คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 86

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 621 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำผิดฐานพยายามฆ่า: จำเลยไม่ได้มีส่วนร่วมวางแผนหรือช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ
จำเลยและ ฉ. พวกจำเลยซึ่งใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ร่วมมาก่อน การที่โจทก์ร่วมเดินเข้าไปหากลุ่มของจำเลยกับ ฉ. แล้วถูก ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณช่องท้อง 1 นัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดโดยจำเลยไม่อาจคาดคิด การที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จำเลยมิได้ร่วมวางแผนหรือสมคบคิดกับ ฉ. ด้วย แม้ ฉ. กับจำเลยจะวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยกันแล้ว ฉ. นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับหลบหนีไปก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลัง จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม จึงไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนความผิดพยายามฆ่า: จำเลยต้องมีส่วนร่วมก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงจะมีความผิดฐานสนับสนุน
โจทก์ร่วมกับจำเลยและ ฉ. พวกจำเลยไม่เคยรู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน โจทก์ร่วมพบกับจำเลยและ ฉ. ในที่เกิดเหตุโดยบังเอิญ การที่โจทก์ร่วมเดินเข้าไปหากลุ่มของจำเลยกับ ฉ. แล้วถูก ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณช่องท้อง 1 นัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด การที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จำเลยหาได้ร่วมวางแผนหรือสมคบคิดกับ ฉ. ด้วยไม่ แม้ภายหลังที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมแล้ว ฉ. กับจำเลยจะวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยกัน แล้ว ฉ. นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับหลบหนีไปก็เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นภายหลังที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าโจทก์ร่วมแล้ว การกระทำของจำเลยมิได้เกิดขึ้นก่อนหรือขณะ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม จึงไม่อาจถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะที่ ฉ. ใช้อาวุธปืนยิง โจทก์ร่วมแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4978/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการสนับสนุน หากจำเลยหลักพ้นผิด ผู้สนับสนุนก็ต้องพ้นผิดด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 โจทก์ฎีกา เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2 ย่อมไม่อาจกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4978/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสนับสนุนทางอาญา: เมื่อความผิดหลักสิ้นสุด ผู้สนับสนุนก็ไม่ต้องรับโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่งและลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2ย่อมไม่อาจเป็นผู้กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในความผิดฐานนี้ได้ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3962/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสนับสนุนการฉ้อโกงและใช้เอกสารปลอม: พยานหลักฐานรับสารภาพและพฤติการณ์สนับสนุน
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่บ้านผู้เสียหายเพื่อให้จำเลยที่ 2ที่ 3 กู้เงินผู้เสียหายโดยใช้หนังสือรับรองการทำประโยชน์ สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชนปลอมเป็นหลักฐานการขอกู้เงิน และไปจอดรถรออยู่ริมบึง ซึ่งพันตำรวจตรี บ. ผู้ร่วมจับกุมจำเลยทั้งสามได้วางกำลังเจ้าพนักงานตำรวจไว้รอบบึงเจ้าพนักงานตำรวจได้วิทยุแจ้งเหตุการณ์ให้ทราบ ตั้งแต่ขณะจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วไปจอดรถรออยู่ระหว่างจับกุมจำเลยที่ 2 และที่ 3 จำเลยที่ 1รู้ตัวจึงขับรถยนต์หลบหนี เจ้าพนักงานตำรวจวิทยุสกัดจับกุมไว้ได้ ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 รับว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในการปลอมเอกสารนำเอกสารที่ช่วยกันทำปลอมขึ้นไปถ่ายสำเนาหลายครั้งและขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตั้งแต่วันแรกและไปนอนค้างคืนที่โรงแรมในอำเภอ และวันรุ่งขึ้นก็ยังขับรถยนต์ไปส่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่บ้านผู้เสียหายอีก และขณะถูกจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจค้นในรถก็พบกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยที่ 2 และที่ 3 พยานหลักฐานโจทก์จึงปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฐานร่วมกันพยายามฉ้อโกงและฐานร่วมกันใช้เอกสารราชการและเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3378/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการปล้นทรัพย์: พยานหลักฐานจากคำซัดทอดผู้ร่วมกระทำผิดและการรับสารภาพของผู้ต้องหา
แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยที่ 5 จัดหามีดของกลางมาใช้ปล้นทรัพย์แต่โจทก์มีคำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 4 ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าจำเลยที่ 5เป็นผู้จัดหาอาวุธมีดมาใช้ในการปล้นทรัพย์ ซึ่งแม้คำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 4 จะเป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิด แต่คำซัดทอดดังกล่าวมิได้เป็นเรื่องการปัดความผิดของจำเลยที่ 4 ไปยังผู้อื่น แต่เป็นการให้การถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 5 นั้นก็เป็นถ้อยคำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง โดยให้การในรายละเอียดถึงเหตุการณ์การกระทำผิดตั้งแต่วางแผนกระทำผิดจนกระทั่งหลังกระทำผิดแล้วตกลงแบ่งปันทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด เชื่อว่าจำเลยที่ 5 ให้การตามความจริงด้วยความสมัครใจจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 5 ได้จัดหามีดมาใช้ในการปล้นทรัพย์คดีนี้อันเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการกระทำความผิด จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุก-พยายามลักทรัพย์: พฤติการณ์นั่งพัก-จับแฮนด์รถไม่พอฟัง
คืนเกิดเหตุอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จำเลยที่ 3 เมาสุราแล้วอาเจียนจำเลยที่ 1จอดรถให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ลง แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 พากันเข้าไปนั่งที่ม้านั่งหน้าบ้านผู้เสียหายซึ่งประตูรั้วบ้านเปิดอยู่ พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นการถือวิสาสะ เพราะความมึนเมาสุราและไม่สามารถบังคับจิตใจตนเองได้ เมื่อนั่งอยู่ประมาณ 5 นาที อาจจะด้วยความคึกคะนอง จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงลุกขึ้นและเดินไปเอามือจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ โดยยังไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้กระทำการใดอันมีลักษณะที่จะติดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ และไม่ปรากฏว่าพบเครื่องมือใด ๆ ในตัวจำเลยที่ 2 และที่ 3 พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตามที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอฟังว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีเจตนาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และลงมือกระทำความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 2และที่ 3 กระทำความผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสนับสนุนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อน และการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยมีเจตนา
ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม่โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาตราบเท่าที่โรงงานแปรรูปไม้นั้นยังตั้งอยู่ และผู้ตั้งโรงงานยังไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้ตั้งโรงงานในช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิด เมื่อจำเลยไปช่วยก่อสร้างและรับจ้างทำงานในโรงงานดังกล่าวแสดงว่าจำเลยทำงานมานานประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยหลบหนีจึงฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าโรงงานนั้นตั้งขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การที่จำเลยทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงานโดยทำไม้วงกบประตูให้แก่ ค. นายจ้างที่จะนำไปสร้างบ้านย่อมเป็นการช่วยเหลือ ค. อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของ ค. แล้วและเมื่อจำเลยเป็นผู้แปรรูปไม้สักของกลาง จำเลยย่อมเป็นผู้ดูแลรักษาไม้นั้นเพื่อมอบให้แก่ ค. จำเลยจึงมีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองอีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7154/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดสนับสนุนการออกใบเสร็จปลอม - การลงโทษซ้ำซ้อน
ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีโดยมิชอบเท่านั้น จำเลยที่ 2 จึงไม่ได้เป็นผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีและเมื่อมีการล่อซื้อใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีปลอมจำนวน 69 ชุดในครั้งเดียวการกระทำของจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินปลอมรวม 69 ชุด จึงเป็นความผิดกรรมเดียว การที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2ในความผิดฐานนี้ 69 กระทง จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6443/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสนับสนุนการทำแท้ง แม้ผู้เสียหายยินยอม การกระทำดังกล่าวก็ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้หญิงคนหนึ่งไม่ทราบชื่อทำให้นางสาว ป. ผู้เสียหายแท้งลูกโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตาม ป.อ. มาตรา 83 , 84 , 303 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้เสียหายไปหาจำเลยที่ 1 ที่บ้านและถูกจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่สถานีอนามัยจึงทราบว่าผู้เสียหายตั้งครรภ์ ต่อมาจำเลยทั้งสามมาหาผู้เสียหายที่บ้านโดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถ จำเลยที่ 2 เป็นมารดาจำเลยที่ 1 แล้วพาผู้เสียหายไปหาผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อทำแท้ง ระหว่างทางจำเลยที่ 3 ลงจากรถไปก่อน จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 พาผู้เสียหายเข้าไปทำแท้งในบ้านหลังหนึ่งโดยผู้เสียหายยินยอมให้ทำแท้งลูก ระหว่างการทำแท้งจำเลยที่ 1 นั่งขวางประตูบ้านอยู่ด้วย พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะกระทำความผิดในการที่ผู้อื่นทำแท้งผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ตามมาตรา 302 วรรคแรก ประกอบมาตรา 86 แม้โจทก์จะมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรานี้ ศาลก็ย่อมลงโทษได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย เพราะการทำให้แท้งลูกไม่ว่าหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติเป็นความผิดทั้งนั้น หากแต่กำหนดโทษหนักเบาต่างกัน
of 63