คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 59

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3435/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดและเจตนาฆ่าจากพยานหลักฐานและลักษณะบาดแผล
จำเลยฟันทำร้าย ส. ได้รับบาดแผล 3 แห่ง คือ ที่ศีรษะด้านขวายาวประมาณ 8 เซนติเมตร ลึกถึงกะโหลกศีรษะ ที่เต้านมข้างซ้ายยาวประมาณ 8 เซนติเมตร ลึก 3 เซนติเมตร และที่รักแร้ขวาและหน้าอกยาว 8 เซนติเมตร ซึ่งล้วนเป็นบาดแผลที่อวัยวะอันเป็นส่วนสำคัญของร่างกายทั้งสิ้น อาวุธที่ใช้ในการกระทำผิดก็เป็นขวานขนาดใหญ่คมขวานกว้างประมาณ 3 นิ้วฟุต ด้ามยาวประมาณ 1 ศอก สามารถฟันทำร้ายถึงตายได้โดยง่าย กิริยาที่จำเลยกระทำก็ปรากฏจากลักษณะบาดแผลดังกล่าวมาแล้วว่าเป็นการฟันโดยแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีผู้เสียหายก็อาจถึงแก่ความตายได้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3393/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรงหลายคนร่วมกัน ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงการเล็งเห็นผลถึงชีวิต
การที่จำเลยกับพวกหลายคนใช้อาวุธมีดและไม้ท่อนซึ่งเป็นอาวุธขนาดใหญ่อาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ กลุ้มรุมทำร้ายผู้ตายมีบาดแผล 8 แห่ง ล้วนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ กะโหลกศีรษะบิ่นเป็นแนวยาว และกะโหลกศีรษะแตกร้าว บาดแผลที่สำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ลึกเข้าช่องอกขวาทะลุปอดและหัวใจแสดงว่าจำเลยกับพวกใช้อาวุธมีด ไม้ ทั้งตี ฟันและแทงผู้ตายอย่างแรงหลายครั้ง ดังนี้ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้ว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงโดยตรง, พยายามฆ่า, และการชิงทรัพย์: การพิเคราะห์หลักฐานและการร่วมกระทำผิด
การที่จำเลยที่ 1 เล็งอาวุธปืนไปทางผู้เสียหาย ขณะเดียวกันได้พูดว่ามึงตายเสียเถอะ ประกอบกับภายในอาวุธปืนของจำเลยที่ 1ก็มีปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว 4 ปลอก และคำให้การของจำเลยที่ 1ในชั้นสอบสวนระบุว่าได้เล็งอาวุธปืนไปทางผู้เสียหายแล้วยิง 1 นัดแต่กระสุนปืนไม่ลั่น เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ยิงอีก 4 นัดกระสุนปืนลั่น ทั้งจำเลยที่ 1 แสดงท่าไล่ยิงเล็งอาวุธปืนตรงไปทางผู้เสียหายให้ถ่ายรูปประกอบคำรับสารภาพไว้ ดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าแต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า จำเลยทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกาญจนบุรีได้ไป จังหวัดสมุทรสงครามด้วยกัน จำเลยทั้งสองว่าจ้างผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ไปส่ง ผู้เสียหายคิดราคา 80 บาท จำเลยที่ 1ต่อราคาเพราะมีเงินเพียง 100 บาทผู้เสียหายไม่ลดราคา จำเลยที่ 1คิดไม่จ่ายค่าจ้างและชิงเอารถจักรยานยนต์ จึงลวงให้ผู้เสียหายให้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งอีก ตลอดระยะเวลาดังกล่าวจำเลยที่ 2ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย ไม่มีโอกาสที่จะสมคบกับจำเลยที่ 1 ได้การที่จำเลยที่ 2 หลบหนีไปกับจำเลยที่ 1 ด้วยรถจักรยานยนต์คันเดียวนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จำเลยที่ 2 จะต้องไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามี ดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการกระทำโดยบันดาลโทสะ: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายหลายครั้งและเลือกแทงบริเวณกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลด้านหลังขวาที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เป็นแผลฉกรรจ์บริเวณช่องซี่โครงที่ 8 กว้าง 0.5เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดและลึกเข้าไปในเนื้อปอด 3 เซนติเมตร มีเลือดตกในช่องปอด 1,500 ซีซี ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากนำส่งโรงพยาบาลได้ 30 นาที เพราะมีเลือดตกในช่องปอดขวาจำนวนมากและปอดรั่ว แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงจำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงหลายครั้งที่อวัยวะสำคัญ ผู้กระทำเล็งเห็นผลตาย
