คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 86

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 621 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2118/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาแก้โทษและไม่ริบเสื้อของกลาง
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก 2 คน ร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นตายปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ช่วยวางแผนให้คนร้าย 2 คน ไปกระทำผิดในสวนยางและขณะคนร้าย 2 คน ไปกระทำความผิดตามแผนที่วางแผนไว้ จำเลยยืนอยู่นอกสวนยางห่างสวนยางชั่วระยะตะโกนกันได้ยิน ในช่วงระยะเวลาที่คนร้าย 2 คน ดังกล่าวกระทำความผิด อ. บุตรผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ผ่านจำเลยเข้าไปในสวนยางที่เกิดเหตุ จำเลยก็มิได้ส่งสัญญาณให้คนร้าย 2 คน ดังกล่าวทราบหรือเข้าช่วยคนร้าย 2 คนนั้น คงยืนอยู่เฉย ๆ เมื่อคนร้าย 2 คนนั้นกระทำความผิดตามที่วางแผนไว้สำเร็จแล้วคนร้ายคนหนึ่งหลบหนีไปทางอื่น คนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายผ่านหน้าจำเลยไปแล้วจำเลยก็กลับบ้าน การกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับคนร้าย 2 คนนั้น โดยแบ่งหน้าที่กันทำ แต่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่คนร้าย 2 คนดังกล่าวกระทำความผิด จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของคนร้าย 2 คนดังกล่าว
เมื่อปรากฏว่าคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไปจนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายมี 2 คน การกระทำของคนร้าย 2 คนดังกล่าว จึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคท้าย
เสื้อแจกเกตของคนร้ายที่ทิ้งไว้รวมกับบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ตายที่คนร้ายชิงไปถือไม่ได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด นอกจากนี้เสื้อดังกล่าวยังมิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิด ศาลจะริบเสื้อดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2118/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดชิงทรัพย์จนผู้อื่นถึงแก่ความตาย: ความรับผิดของผู้ให้ความช่วยเหลือ
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก2คนร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นตายปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ช่วยวางแผนให้คนร้าย2คนไปกระทำผิดในสวนยางและขณะคนร้าย2คนไปกระทำความผิดตามแผนที่วางแผนไว้จำเลยยืนอยู่นอกสวนยางห่างสวนยางชั่วระยะตะโกนกันได้ยินในช่วงระยะเวลาที่คนร้าย2คนดังกล่าวกระทำความผิดนางสาวอ.บุตรผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ผ่านจำเลยเข้าไปในสวนยางที่เกิดเหตุจำเลยก็มิได้ส่งสัญญาณให้คนร้าย2คนดังกล่าวทราบหรือเข้าช่วยคนร้าย2คนนั้นคงยืนอยู่เฉยๆเมื่อคนร้าย2คนนั้นกระทำความผิดตามที่วางแผนไว้สำเร็จแล้วคนร้ายคนหนึ่งหลบหนีไปทางอื่นคนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายผ่านหน้าจำเลยไปแล้วจำเลยก็กลับบ้านการกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับคนร้าย2คนนั้นโดยแบ่งหน้าที่กันทำแต่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่คนร้าย2คนดังกล่าวกระทำความผิดจำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของคนร้าย2คนดังกล่าว. เมื่อปรากฏว่าคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไปจนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายมี2คนการกระทำของคนร้าย2คนดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339วรรคท้าย. เสื้อแจกเกตของคนร้ายที่ทิ้งไว้รวมกับบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ตายที่คนร้ายชิงไปถือไม่ได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดนอกจากนี้เสื้อดังกล่าวยังมิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดศาลจะริบเสื้อดังกล่าวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการฉ้อโกง: จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักจูงผู้เสียหายโดยตรง
ผู้เสียหายทั้งสี่ติดต่อกับบุตรทั้งสองของจำเลยจนตกลงใจจะไปทำงานในต่างประเทศและได้ไปขอหนังสือเดินทางนัดหมายชำระเงินค่าตอบแทนให้บุตรทั้งสองของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นแนะนำชักพาให้ผู้เสียหายเหล่านั้นนำเงินไปมอบให้แก่บุตรของตนแต่อย่างใดแม้จะปรากฏว่าขณะผู้เสียหายทั้งสี่นำเงินไปจ่ายตามนัดจำเลยอยู่ด้วยช่วยพูดเสริมคำของบุตรทั้งสองกับช่วยนับเงินที่ผู้เสียหายเหล่านั้นนำไปชำระเมื่อปรากฏว่าผู้เสียหายทั้งสี่ปลงใจที่จะจ่ายเงินถึงขนาดไปทำหนังสือเดินทางเสร็จกำหนดวันที่จะจ่ายเงินกันไว้แน่นอนแล้วโดยเชื่อตามคำพูดของบุตรทั้งสองของจำเลยก่อนที่จะพบกับจำเลยเช่นนี้ย่อมแสดงว่าผู้เสียหายทั้งสี่พร้อมที่จะจ่ายเงินให้บุตรทั้งสองของจำเลยไม่ว่าจำเลยจะอยู่ด้วยในวันนัดพบจ่ายเงินหรือไม่พฤติการณ์ของจำเลยยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำของบุตรทั้งสองของจำเลยจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนการฉ้อโกง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการฉ้อโกง: จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักจูงผู้เสียหายตั้งแต่แรก และไม่ได้ช่วยเหลือการกระทำความผิด
ผู้เสียหายทั้งสี่ติดต่อกับบุตรทั้งสองของจำเลยจนตกลงใจจะไปทำงานในต่างประเทศและได้ไปขอหนังสือเดินทางนัดหมายชำระเงินค่าตอบแทนให้บุตรทั้งสองของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นแนะนำชักพาให้ผู้เสียหายเหล่านั้นนำเงินไปมอบให้แก่บุตรของตนแต่อย่างใด แม้จะปรากฏว่าขณะผู้เสียหายทั้งสี่นำเงินไปจ่ายตามนัด จำเลยอยู่ด้วยช่วยพูดเสริมคำของบุตรทั้งสองกับช่วยนับเงินที่ผู้เสียหายเหล่านั้นนำไปชำระ เมื่อปรากฏว่าผู้เสียหายทั้งสี่ปลงใจที่จะจ่ายเงินถึงขนาดไปทำหนังสือเดินทางเสร็จ กำหนดวันที่จะจ่ายเงินกันไว้แน่นอนแล้วโดยเชื่อตามคำพูดของบุตรทั้งสองของจำเลยก่อนที่จะพบกับจำเลยเช่นนี้ ย่อมแสดงว่าผู้เสียหายทั้งสี่พร้อมที่จะจ่ายเงินให้บุตรทั้งสองของจำเลยไม่ว่าจำเลยจะอยู่ด้วยในวันนัดพบจ่ายเงินหรือไม่ พฤติการณ์ของจำเลยยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำของบุตรทั้งสองของจำเลยจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนการฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและการสนับสนุนการกระทำผิด จำเลยมีผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและผู้จัดการเกสท์เฮ้าส์ นำม.