คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 59

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4784/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องมีเจตนาเล็งเห็นผล การเบิกความตามหลักฐานการครอบครองไม่ผิด
การที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จนั้นผู้กระทำจะต้องกระทำโดยมีเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นความเท็จ โจทก์ซึ่งเป็นกำนันท้องที่ใช้รถแทรกเตอร์ขุดดินเพื่อบูรณะหนองน้ำสาธารณะที่ก.แจ้งส.ค.1ไว้ว่าเป็นของตนการที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกที่ดินของก.เป็นการเบิกความไปตามหลักฐานการแจ้งการครอบครองจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จในความผิดฐานบุกรุกส่วนที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์ตัดฟันต้นจากสาคูของก.โดยที่โจทก์มิได้ตัดฟันนั้นย่อมเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4784/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องรู้ว่าเป็นเท็จ: แยกพิจารณาความผิดตามหลักฐานและข้อเท็จจริง
การที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จนั้น ผู้กระทำจะต้องกระทำโดยมีเจตนา คือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นความเท็จ
โจทก์ซึ่งเป็นกำนันท้องที่ใช้รถแทรกเตอร์ขุดดินเพื่อบูรณะหนองน้ำสาธารณะที่ ก.แจ้ง ส.ค.1 ไว้ว่าเป็นของตน การที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกที่ดินของ ก. เป็นการเบิกความไปตามหลักฐานการแจ้งการครอบครอง จึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จในความผิดฐานบุกรุก ส่วนที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์ตัดฟันต้นจากสาคูของก.โดยที่โจทก์มิได้ตัดฟันนั้น ย่อมเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4473/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถบรรทุกไม้ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น ศาลพิพากษาว่าจำเลยต้องรับผิดชอบ
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปในอัตราความเร็วสูงชิดขอบถนนในทางเดินรถด้านซ้ายมือ ไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งไปทางขวาการเลี้ยวรถตามทางโค้งก็เป็นธรรมดา ที่ท้ายรถจะต้องตวัดไปทางซ้ายขณะเปิดไฟหน้ารถ และเห็นผู้ตาย เดินอยู่ไหล่ถนน จนมีการบีบแตรให้สัญญาณ ในวิสัยผู้ขับรถ เช่นจำเลย ย่อมจะเล็งเห็นได้ว่าการขับรถในสภาพดังกล่าว ปลายไม้ที่โผล่พ้นท้ายรถไปย่อมอาจตวัดไปถูกผู้ตายได้ เมื่อปลายไม้ตีถูกผู้ตายที่หน้าผาก จำเลยจึงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด เจ้าของรถที่จำเลยขับได้ชดใช้ค่าเสียหายให้มารดาผู้ตายถือว่ามีการบรรเทาผลร้าย กรณีมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้จำเลย 1 ใน 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่รับรองเอกสารเท็จเกี่ยวกับไม้ผิดกฎหมาย แม้ไม่ได้เป็นกรรมการตามคำสั่ง แต่ลงชื่อในฐานะกรรมการ ย่อมเห็นความสำคัญของเอกสาร และมีเจตนา
แม้ทางอำเภอจะมีคำสั่งแต่งตั้งป่าไม้อำเภอและที่ดินอำเภอเป็นกรรมการตรวจสอบไม้ชนิดอื่นนอกจากไม้สักและไม้ยางที่ทำออกจากไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์เคลื่อนย้ายไปใช้ประโยชน์ โดยให้ป่าไม้อำเภอเป็นเลขานุการคณะกรรมการมิได้แต่งตั้งจำเลยที่ 1 ซึ่งรับราชการเป็นพนักงานป่าไม้ 2 และจำเลยที่ 3 ซึ่งรับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานที่ดินอำเภอประจำอำเภอนั้นเป็นกรรมการก็ตามการที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ลงชื่อรับรองการตรวจสอบไม้ชนิดอื่นนอกจากไม้สักและไม้ยางที่ทำออกจากไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์อันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จ และจำเลยที่ 1 ลงชื่อในฐานะกรรมการและเลขานุการ จำเลยที่ 3 ลงชื่อในฐานะกรรมการ นายอำเภอก็ยึดถือเอาเอกสารนี้เป็นหลักในการพิจารณาออกหนังสือรับรองให้ราษฎรตลอดมา จำเลยที่ 1 ที่ 3 ย่อมเห็นความสำคัญของเอกสารที่ตนลงชื่อนั้น จะอ้างว่าลงชื่อโดยขาดเจตนากระทำผิดไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นปลัดอำเภอได้ลงชื่อรับรองในเอกสารดังกล่าวอันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จเช่นเดียวกัน การรับรองดังกล่าวต้องอาศัยการตรวจสอบที่ละเอียดถี่ถ้วน จะอ้างว่าลงชื่อรับรองโดยไม่ได้ตรวจสอบเพราะมีงานอื่นมาก ไม่มีเจตนากระทำผิดไม่ได้ การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่รับรองเอกสารเท็จเกี่ยวกับการตรวจสอบไม้ แม้ไม่มีอำนาจแต่งตั้ง ย่อมเห็นความสำคัญของเอกสารที่ลงชื่อ จึงฟังไม่ได้ว่าขาดเจตนา
แม้ทางอำเภอจะมีคำสั่งแต่งตั้งป่าไม้อำเภอและที่ดินอำเภอเป็นกรรมการตรวจสอบไม้ชนิดอื่นนอกจากไม้สักและไม้ยางที่ทำออกจากไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์เคลื่อนย้ายไปใช้ประโยชน์โดยให้ป่าไม้อำเภอเป็นเลขานุการคณะกรรมการมิได้แต่งตั้งจำเลยที่1ซึ่งรับราชการเป็นพนักงานป่าไม้2และจำเลยที่3ซึ่งรับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานที่ดินอำเภอประจำอำเภอนั้นเป็นกรรมการก็ตามการที่จำเลยที่1และจำเลยที่3ลงชื่อรับรองการตรวจสอบไม้ชนิดอื่นนอกจากไม้สักและไม้ยางที่ทำออกจากไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์อันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จและจำเลยที่1ลงชื่อในฐานะกรรมการและเลขานุการจำเลยที่3ลงชื่อในฐานะกรรมการนายอำเภอก็ยึดถือเอาเอกสารนี้เป็นหลักในการพิจารณาออกหนังสือรับรองให้ราษฎรตลอดมาจำเลยที่1ที่3ย่อมเห็นความสำคัญของเอกสารที่ตนลงชื่อนั้นจะอ้างว่าลงชื่อโดยขาดเจตนากระทำผิดไม่ได้ส่วนจำเลยที่2เป็นปลัดอำเภอได้ลงชื่อรับรองในเอกสารดังกล่าวอันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จเช่นเดียวกันการรับรองดังกล่าวต้องอาศัยการตรวจสอบที่ละเอียดถี่ถ้วนจะอ้างว่าลงชื่อรับรองโดยไม่ได้ตรวจสอบเพราะมีงานอื่นมากไม่มีเจตนากระทำผิดไม่ได้การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา162.