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายหลายครั้งและเลือกแทงบริเวณกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลด้านหลังขวาที่ทำให้ผู้ตายถึงแต่ความตายเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณช่องซี่โครงที่ 8 กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว1.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดและลึกเข้าไปในเนื้อปอด 3 เซนติเมตรมีเลือดตกในช่องปอด 1,500 ซี.ซี. ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากนำส่งโรงพยาบาลได้ 30 นาที เพราะมีเลือดตกในช่องปอดขวาจำนวนมากและปอดรั่ว แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการกระทำโดยบันดาลโทสะ: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายหลายครั้งและเลือกแทงบริเวณกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญ บาดแผลด้านหลังขวาที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เป็นแผลฉกรรจ์บริเวณช่องซี่โครงที่ 8 กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดและลึกเข้าไปในเนื้อปอด 3 เซนติเมตร มีเลือดตกในช่องปอด 1,500 ซีซี ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากนำส่งโรงพยาบาลได้ 30 นาที เพราะมีเลือดตกในช่องปอดขวาจำนวนมากและปอดรั่ว แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงจำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์เพื่อประเมินเจตนาของผู้กระทำผิด
จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายมีบาดแผลหลังศีรษะ 2 แผล เป็นแผลยาว5 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร และแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึก0.5 เซนติเมตร แผลที่หน้าอกซ้ายยาว 6 เซนติเมตร ไม่ลึก แผลฉีกขาดที่หน้าผากด้านซ้ายยาว 4 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ใช้เวลารักษาบาดแผลไม่เกิน 14 วัน รอยแผลที่ศีรษะ 2 แผลไม่ใช่แผลฉกรรจ์ส่วนแผลที่อื่นเกิดจากการปล้ำกัน ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีโอกาสใช้กำลังแรงเข้าโถมฟันผู้เสียหายได้ บาดแผลน่าจะฉกรรจ์มากกว่านี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น จำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษาพ.ศ. 2530 ใช้บังคับ จึงเพิ่มโทษจำเลยตามที่โจทก์ขอไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3322/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน: การกระชากรถเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นเข้าข่ายความผิดมาตรา 298
ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นรถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับโดยโหนตัวขึ้นไปยืนบนบันไดรถ จำเลยขับรถกระชากออกไปโดยเร็วและไม่ยอมหยุดรถโดยเจตนาให้ผู้เสียหายตกจากรถจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสจำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3322/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การกระชากรถทำให้เจ้าหน้าที่ตกได้รับอันตรายสาหัส
ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นรถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับโดยโหนตัวขึ้นไปยืนบนบันไดรถ จำเลยขับรถกระชากออกไปโดยเร็วและไม่ยอมหยุดรถโดยเจตนา ให้ผู้เสียหายตกจากรถ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายได้รับอัตรายสาหัสจำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 298.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า - พยายามฆ่า - ทำร้ายร่างกาย - พฤติการณ์การทำร้าย - การลงโทษ
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายใช้มือรับไว้มีดบาดง่ามมือบาดแผลเพียงเล็กน้อยใช้เวลารักษา 7-10 วันแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงเช่นกิริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากันทั้งสาเหตุที่แทงก็เกิดจากการที่จำเลยอ้างว่าผู้เสียหายเล่นไพ่โกงมีการพูดปรับความเข้าใจกันแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
of 128