คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 86

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 621 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15805/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสบคบกันเรียกรับทรัพย์สินจากผู้ค้าแผงลอยโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยริมบาทวิถีถนนราชดำเนินกลางด้านทิศใต้ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายวางแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลบนบาทวิถีโดยละเว้นไม่กระทำการในตำแหน่งหน้าที่ที่จะต้องแจ้งข้อหาแก่ผู้เสียหาย โดยมิชอบด้วยหน้าที่และโดยทุจริต การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 149 จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างประจำซึ่งไม่ใช่ข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้งว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งหรือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่กฎหมายระบุไว้โดยเฉพาะให้ถือเป็นเจ้าพนักงาน จำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย คงลงโทษจำเลยที่ 2 ได้แต่เพียงในฐานะผู้สนับสนุน ตาม ป.อ. มาตรา 86
สภาพทางเท้าปูตัวอิฐตัวหนอนไปจนถึงขอบบันไดอาคารมีลักษณะเป็นผืนเดียวกันไม่มีการแบ่งแยกชัดเจนว่าทางเท้าของกรุงเทพมหานครไปสิ้นสุดที่จุดใด การตั้งวางแผงลอยขายของต่างๆ มีทั้งส่วนที่อยู่ใต้ชายคาอาคารและส่วนที่ล้ำออกมานอกชายคาอาคารผู้เสียหายตั้งแผงลอยขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่บนทางเท้า อันถือว่าเป็นถนนตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางบ้างเมือง พ.ศ.2535 แล้ว
ในการพิจารณาคดีของศาล หากมีพยานคู่แต่ไม่สามารถนำสืบได้ในคราวเดียวกัน ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้รับฟังพยานคู่นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12873/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์โดยมีผู้สนับสนุน ความรับผิดของทหารเกณฑ์ที่รู้เห็นและให้ความช่วยเหลือ
จำเลยทั้งสองและ ฉ. เป็นทหารเกณฑ์อยู่ในกองร้อย กองบังคับการ กรมทหารช่างที่ 21 ค่ายภาณุรังษี โดยจำเลยทั้งสามพักอยู่ชั้นที่ 2 ของอาคารกองร้อย ส่วนที่เป็นเรือนนอนของทหารใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับห้องคลังอาวุธ ฉ. เป็นทหารเก่าพักอยู่เรือนนอนชั้นล่าง ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 เข้าเวรอยู่หน้าห้องคลังอาวุธ ฉ. ซึ่งอยู่ในระหว่างได้รับอนุญาตให้ลาหยุดไปเยี่ยมบ้าน ได้กลับเข้ามาในอาคารกองร้อย พบจำเลยที่ 3 จึงขอให้จำเลยที่ 3 ยกเก้าอี้เหล็กมาวางด้านข้างห้องคลังอาวุธ แล้วให้ ฉ. เหยียบบ่าจำเลยที่ 3 เพื่อเปิดฝ้าเพดานของเรือนนอนด้านที่ติดกับผนังห้องคลังอาวุธออก แล้วปีนเข้าไปในห้องคลังอาวุธ ใช้คีมตัดเหล็กตัดตาข่ายเหล็กที่สร้างครอบกรงเหล็กที่เก็บรักษาอาวุธปืน แล้วลักอาวุธปืนพกออโตเมติก 4 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืน 2 ซอง ของกรมทหารช่างที่ 21 กระทรวงกลาโหม ผู้เสียหาย หลังจากนั้น ฉ. ปีนขึ้นฝ้าเพดานออกมาตามทางเดิมและกระโดดลงมาโดยมีจำเลยที่ 3 คอยรับ ส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 2 เห็น ฉ. เข้าไปในเรือนนอนชั้นบนเป็นเวลานานและเห็นจำเลยที่ 3 ยกเก้าอี้เข้าไปด้วย อีกทั้งได้ยินเสียงดังผิดปกติ แต่ไม่ได้เข้าไปตรวจดู และเมื่อ ฉ. ออกจากเรือนนอนพร้อมอาวุธปืน 4 กระบอก จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขอดูอาวุธปืน โดยจำเลยที่ 1 ขออาวุธปืนจาก ฉ. จำนวน 1 กระบอก พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทราบว่า ฉ. เข้าไปลักอาวุธปืนในห้องคลังอาวุธ แต่ไม่ห้ามปราม ส่วนจำเลยที่ 3 ก็ให้ความช่วยเหลือโดยให้ ฉ. ปีนขึ้นไปบนเพดานเพื่อเข้าไปลักอาวุธปืน จึงรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสามรู้เห็นเป็นใจและให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ฉ. ในขณะกระทำความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10616/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษทางอาญา: ศาลอุทธรณ์ปรับลดโทษและวรรคของบทความผิด จำเลยฎีกาไม่ได้ในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 148, 157 ประกอบมาตรา 86, 83 และมาตรา 337 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 148 ประกอบมาตรา 86, 83 อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา 90 จำคุก 10 ปี กับให้จำเลยใช้เงิน 70,000 บาทแก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 148 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 337 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เป็นการปรับบทลงโทษจำเลยในความผิดฐานสนับสนุนให้เจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืน หรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินแก่ตนเองหรือผู้อื่น และระบุวรรคในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 เป็นการแก้ไขเพียงแต่ปรับบทกำหนดโทษและปรับวรรคของบทความผิดให้ถูกต้อง โดยมิได้แก้ฐานความผิดแต่อย่างใด แม้จะแก้โทษด้วยก็ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9988/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการปล้นทรัพย์: การกระทำแม้ไม่สำเร็จตามแผน ก็ยังคงเป็นความผิดฐานสนับสนุนได้
การที่จำเลยที่ 4 ช่วยขับรถจักรยานยนต์พาจำเลยอื่นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนกระทั่งมีการปรึกษาปล้นทรัพย์รถแท็กซี่ซึ่งจำเลยที่ 4 ก็ตกลงด้วย และรับว่าจะทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไปรับเมื่อปล้นทรัพย์เสร็จ เมื่อจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ขึ้นรถแท็กซี่ไปเพื่อปล้นทรัพย์ จำเลยที่ 4 ก็ขับรถจักรยานยนต์ตามไปถือว่าเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ของจำเลยอื่นแล้ว ส่วนการที่จำเลยที่ 4 ขับรถจักรยานยนต์ล้มและจำเลยอื่นกระทำผิดแผนที่ปล้นทรัพย์เพราะผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสจึงไม่อยู่รอจำเลยที่ 4 โดยวิ่งหลบหนีไปก่อนก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 4 พ้นความรับผิดไปได้เพียงแต่ไม่เป็นความผิดฐานร่วมกับจำเลยอื่นปล้นทรัพย์เท่านั้น คงมีความผิดฐานสนับสนุนการปล้นทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: ความผิดฐานสนับสนุน vs. ตัวการร่วม
จำเลยรับฝากเมทแอมเฟตามีนไว้จาก จ. โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จ. มีเจตนานำเมทแอมเฟตามีนของกลางมาส่งมอบให้จำเลยเพื่อจำหน่ายโดยตรงแต่อย่างใดจึงถือไม่ได้ว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกับนาง จ. มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามที่โจทก์ฟ้อง คงรับฟังได้เพียงว่า จำเลยให้ความสะดวกแก่ จ. ในการมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนนาง จ. กระทำความผิดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการสมคบร่วมปลอมเอกสารและเบียดบังทรัพย์ ธนาคาร
จำเลยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขาของธนาคารผู้เสียหายกรอกข้อความลงในหนังสือสัญญากู้เงินโดยใช้เงินฝากเป็นประกันและหนังสือยินยอมมอบเงินฝากเพื่อเป็นหลักประกันการชำระเงินกู้และหรือเป็นหลักประกันการออกหนังสือค้ำประกันที่มีลายมือชื่อปลอมของ ห. และ ต. แล้วจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้ตรวจเอกสารดังกล่าวโดย ส. ผู้จัดการสาขาเป็นผู้อนุมัติเงินกู้ นำไปให้พนักงานการเงินผู้จ่ายเงินตรวจจ่ายเงินให้จำเลยรับเงินไปด้วยตนเอง และนำเงินไปมอบให้ ส. แล้วมีการเก็บเอกสารต่างๆ ไว้ในตู้นิรภัยของธนาคาร โดยไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของ ห. และ ต. อยู่ด้วยตามขั้นตอนและข้อบังคับของธนาคาร แสดงว่าจำเลยมีส่วนรู้เห็นกับ ส. เป็นการวางแผนกันมาก่อนและมีการแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยจึงเป็นตัวการสมคบร่วมกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4, 11 และ ป.อ. มาตรา 268, 352, 354 กับ ส. มาตั้งแต่ต้น มิใช่ผู้สนับสนุน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด: การแบ่งหน้าที่ชัดเจนแสดงเจตนา
