พบผลลัพธ์ทั้งหมด 58 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยใช้วิธีจมน้ำ แม้ไม่มีการทรมานเป็นพิเศษ ก็ยังเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยต้องการฆ่าผู้เสียหายโดยวิธีใช้อาวุธปืนยิงก่อนแต่กระสุนปืนไม่ลั่นจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีกดผู้เสียหายจมน้ำเพื่อให้ตายต่อเนื่องกันไป จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำครั้งแรกผู้เสียหายต่อสู้หลุดโผล่ขึ้นมา จำเลยใช้ปืนตีศีรษะ 1 ครั้ง แล้วกดลงไปใหม่จนหมดสติ จึงเป็นวิธีธรรมดาทั่วๆ ไปในการกดจมน้ำเพื่อให้ตาย เจตนาของจำเลยก็คือต้องการฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตาย การที่จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำเป็นวิธีการกระทำเพื่อให้ตายอย่างหนึ่งเท่านั้น มิได้กระทำอย่างใดเป็นพิเศษอันจะแสดงให้เห็นว่า จำเลยประสงค์จะให้ผู้เสียหายได้รับความลำบากสาหัสก่อนตาย จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ และเจตนาฆ่า การจำคุกในข้อหาฆ่าผู้อื่น
จำเลยมาทวงปืนของจำเลยจากผู้ตายซึ่งจำเลยแน่ใจว่าผู้ตายเป็นคนเอามา ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูกจำเลยใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายหันกลับมาจะทำร้ายจำเลยจนผู้ตายแขนขาดทั้งสองข้าง และมีบาดแผลที่อื่นอีกหลายแห่งถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันและการที่จำเลยฟันผู้ตายหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ด้วยเจตนาจะฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ไม่เป็นการฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการเจตนาฆ่า การฟันซ้ำโดยมีเจตนาทำให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยมาทวงปืนของจำเลยจากผู้ตายซึ่งจำเลยแน่ใจว่าผู้ตายเป็นคนเอามา ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูกจำเลยใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายหันกลับมาจะทำร้ายจำเลยจนผู้ตายแขนขาดทั้งสองข้าง และมีบาดแผลที่อื่นอีกหลายแห่งถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันและการที่จำเลยฟันผู้ตายหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ด้วยเจตนาจะฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ไม่เป็นการฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนา แต่ไม่ถือเป็นการทารุณโหดร้ายเนื่องจากเกิดจากโทสะ
การที่จำเลยใช้มืดปลายแหลมยาวคืบเศษ แทงผู้ตายทางด้านหน้าล้มลงไป แล้วแทงซ้ำทางด้านหลังอีกหลายทีเป็นเรื่องที่จำเลยกระทำไปโดยปราศจากการยับยั้งเนื่องจากโทสะจริตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทันด่วน เป็นผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยฉับพลันเท่านั้น ยังไม่เข้าลักษณะของการกระทำด้วยความทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงซ้ำโดยโทสะ ไม่ถึงขั้นทารุณโหดร้าย
การที่จำเลยใช้มืดปลายแหลมยาวคืบเศษ แทงผู้ตายทางด้านหน้าล้มลงไป แล้วแทงซ้ำทางด้านหลังอีกหลายที เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำไปโดยปราศจากการยับยั้งเนื่องจากโทสะจริตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทันด่วน เป็นผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยฉับพลันเท่านั้น ยังไม่เข้าลักษณะของการกระทำด้วยความทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2388/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. ฆ่าโดยทารุณโหดร้าย: การประเมินพฤติการณ์การกระทำเพื่อพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยยิงผู้เสียหายถูกที่หลังนัดเดียว แทงที่หลังอีกหนึ่งที จนผู้เสียหายล้มลงและสลบ แล้วจำเลยแทงที่หน้าอกผู้เสียหายอีกหนึ่งที ผู้เสียหายไม่ตาย การกระทำของจำเลยเพียงเท่านี้ยังไม่เป็นการพยายามฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5),80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ลูกระเบิดทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความร้ายแรงของการกระทำและกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5, 6 และ 7เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5, 6 และ 7เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขว้างระเบิดมือทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5,6 และ 7 เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5,6 และ 7 เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาการกระทำความรุนแรงถึงขั้นทารุณโหดร้าย ต้องคำนึงสภาพจิตใจผู้กระทำขณะลงมือ
จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงผู้ตายซึ่งเป็นหญิงปราศจากอาวุธและไม่อยู่ในฐานะที่จะหลบหลีกหรือต่อสู้จำเลยได้ โดยจ้วงแทงเอาอย่างไม่ยับยั้ง เกิดเป็นบาดแผลที่ร่างกายผู้ตาย 30 กว่าแผลและผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายทีสองทีแล้วมีโทสะจริตคลุ้มคลั่งตามติดขึ้นมา จนขาดสติ จึงได้แทงผู้ตายไปโดยไม่ยับยั้งเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่พอจะถือว่าจำเลยได้กระทำไปด้วยการทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าโดยทารุณโหดร้าย และการลดโทษจากรับสารภาพ
จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงผู้ตายซึ่งเป็นหญิงปราศจากอาวุธ และไม่อยู่ในฐานะที่จะหลบหลีกหรือต่อสู้จำเลยได้ โดยจ้วงแทงเอาอย่างไม่ยับยั้ง เกิดเป็นบาดแผลที่ร่างกายผู้ตาย 30 กว่าแผลและผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายทีสองทีแล้วมีโทสะจริตคลุ้มคลั่งตามติดขึ้นมา จนขาดสติ จึงได้แทงผู้ตายไปโดยไม่ยับยั้งเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่พอจะถือว่าจำเลยได้กระทำไปด้วยการทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)