คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 161

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 464 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลที่สั่งให้เป็นพับเป็นเงินที่โจทก์ต้องได้รับคืน แม้ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่าย และศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขเรื่องค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นสั่งแต่ประการใด ดังนี้ ค่าธรรมเนียมที่โจทก์เสียไปในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ต้องพับแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลที่ถูกสั่งให้เป็นพับในชั้นศาลชั้นต้น ถือเป็นสิทธิที่โจทก์ได้รับคืน แม้มีการพิพากษาในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่ายและศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขเรื่องค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นสั่งแต่ประการใดดังนี้ค่าธรรมเนียมที่โจทก์เสียไปในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ต้องพับแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งตามความเหมาะสมโดยอาศัย ป.วิ.พ. มาตรา 161
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ป.วิ.พ.มาตรา 161.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึดช้าง: ศาลมีอำนาจสั่งจ่ายตามความเห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ค่ารักษาทรัพย์ เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การชำระแทนและการเรียกร้องค่าชดใช้
ค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายชั้นพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ซึ่งโจทก์ถอนฟ้องมิได้มีการขายทรัพย์ที่ยึดนั้น ถ้าจำเลยได้ออกเงินไปก่อนเพื่อกันความเสียหายของจำเลย แล้วจะมาร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้ให้แก่จำเลยย่อมไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นค่าธรรมเนียมซึ่งฝ่ายหนึ่งจะต้องใช้ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การชำระทดแทนไม่ใช่ค่าใช้จ่ายตามคำสั่งศาล
ค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายชั้นพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวซึ่งโจทก์ถอนฟ้องมิได้มีการขายทรัพย์ที่ยึดนั้น ถ้าจำเลยได้ออกเงินไปก่อนเพื่อกันความเสียหายของจำเลย แล้วจะมาร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้ให้แก่จำเลยย่อมไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นค่าธรรมเนียมซึ่งฝ่ายหนึ่งจะต้องใช้ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์พิพาทหลังฟ้องคดีทำให้คดีหมดประโยชน์ฟ้องร้อง ศาลยกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิในการฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืน
โจทก์ฟ้องคดีที่ดินมรดก โดยอ้างว่าโจทก์เป็นทายาทผู้มีส่วนได้รับร่วมกับจำเลยด้วย แต่จำเลยไปใส่ชื่อจำเลยในโฉนดเสียแต่ผู้เดียว โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องว่าขอให้ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินนั้นด้วย ต่อมาในระหว่างคดีปรากฏว่าจำเลยได้โอนขายที่พิพาทนั้นไปยังบุคคลที่สาม ดั่งนี้ เป็นอันว่า วัตถุที่โจทก์เรียกร้องนั้นไม่มีที่จำเลย จึงเป็นการพ้นวิสัยที่ศาลจะพิพากษาบังคับให้ตามคำขอท้ายฟ้อง และจะพิพากษาว่า โจทก์มีส่วนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นของคนอื่นโดยสิ้นเชิงแล้วก็ย่อมไม่ได้ จึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คดีที่ต้องยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้พ้นคดีไปเสียนั้นไม่ตัดสิทธโจทก์ที่จะว่ากล่าวฟ้องร้องต่อไปอีก
จำเลยดำเนินคดีให้โจทก์ต้องถูกยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทไปยังบุคคลอื่นเสียก่อนเช่นนี้ ควรให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีมรดกเมื่อทรัพย์สินถูกโอนไปแล้ว และสิทธิในการฟ้องร้องเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องคดีที่ดินมรดกโดยอ้างว่าโจทก์เป็นทายาทผู้มีส่วนได้รับร่วมกับจำเลยด้วย แต่จำเลยไปใส่ชื่อจำเลยในโฉนดเสียแต่ผู้เดียวโจทก์มีคำขอท้ายฟ้องว่าขอให้ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินนั้นด้วยต่อมาในระหว่างคดีปรากฏว่าจำเลยได้โอนขายที่พิพาทนั้นไปยังบุคคลที่สามดั่งนี้ เป็นอันว่าวัตถุที่โจทก์เรียกร้องนั้นไม่มีที่จำเลยจึงเป็นการพ้นวิสัยที่ศาลจะพิพากษาบังคับให้ตามคำขอท้ายฟ้องและจะพิพากษาว่าโจทก์มีส่วนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นของคนอื่นโดยสิ้นเชิงแล้วก็ย่อมไม่ได้จึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คดีที่ต้องยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้พ้นคดีไปเสียนั้นไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะว่ากล่าวฟ้องร้องต่อไปอีก
จำเลยดำเนินคดีให้โจทก์ต้องถูกยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทไปยังบุคคลอื่นเสียก่อนเช่นนี้ควรให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมศาล: ดุลพินิจศาลและการพิจารณาความสุจริตของโจทก์
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องค่าชฤาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ครั้งนั้นให้ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อพิพากษาคดีใหม่ ่ศาลชั้นต้นมิได้สั่งเรื่องค่าธรรมเนียมดังกล่าวไว้ด้วย ดังนี้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.161 ศาลใช้ดุลพินิจในการสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีได้ ไม่จำต้องสั่งคืนให้โจทก์ตามที่โจทก์ขอ คดีนี้ศาลฎีกาจึงสั่งให้ค่าธรรมเนียมชั้นศาลอุทธรณ์ครั้งแรกนั้นเป็นพับไปแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมศาล: ดุลพินิจตามความสุจริตของผู้ฟ้องร้อง แม้ผลคดีไม่เป็นคุณ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ครั้งนั้นให้ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อพิพากษาคดีใหม่ ครั้นพิพากษาคดีใหม่ศาลชั้นต้นมิได้สั่งเรื่องค่าธรรมเนียมดังกล่าวไว้ด้วย ดังนี้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 ศาลใช้ดุลพินิจในการสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีได้ ไม่จำต้องสั่งคืนให้โจทก์ตามที่โจทก์ขอ คดีนี้ศาลฎีกาจึงสั่งให้ค่าธรรมเนียมชั้นศาลอุทธรณ์ครั้งแรกนั้นเป็นพับไปแก่โจทก์
of 47