คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 747

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกเป็นบริวารจากการกระทำต่อเนื่อง แม้มีการจดทะเบียนหย่า ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการบังคับคดีได้
เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่นางเจิมในคดีแดงที่ 722/2493 ศาลพิพากษาให้ขับไล่นางเจิม โจทก์อ้างว่าจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นสามีภรรยาเป็นบริวารของนางเจิมขอให้ขับไล่ด้วยจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนางเจิม นางอุไร ภรรยาเป็นผู้เช่าจากนางเจิมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่สามีที่สุดโจทก์กับสามีตกลงประนีประนอมยอมความกันที่ศาล คือโจทก์ยอมให้สาลีเช่าอยู่ต่อไปอีก 2 ปี ครบกำหนดโจทก์ขอให้ศาลบังคับสามีและภรรยา สามียอมออกแต่ภรรยาไม่ยอมออก อ้างว่าตนเป็นผู้เช่าได้รับความคุ้มครอง คำพิพากษาย่อมไม่ผูกพันตนเพราะตนเป็นผู้เช่าสามีไม่มีอำนาจไปทำยอม และได้หย่าขาดจากสามีภรรยาก่อนศาลพิพากษาตามยอมแล้ว
ดังนี้แม้จะได้ความว่าภรรยามีชื่อเป็นผู้เช่า แต่ขณะนั้นสามีภรรยายังอยู่กินในห้องพิพาท เวลาทำสัญญาสามีก็มาด้วยและลงชื่อเป็นพยานในสัญญาเช่า เมื่อคราวศาลเรียกสามีภรรยามาสอบในคดีก่อนคือคดีแดงที่ 722/2493 ภรรยาทราบแต่ไม่มา สามีมาแถลงต่อศาลว่าตนกับภรรยาอยู่ในห้องโดยตนเป็นผู้เช่าจากนางเจิม เมื่อสามีทำยอมกับโจทก์ที่ศาลภรรยาก็ทราบระหว่างนั้นภรรยายังนำค่าเช่ามาชำระให้โจทก์ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นชัดว่าภรรยายอมถือว่าสามีเป็นผู้เช่าห้องพิพาทภรรยาย่อมตกเป็นบริวาร ที่ภรรยาอ้างว่าหย่าขาดนั้นเป็นเพียงโล่ห์บังหน้าเพื่อเลี่ยงการบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทน/ลูกจ้างที่ประมาทเลินเล่อในการทำสัญญาแทนตัวการ/นายจ้าง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
กิจการใดที่ตัวแทนกระทำไปโดยความประมาทเลินเล่อนั้นเป็นเรื่องผิดสัญญา
การฟ้องตัวแทนที่กระทำการประมาทเลินเล่อ ทำให้การเสียหายเป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ต้องฟ้องภายใน 1 ปี
เมื่อคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่ปัญหาข้อกฎหมาย ยังมิได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงในประเด็นศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของธนาคารต่อเจ้าของเช็คเมื่อมีการรับรองเช็คและจ่ายเงินโดยไม่ถูกต้อง
โจทก์ออกเช็คเพื่อชำระค่าไม้ที่บริษัทจำเลยขายหรือจะขายให้โจทก์บริษัทจำเลยส่งไม้ให้ไม่ครบจำนวนโจทก์จึงฟ้องเรียกเงินที่จ่ายเกินไปนั้นคืน จากจำเลย และศาลได้พิพากษาให้บริษัทจำเลยรับผิดคืนเงินจำนวนนั้นให้โจทก์แล้ว แม้จะปรากฎว่าจำเลยได้สลักหลังเช็คนั้น ให้ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยรับรองต่อธนาคารผู้จ่ายว่า ได้นำเงินตามเช็ค (ขีดคล่อม) เข้าบัญชีของผู้รับเงิน คือบริษัทจำเลยแล้วและรับรองว่า ลายมือสลักหลังเช็คนั้น เป็นลายมือสลักหลังที่แท้จริงของผู้รับเงิน ธนาคารผู้จ่ายจึงจ่ายเงินตามเช็คนั้น ให้แก่ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยไป ดังนี้ โจทก์จะฟ้องให้ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยต้องรับผิดอีกด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินและจำนำ: การบังคับจำนำแล้วฟ้องชำระหนี้เงินกู้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
เอาเงินเขาไปแล้วมอบทองรูปพรรณให้ไว้เป็นประกันนั้น แม้การมอบทองรูปพรรม์ให้ไว้จะเป็นจำนำ ซึ่งอาจบังคับ
กันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ดี แต่ถ้าได้บังคับจำนำกันแล้ว ได้เงินไม่พอชำระต้นเงินและดอกเบี้ย จึง
ต้องมาฟ้องร้องขอให้บังคับชำระเงินที่ยังขาดอยู่แล้ว ก็เท่ากับฟ้องร้องให้ชำระหนี้เงินที่กู้ยืมไปนั่นเอง ถ้ามิได้มีหลัก
ฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญแล้ว ก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้./
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินและจำนำ: หลักฐานเป็นหนังสือสำคัญเมื่อมูลหนี้เกิน 50 บาท
เอาเงินเขาไปแล้วมอบทองรูปพรรณให้ไว้เป็นประกันนั้นแม้การมอบทองรูปพรรณให้ไว้จะเป็นจำนำ ซึ่งอาจบังคับกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ดีแต่ถ้าได้บังคับจำนำกันแล้ว ได้เงินไม่พอชำระต้นเงินและดอกเบี้ยจึงต้องมาฟ้องร้องขอให้บังคับชำระเงินที่ยังขาดอยู่แล้วก็เท่ากับฟ้องร้องให้ชำระหนี้เงินที่กู้ยืมไปนั่นเองถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญแล้วก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนำทรัพย์สิน: สิทธิบุริมสิทธิของผู้รับจำนำไม้สัก กรณีจำเลยมีสิทธิใช้ประโยชน์ทรัพย์
ผู้รับจำนำยื่นคำร้องต่อศาลว่าทรัพย์ที่โจทก์ขอให้ศาลยึดนั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้จำนำต่อผู้ร้องไว้ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์นั้นขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์นั้น ชำระหนี้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่นรวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนหนึ่งดังนี้ คดีปรับเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150คือคำขอคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามอัตราของทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง
จำเลยทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารผู้ร้อง 500,000 บาทขอเปิดบัญชีอีก200,000 บาท ได้ทำสัญญามอบไม้สักและไม้ซุงซึ่งอยู่ ณ โรงเลื่อยจำเลยให้ผู้ร้องเป็นประกันผู้ร้องได้เอาตราธนาคารตีประทับบนไม้ และทำหนังสือให้คนดูแลโรงเลื่อยจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา แต่จำเลยมีสิทธิที่จะนำไม้เหล่านี้ไปเลื่อยและขายได้ โดยขออนุญาตผู้ร้องแต่ต้องหามาทดแทนดังนี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำหรือบุคคลภายนอกผู้ใดตามกฎหมาย เพราะผู้จำนำจะนำไม้ที่จำนำไปเลื่อยหรือขายก็ได้ฉะนั้นธนาคารผู้ร้องจะอ้างบุริมสิทธิว่าเป็นการจำนำถูกต้องตามกฎหมายมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนำทรัพย์สิน: การครอบครองทรัพย์สินเป็นสำคัญในการบังคับสิทธิ
ผู้รับจำนำยื่นคำร้องต่อศาลว่าทรัพย์ทีโจทก์ขอให้ศาลยึด - นั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้จำนำต่อผุ้ร้องไว้ ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์นั้น ขอให้เอาที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์นั้น ชำระหนี้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหน้าที่อื่น รวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ดังนี้ คดีปรับเข้า ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 150 คือคำขอคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามอัตราของทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง
จำเลยทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารผู้ร้อง 500,000บาท ได้ทำสัญญามอบไม้สักและไม้ซุงซึ่งอยู่ ณ โรงเลื่อยจำเลยให้ผู้ร้องเป็นประกัน ผู้ร้องได้เอาตราธนาคารดีประทับบนไม้ และทำหนังสือให้คนดูแลโรงเลื่อยจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา แต่จำเลยมีสิทธิ์ที่จะนำไม้เหล่านี้ไปเลื่อยและขายได้ โดยขออนุญาตผู้ร้อง แต่ต้องหามาทดแทน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำหรือบุคคลภายนอกผู้ใดตาม ก.ม. เพราะผู้จำนำจะนำไม้ที่จำนำไปเลื่อยหรือขายก็ได้ฉะนั้นธนาคารผู้รองจะอ้างบุริมสิทธิว่าเป็นการจำนำถูกต้องตาม ก.ม. มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดความรับผิดของผู้กู้ ห้างหุ้นส่วนสามัญก่อนจดทะเบียน ทรัพย์สินส่วนตัวแยกจากนิติบุคคล
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามา แม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ๆ บังคับให้ชำระแล้ว ผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพยืสินของห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้เงินโดยใช้สิทธิหุ้นส่วนเป็นหลักประกันก่อนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามาแม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่ เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ศาลบังคับให้ชำระแล้วผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบทรัพย์จำนำต้องสุทธิจากภาระอื่น หากมีภาระติดพันก่อนกำหนด หามีสิทธิมอบให้ได้ไม่
ทรัพย์ที่ส่งมอบให้เจ้าหนี้ต้องเป็นทรัพย์ที่ลูกหนี้มีสิทธิส่งให้เจ้าหนี้เข้ายึดถือได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
สัญญาจะส่งทรัพย์จำนำต้องส่งทรัพย์ที่ไม่มีภาระติดพัน
of 9