คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 86

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 621 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2057/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โดยการยุยงส่งเสริม และความรับผิดฐานผู้สนับสนุน
จำเลยตะโกนว่า พ่อมันมาแล้ว เอามันเลย แล้ว ส. ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงผู้ตาย ดังนี้จำเลยต้องมีความผิดฐานยุยงส่งเสริมให้นาย ส. ฆ่าผู้ตาย ตาม ป.อ. มาตรา 84 ประกอบด้วยมาตรา 288 โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำผิด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ใช้แตกต่างจากฟ้อง จึงลงโทษในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำผิดไม่ได้ แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 86 ด้วย ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจัดซื้อย่อมไม่มีความผิดฐานมีส่วนได้เสีย หากการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบและเป็นประโยชน์ต่อส่วนราชการ
ผู้ที่จะมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 152 จะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น เมื่อปรากฏว่าในการจัดซื้อดินถมพร้อมบดอัดแน่นจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.นั้น เทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าการจัดซื้อดินดังกล่าวจำเลยที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรีได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตนไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์อย่างอื่นนอกจากประโยชน์ของเทศบาลเป็นสำคัญ แม้จำเลยที่ 1จะเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ตาม กรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 152 เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทที่ตนเองเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด ไม่ถือว่ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ตนเอง หากการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบและราคาต่ำกว่างบประมาณ
ผู้ที่จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152จะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น เมื่อปรากฏว่าในการจัดซื้อดินถมพร้อมบดอัดแน่นจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. นั้น เทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าการจัดซื้อดินดังกล่าวจำเลยที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรีได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตนไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์ของเทศบาลเป็นสำคัญ แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ก็ตามกรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์ ผู้ใช้สั่งการ และผู้สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 ไปลักทรัพย์โดยไม่ได้ร่วมไปลักทรัพย์ด้วยถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการในการกระทำความผิดดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 83 และฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามมาตรา 84จะลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดไม่ได้เช่นกันแต่การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือได้ว่า เป็นการสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดตามมาตรา 86 แม้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ในฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสนับสนุนการฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการกระทำความผิด
จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 2 นัด โดยมีเจตนาฆ่าจำเลยที่ 2 เข้าล็อกคอและจับแขนผู้ตายหลังจากที่จำเลยที่ 1ใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย 1 นัด แล้วผู้ตายสลัดหลุดแล้วล้มลง จึงถูกจำเลยที่ 1 จ่อยิงอีก 1 นัด โดยที่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้ตายและไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายมาก่อน การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1ในการยิงผู้ตายนัดที่ 2 เท่านั้น จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิด
ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตาย แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ 1ที่ 2 เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน เป็นการแตกต่างกันในสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสอง ลงโทษทั้งสองฐานนี้ไม่ได้ แต่การที่จำเลยที่ 1 ร้องสั่งให้จำเลยที่ 2 ทำร้ายผู้ตายเป็นการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ด้วย ศาลจึงมีอำนาจลงโทษฐานผู้สนับสนุนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5366/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสนับสนุนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อน แม้รับจ้างแต่ทราบถึงการกระทำผิด
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโรงงานที่จำเลยรับจ้างทำการแปรรูปไม้ ตั้งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำของจำเลยถือได้ว่า เป็นความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดฐานตั้ง โรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3204/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำผิดฐานครอบครองไม้ผิดกฎหมาย แม้ไม่มีส่วนร่วมครอบครองโดยตรง
โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยอ้างเอาพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ซึ่งรับขนไม้ของกลางโดยรู้อยู่ว่าเป็นไม้ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นข้อสันนิษฐานว่า จำเลยมีส่วนครอบครองไม้ของกลางด้วย แต่ไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยที่ 1ร่วมครอบครองไม้ของกลาง ดังนี้การนำข้อสันนิษฐานมาลงโทษจำเลยย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะความจริงอาจเป็นดังข้อสันนิษฐานหรือเป็นอย่างอื่นก็ได้ทั้งสองกรณี ฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิด ถือได้ว่ามีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานร่วมครอบครองไม้ของกลางหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1 ถือว่าจำเลยที่ 1 มิได้ร่วมกระทำผิดฐานครอบครองไม้ของกลาง แต่การที่จำเลยที่ 1 รับขนไม้ของกลางให้ผู้กระทำผิดโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3196/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับมอบเอกสารปลอมและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยรับมอบเอกสารของกลางและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบโดยจำเลยทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ซึ่งแม้การที่จำเลยต้องจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้นำมาส่งมอบจะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยมิได้มีส่วนร่วมในการปลอมเอกสารและรอยตราในเอกสาร การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ตาม ป.อ. มาตรา 84 ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามป.อ. มาตรา 84 แต่ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานตัวการร่วมกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 83 จึงแตกต่างจากที่ปรากฏในทางพิจารณาในสาระสำคัญ ลงโทษจำเลยฐานผู้ใช้ไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสองแต่การกระทำของจำเลยซึ่งยังถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 86 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งหน้าที่กรรมการตรวจคะแนนเลือกตั้ง และการขาดเจตนาทุจริต ทำให้ไม่ความผิดฐานทุจริตการเลือกตั้ง
มีการทุจริตโดยมีการทอดบัตรเลือกตั้งจำนวนหนึ่งลงไปใน หีบบัตรเลือกตั้งในหน่วยลงคะแนนที่จำเลยรับผิดชอบอยู่ แต่ตาม พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดฯ ได้แบ่งหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจนับคะแนนออกเป็น 5 ฝ่าย ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 แต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้ตรวจบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง ส่วนจำเลยที่ 3 ถึงที่ 8 ไม่ปรากฏว่าได้เข้าไปช่วยเหลือจำเลยที่ 2ทำหน้าที่หรือรู้เห็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ด้วย จึงฟัง ไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 8 กระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ส่วนการทำรายงานแสดงผลการนับคะแนนซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการตรวจคะแนนทุกคนนั้น เมื่อมีการแบ่งหน้าที่ทำกันและจำเลยที่ 3ถึงที่ 8 ไม่อาจทราบได้ว่ามีผู้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งและทอดบัตรเลือกตั้งเป็นจำนวนเท่าใด การทำรายงานแสดงผลการนับคะแนน ย่อมทำไปตามที่ปรากฏจากบัญชีผู้เลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งที่ผู้ใช้สิทธิทอด แม้จะปรากฏว่ารายงานแสดงผลการนับคะแนนไม่ตรงต่อความเป็นจริงก็ไม่อาจฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 ถึงที่ 8มีเจตนาทุจริตร่วมกับจำเลยที่ 2 ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้ง มีหน้าที่เป็นหัวหน้าควบคุมดูแลการเลือกตั้งประจำหน่วยลงคะแนน ซึ่งเป็นหน้าที่ทั่ว ๆ ไปเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยเรียบร้อยหาได้มีหน้าที่ตรวจบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งไม่ จำเลยที่ 9ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คะแนนมีหน้าที่แต่เพียงขีดคะแนนลงบนแผ่นป้ายกระดานดำในตอนที่มีการนับคะแนนเท่านั้นมิได้มีหน้าที่อื่นเมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 9 เข้าไปช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 2 ด้วย จำเลยที่ 1และจำเลยที่ 9 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 2
of 63