การที่จำเลยที่ 2 กับพวกเป็นผู้เจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับดาบตำรวจ ช. โดยสอบถามจำนวนและกำหนดราคากันก่อน จากนั้นจำเลยที่ 2 พาดาบตำรวจ ช. กับสายลับไปพบ ว. และจำเลยที่ 1 เพื่อชำระเงินและรับเมทแอมเฟตามีน แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกับจำเลยที่ 1 และ ว. แบ่งหน้าที่กันทำในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้เจรจาซื้อขาย และจำเลยที่ 1 กับ ว. เป็นผู้รับเงินและส่งมอบเมทแอมเฟตามีน อันมีลักษณะเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิด มิใช่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่การจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการปล้นทรัพย์: การให้ยืมรถจักรยานยนต์และมีดโดยรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำผิด
จำเลยที่ 4 และ ธ. เป็นผู้ขอยืมรถจักรยานยนต์และมีดจากจำเลยที่ 3 ที่บ้านจำเลยที่ 3 โดยก่อนขอยืมบุคคลทั้งสองชวนจำเลยที่ 3 ไปปล้นทรัพย์ด้วย จำเลยที่ 3 ปฏิเสธไม่ไป แต่จำเลยที่ 3 ให้บุคคลทั้งสองยืมรถจักรยานยนต์ไปแทน เป็นการให้ยืมโดยรู้ว่าบุคคลทั้งสองจะนำไปใช้ปล้นทรัพย์รายนี้จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการมรดกโอนหุ้นให้ผู้อื่นโดยมิชอบ ทำให้ทายาทเสียหาย ถือเป็นความผิดอาญา
จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายมีหน้าที่จัดการมรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายตามสิทธิที่จะพึงมีพึงได้ การที่จำเลยที่ 1 โอนหุ้นของผู้ตายให้แก่จำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วจำเลยที่ 3 โอนหุ้นดังกล่าวกลับมาให้จำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้เป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับทรัพย์มรดก จึงเป็นการกระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริต ทำให้โจทก์ทั้งสามไม่ได้รับแบ่งปันหุ้นดังกล่าว ถือว่าเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ทั้งสาม แม้จะได้ความว่าบริษัทนี้มีหนี้สินค้างชำระเป็นจำนวนมากก็เป็นคนละกรณีกัน เพราะโจทก์ทั้งสามต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิด การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 354 ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ทั้งไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้รับมอบหมายให้จัดการหุ้นดังกล่าวของผู้ตายหรือไม่ อย่างไร คงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 รับโอนหุ้นดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และจำเลยที่ 2 รับโอนหุ้นกลับมาจากจำเลยที่ 3 เท่านั้น การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิด จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตาม ป.อ. มาตรา 354 ประกอบมาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมฆ่าผู้อื่น: การส่งมีดและให้กำลังใจถือเป็นเจตนาช่วยเหลือการกระทำผิด
การที่จำเลยทั้งสองเดินมาที่กลุ่มผู้ตาย และจำเลยที่ 1 ใช้ขวดสุราตีที่ศีรษะผู้ตาย 1 ครั้ง ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยที่ 2 ส่งมีดปลายแหลมให้จำเลยที่ 1 พร้อมกับพูดให้จำเลยที่ 1 แทงผู้ตาย จำเลยที่ 1 ก็รับมีดปลายแหลมจากจำเลยที่ 2 มาแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอก 1 ครั้ง แล้วจำเลยทั้งสองหลบหนีไปด้วยกัน ถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายด้วย หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนไม่
of 63