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้ประกอบกับบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่งยาวประมาณ 4 เซนติเมตร3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตายแต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีกและพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากอาวุธ พฤติการณ์ และบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่ง ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร 3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตาย แต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีก และพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่? การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ถือว่ามีเจตนาฆ่า
จำเลยกับพวกอีก2คนรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้นโดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ1ศอกและพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ1แขนเป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล4แห่งยาวประมาณ4เซนติเมตร3เซนติเมตรและ2เซนติเมตรอีก2แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ10วันหายแม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตายแต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง1ครั้งแล้วไม่ได้ทำอะไรอีกและพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2749/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์ - การกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหาย
จำเลยกับผู้เสียหายได้เสียเป็นสามีภริยากันผู้เสียหายไปนอนที่บ้านจำเลยบ้างนอนที่บ้านบิดาบ้างถ้าจำเลยให้ไปนอนผู้เสียหายก็ไปแต่บางครั้งผู้เสียหายก็หลบไม่ไปนอนวันเกิดเหตุจำเลยให้ผู้เสียหายไปหาจำเลยแต่ผู้เสียหายไม่ไปและจำเลยมาพบรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายจอดทิ้งไว้จึงนำรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปเก็บไว้ที่บ้านจำเลยเพื่อให้ผู้เสียหายไปพบจำเลยดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเอารถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2641/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาความผิดลิขสิทธิ์: จำเลยเข้าใจผิดว่าโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นมีสิทธิพิมพ์หนังสือได้ ฎีกายืนยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างและผู้จัดการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จ้างจำเลยอื่นให้พิมพ์ปลอมหนังสือแบบเรียนและแบบพิมพ์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีลิขสิทธิ์ เอาชื่อในการประกอบการค้าและรูปเสมาธรรมจักรซึ่งเป็นเครื่องหมายราชการของกระทรวงศึกษาธิการมาใช้ แล้วส่งไปจำหน่ายแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพ.ศ. 2474 มาตรา 25,27 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 24,43 พระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482มาตรา 6,7,8 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 19,57ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265,268,272(1)กรณีเป็นเรื่องการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทเมื่อบทหนักตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯ พระราชบัญญัติการพิมพ์ฯและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265,268 ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วความผิดบทอื่น ๆ แม้จะมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทก็ย่อมไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย จำเลยที่ 4 เป็นหัวหน้าแผนกจำหน่าย จำเลยที่ 5เป็นผู้จัดการฝ่ายการพิมพ์โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นแม้จะทราบว่ากรมการปกครองต้องขออนุญาตจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการก่อนจึงจะจัดพิมพ์ได้ ก็เฉพาะในช่วงที่งบประมาณจัดพิมพ์เป็นของกรมการปกครองเมื่อกระทรวงมหาดไทยโอนงบประมาณในการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนเพื่อแจกแก่นักเรียนที่ยากจนยืมเรียนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจำเลยอาจเข้าใจว่าหน้าที่การขออนุญาตจัดพิมพ์เป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดก็ได้การที่จำเลยได้สั่งจ้างจำเลยที่ 1 จัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนเตรียมไว้ก่อนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจะสั่งจ้างพิมพ์นั้นเป็นดุลยพินิจของจำเลยที่จะกระทำได้ ดังนี้ จำเลยที่ 4 ที่ 5กระทำไปโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดย่อมขาดเจตนาในการกระทำความผิดตามฟ้อง บริษัทจำเลยที่ 1 มีจำเลยอื่นอีก 5 คน เป็นกรรมการ และลูกจ้างย่อมเข้าใจว่าโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนราชการ สังกัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อส่วนราชการมาจ้างพิมพ์ในนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งพิมพ์ในรูปแบบเดียวกับ สมัยที่กรมการปกครองจัดพิมพ์ มีชื่อผู้จัดการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเหมือนกันจำเลยย่อมจะต้องเข้าใจว่าส่วนราชการผู้ว่าจ้าง มีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะจ้างพิมพ์ได้ ย่อมไม่จำต้องไปตรวจสอบว่าผู้ว่าจ้างพิมพ์มีลิขสิทธิ์ในการสั่งพิมพ์ตามกฎหมายหรือไม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องเพราะขาดเจตนา
of 128