พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงในสำนวน – ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวน
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่แล้วในสำนวนไปได้. โดยมิจำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนั้นใหม่. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(3).(อ้างฎีกาที่ 1050/2500).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามสำนวนเดิม โดยไม่ต้องย้อนสำนวน
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่แล้วในสำนวนไปได้ โดยมิจำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนั้นใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(3) (อ้างฎีกาที่ 1050/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวหลังทำสัญญาซื้อฝากแล้ว แม้มีการยักยอกก่อนหน้า สิทธิเรียกร้องย่อมระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาทเพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหายแล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหายจำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือสัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับและเงินจำนวน 1 หมื่นบาทดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้วผู้เสียหายจึงได้ทราบว่า จำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)