ผู้ติดต่อล่อซื้อเฮโรอีนไปเปิดห้องพักในเกสท์เฮ้าส์ เอาเฮโรอีนออกมาจากตู้เสื้อผ้ามาขายให้ ม. จำเลยที่ 1 จึงมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน เมื่อ ม. ไปพบจำเลยที่ 1 ครั้งแรก และเจรจาซื้อขายเฮโรอีนกัน จำเลยที่ 2 ได้ช่วยเจรจาซื้อขายอยู่ด้วยช่วยแนะนำถึงวิธีบรรจุเฮโรอีน เมื่อ ม. ไปติดต่อในครั้งต่อ ๆ มา จำเลยที่ 2 ก็ช่วยแจ้งให้ทราบว่าจำเลยที่ 1ไม่อยู่กำลังไปจัดหาเฮโรอีนมาให้ และแจ้งเวลานัดหมายให้มาพบจำเลยที่ 1 ใหม่ ดังนี้ เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จำหน่ายเฮโรอีน จำเลยที่ 2จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสนับสนุนการจำหน่ายยาเสพติด: การช่วยเหลือเจรจาและแจ้งข้อมูลการนัดหมาย
เมื่อผู้ล่อซื้อไปพบจำเลยที่ 1 ครั้งแรกและเจรจาซื้อขายเฮโรอีนกัน จำเลยที่ 2 ได้ช่วยเจรจาซื้อขายด้วย ช่วยแนะนำวิธีบรรจุเฮโรอีน และเมื่อผู้ล่อซื้อไปติดต่อในครั้งต่อ ๆ มา จำเลยที่ 2 ก็ช่วยแจ้งให้ทราบว่า จำเลยที่ 1 ไม่อยู่กำลังไปจัดหาเฮโรอีนมาให้และแจ้งเวลานัดหมายให้มาพบจำเลยที่ 1 ใหม่ได้เมื่อใด การกระทำของจำเลยที่ 2 ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จำหน่ายเฮโรอีน จำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดฐานเป็นคนกลางเรียกค่าไถ่ จำเลยให้ความช่วยเหลือในการหาเงินค่าไถ่ เข้าข่ายความผิดฐานนั้น มิใช่แค่สนับสนุน
จำเลยที่1กับจำเลยคนอื่นร่วมกันจับตัวผู้เสียหายไปเพื่อเรียกค่าไถ่ขณะที่บุตรชายของผู้เสียหายนำเงินค่าไถ่ไปให้จำเลยที่1มีจำเลยที่2และจำเลยที่4ซึ่งเป็นภรรยาของจำเลยที่1กับพวกอีก3คนอยู่ในที่นั้นด้วยจำเลยที่4พูดกับบุตรชายของผู้เสียหายว่า'เขาเอาเท่าไหร่ก็ให้เขาไปเสียจะได้หมดเวรหมดกรรมกัน'พฤติการณ์ของจำเลยที่4เป็นการช่วยพูดให้บุตรชายผู้เสียหายหาเงินค่าไถ่มาให้ตามที่พวกจำเลยเรียกร้องเข้าลักษณะความผิดฐานกระทำการเป็นคนกลางเรียกทรัพย์สินจากผู้ที่จะให้ค่าไถ่มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกค่าไถ่ พฤติการณ์สนับสนุนการหาเงินค่าไถ่เข้าข่ายความผิดฐานดังกล่าว
จำเลยที่1กับจำเลยคนอื่นร่วมกันจับตัวผู้เสียหายไปเพื่อเรียกค่าไถ่ขณะที่บุตรชายของผู้เสียหายนำเงินค่าไถ่ไปให้จำเลยที่1มีจำเลยที่2และจำเลยที่4ซึ่งเป็นภรรยาของจำเลยที่1กับพวกอีก3คนอยู่ในที่นั้นด้วยจำเลยที่4พูดกับบุตรชายของผู้เสียหายว่า"เขาเอาเท่าไหร่ก็ให้เขาไปเสียจะได้หมดเวรหมดกรรมกัน"พฤติการณ์ของจำเลยที่4เป็นการช่วยพูดให้บุตรชายผู้เสียหายหาเงินค่าไถ่มาให้ตามที่พวกจำเลยเรียกร้องเข้าลักษณะความผิดฐานกระทำการเป็นคนกลางเรียกทรัพย์สินจากผู้ที่จะให้ค่าไถ่มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการฆ่าผู้อื่น: การส่งกระสุนปืนเข้าข่ายช่วยเหลือการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำพวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืนพวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตามต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิดใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,86.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการฆ่าผู้อื่น: การส่งกระสุนปืนเข้าข่ายช่วยเหลือการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำพวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืนพวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตามต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิดใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ตามป.อ.มาตรา288,86.
of 63