คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา: วิกรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2473

คดีปล้นทรัพย์: ศาลยืนตามคำตัดสินของศาลล่าง

คู่ความบังคับสยามเจ้าทุกข์บังคับอังกฤษจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2473

ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส

ร้องตะโกนให้เขาทำร้าย และตนก็ทำร้ายด้วย เปนตัวการ มีผิดตามกะทงโทษที่ทำไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2473

ข้อจำกัดในการฎีกาประเด็นใหม่ - ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาประเด็นที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลล่าง

ข้อกฎหมายที่ไม่ได้ว่ากันมาแต่ศาลล่าง จะมายกขึ้นว่าในชั้นฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2473

แจ้งความเท็จต้องพิสูจน์เจตนา: จำเลยต้องรู้ว่าข้อความเท็จก่อนแจ้งความ จึงจะมีความผิด

หน้าที่นำสืบ โจทก์หาว่าจำเลยแจ้งความเท็จ เมื่อโจทก์สืบไม่ได้ว่าข้อความที่จำเลยนำไปแจ้งนั้น จำเลยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเปนเท็จ จำเลยยังไม่มีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2473

การทำร้ายร่างกายหลังการโต้เถียง: ความรับผิดทางละเมิด

อาญา วิวาท ต่างคนต่างทะเลาะวิวาทกัน ผู้มีบาดเจ็บเรียกสินไหมทดแทนให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2473

สัญญาแต่งงานมีเงื่อนไขพิเศษ: การมีภรรยาอื่นมิใช่ผิดสัญญา หากไม่ได้เลี้ยงดู

สัญญาแต่งงาน ผัวเมียทองหมั้นโดยมีเงื่อนไขชายไปได้คนอื่นเปนภรรยาลับจนเกิดบุตร์ ไม่เรียกว่าผิดสัญญาแต่งงาน และไม่เปนข้อรังเกียจด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2473

ฆ่าโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้าย: การพิจารณาคุณความดีตาม ม.59 และเหตุป้องกัน

เหตุบรรดาลโทษะฆ่าผู้ชำเราภรรยาเมื่อผู้นั้นหยุดการกอดปล้ำแล้ว
อย่างไรเรียกว่าเปนคุณความดีตาม ม.59 พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.3 ศาลเดิมวาง ม.249 จำคุกตลอดชีวิต ศาลอุทธรณ์วาง ม.249, 155-59จำคุก 5 ปี เป็นแก้มาก ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2473

สมคบคิดลักทรัพย์ ทำร้ายเจ้าทรัพย์ และการจำแนกฐานความผิดระหว่างชิงทรัพย์กับปล้นทรัพย์

สามคนสมคบกันลักทรัพย์ 2 คนขึ้นไปลักและทำร้ายเจ้าทรัพย์ อีกคนหนึ่งรออยู่ในเรือ 2 คนมีผิดฐานชิงไม่ใช่ปล้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2473

พยานเห็นสภาพผู้เสียหายใกล้เวลาเกิดเหตุ ไม่ถือเป็นพยานบอกเล่า

พะยานอย่างไรเรียกว่าพะยานบอกเล่า พะยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากเจ้าทุกข์และได้เห็นกิริยาของเจ้าทุกข์ในขณะใกล้ชิดกับเวลาเกิดเหตุ ไม่เรียกว่าพะยานบอกเล่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761-762/2473

การนำสืบหลักฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ต้องพิสูจน์ความเท็จเฉพาะเจาะจง ไม่สามารถสันนิษฐานเองได้

หน้าที่นำสืบความสันนิษฐาน จำเลยเบิกความที่อำเภออย่างหนึ่ง มาเบิกความที่ศาลอีกอย่างหนึ่ง โจทก์ต้องสืบว่าคำของจำเลยตอนไหนเปนเท็จ จะสันนิษฐานเอาเองไม่ได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ข้อกฎหมายปัญหาที่ว่าพะยานหลักฐานของโจทก์ที่สืบมาพังลงโทษจำเลยได้หรือไม่ เปนปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา วิกรม

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิกรม