย หากมีเจตนาให้ถึงแก่ความตายโดยเร็ว
จำเลยเอายาพิษให้ผู้ตาย 4 คนซึ่งเป็นบุตรของจำเลยกินแล้วยังใช้ไม้ตีและเอาเชือกรัดคอผู้ตาย ก็ด้วยเจตนาจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเร็ว ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ตายได้รับความเจ็บปวดทรมาน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าผู้อื่นโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่มีเจตนาทารุณโหดร้าย
ผู้ตายกับจำเลยเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก จำเลยเมาสุราหยอกล้อชกต่อยกับผู้ตาย จำเลยถูกต่อยล้มลง จึงใช้ปืนยิงผู้ตายถูกที่ขา แล้ววิ่งตามไปยิงซ้ำถูกที่คอในเวลาอันกระชั้นชิดแม้จะฟังว่าบิดาผู้ตายได้ขอร้องมิให้จำเลยยิงซ้ำ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมิใช่เป็นการกระทำโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าและชิงทรัพย์ ครอบครัวถูกทำร้ายทารุณ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ขณะเกิดเหตุที่โรงงานผู้ตายมีคนอยู่ด้วยกันเพียง 5 คนคือผู้ตายทั้งสามนาย ส.และจำเลย แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายทั้งสามและชิงทรัพย์ผู้ตายก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริงและพยานแวดล้อมกรณี รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วย ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย.นางพ. และเด็กชาย น. นาง พ. เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนางพ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ ครอบครัวถูกทำร้าย ศาลพิจารณาพยานแวดล้อมลงโทษจำเลย
ขณะเกิดเหตุที่โรงงานผู้ตายมีคนอยู่ด้วยกันเพียง 5 คน คือผู้ตายทั้งสามนาย ส.และจำเลย แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายทั้งสามและชิงทรัพย์ผู้ตายก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริงและพยานแวดล้อมกรณี รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วย ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย. นาง พ. และเด็กชาย น. นาง พ.เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจาก-กะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนาง พ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยใช้วิธีจมน้ำ แม้มิได้ทรมานหรือทารุณโหดร้าย ก็เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยต้องการฆ่าผู้เสียหายโดยวิธีใช้อาวุธปืนยิงก่อน แต่กระสุนปืนไม่ลั่นจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีกดผู้เสียหายจมน้ำเพื่อให้ตายต่อเนื่องกันไป จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำครั้งแรกผู้เสียหายต่อสู้หลุดโผล่ขึ้นมา จำเลยใช้ปืนตีศรีษะ 1 ครั้ง แล้วกดลงไปใหม่จนหมดสติ จึงเป็นวิธีธรรมดาทั่ว ๆ ไปในการกดจมน้ำเพื่อให้ตาย เจตนาของจำเลยก็คือต้องการฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตาย การที่จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำเป็นวิธีการกระทำเพื่อให้ตายอย่างหนึ่งเท่านั้น มิได้กระทำอย่างใดเป็นพิเศษอันจะแสดงให้เห็นว่า จำเลยประสงค์จะให้ผู้เสียหายได้รับความลำบากสาหัสก่อนตาย จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
of 6