พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแย่งอาวุธและการยิงผู้เสียหาย พฤติการณ์บ่งชี้ถึงเจตนา แม้ไม่ถูกก็เป็นเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยกับผู้เสียหายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทำทีขอนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพลตำรวจส. เมื่อสบโอกาสจำเลยแย่งเอาอาวุธปืนของพลตำรวจส. แล้ววิ่งไปทางบ้านพักที่เกิดเหตุครั้นพบผู้เสียหายและอยู่ห่างจากผู้เสียหายประมาณ2.50เมตรจำเลยชักอาวุธปืนออกยิงผู้เสียหายทันทีพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าขณะเกิดเหตุจำเลยได้ทะเลาะโต้เถียงกับผู้เสียหายหรือผู้เสียหายได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อจำเลยซึ่งมีลักษณะเป็นการข่มเหงการที่จำเลยและผู้เสียหายต่างเป็นภรรยาของสิบตำรวจโทพ. ไม่ว่าจำเลยจะเป็นภรรยามาก่อนหรือไม่ก็ตามจำเลยจะอ้างว่าตนถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่แต่การที่จำเลยเบิกความยอมรับว่าจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปในวันเกิดเหตุและกระสุนปืนของจำเลยได้ลั่นขึ้นนั้นเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลถือเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ตามป.อ.มาตรา78.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อฆ่า แม้ไม่ถูกตัวผู้เสียหาย และเหตุผลการลดโทษตามมาตรา 78
จำเลยกับผู้เสียหายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุจำเลยทำทีขอนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพลตำรวจส.เมื่อสบโอกาสจำเลยแย่งเอาอาวุธปืนของพลตำรวจส.แล้ววิ่งไปทางบ้านพักที่เกิดเหตุครั้งพบผู้เสียหายและอยู่ห่างจากผู้เสียหายประมาณ2.50เมตรจำเลยชักอาวุธปืนออกยิงผู้เสียหายทันทีพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าขณะเกิดเหตุจำเลยได้ทะเลาะโต้เถียงกับผู้เสียหายหรือผู้เสียหายได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อจำเลยซึ่งมีลักษณะเป็นการข่มเหงการที่จำเลยและผู้เสียหายต่างเป็นภรรยาของสิบตำรวจโทพ.ไม่ว่าจำเลยจะเป็นภรรยามาก่อนหรือไม่ก็ตามจำเลยจะอ้างว่าตนถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่แต่การที่จำเลยเบิกความยอมรับว่าจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปในวันเกิดเหตุและกระสุนปืนของจำเลยได้ลั่นขึ้นนั้นเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลถือเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา78.(ที่มา-ส่งเสิรมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้ไม้เนื้อแข็งกว้าง2นิ้วฟุตยาว80เซนติเมตรซึ่งเป็นไม้ขนาดโตตีผู้ตายที่ใบหน้า1ทีผู้ตายล้มคว่ำหน้าลงกับพื้นแล้วตีที่ศีรษะด้านหลังอย่างสุดแรงอีก1ทีเช่นนี้ไม้ที่ใช้ตีอาจใช้ทำร้ายร่างกายให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้และเป็นการตีที่อวัยวะสำคัญแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า – การแย่งปืน – พฤติการณ์ข่มขู่ – ไม่พอพิสูจน์เจตนา
ล. เข้าแย่งปืนจากจำเลยซึ่งเมาสุราขณะจำเลยจ้องปากกระบอกปืนไปทางผู้เสียหายแล้วประมาณ3อึดใจเช่นนี้หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็น่าจะยิงทันทีที่จ้องปากกระบอกปืนไปทางผู้เสียหายการกระทำของจำเลยมีเจตนาเพียงต้องการวางอำนาจและแกล้งขู่ผู้เสียหายเท่านั้นหามีเจตนาฆ่าไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - การพิจารณาพฤติการณ์ผู้ต้องหา - การข่มขู่ด้วยอาวุธ - ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ล.เข้าแย่งปืนจากจำเลยซึ่งเมาสุราขณะจำเลยจ้องปากกระบอกปืนไปทางผู้เสียหายแล้วประมาณ3อึดใจเช่นนี้หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็น่าจะยิงทันทีที่จ้องปากกระบอกปืนไปทางผู้เสียหายการกระทำของจำเลยมีเจตนาเพียงต้องการวางอำนาจและแกล้งขู่ผู้เสียหายเท่านั้นหามีเจตนาฆ่าไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1949/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย: การประเมินจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้สันไม้แปขนาดหน้ากว้าง 4 นิ้ว หนา 1 นิ้ว ยาวประมาณ1 เมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ที ที่บริเวณคางด้านขวา บาดแผลเฉียงขึ้นไปทางดั้งจมูกยาว 7 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ลึก 5 เซนติเมตร ขากรรไกรขวาหักดั้งจมูกยุบ ปลายจมูกฉีกขาด บริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากกองไฟพอที่จะเห็นเหตุการณ์ในบริเวณนั้นได้ซึ่งจำเลยย่อมจะมีโอกาสเลือกตีผู้ตายได้ การที่จำเลยตีผู้ตายที่บริเวณซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์และผู้ตายได้ถึงแก่ความตายแทบจะทันทีทันใดเช่นนี้ ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1949/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้สันไม้แปขนาดหน้ากว้าง4นิ้วหนา1นิ้วยาวประมาณ1เมตรตีผู้ตายอย่างแรง1ทีที่บริเวณคางด้านขวาบาดแผลเฉียงขึ้นไปทางดั้งจมูกยาว7เซนติเมตรกว้าง2เซนติเมตรลึก5เซนติเมตรขากรรไกรขวาหักดั้งจมูกยุบปลายจมูกฉีกขาดบริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากกองไฟพอที่จะเห็นเหตุการณ์ในบริเวณนั้นได้ซึ่งจำเลยย่อมจะมีโอกาสเลือกตีผู้ตายได้การที่จำเลยตีผู้ตายที่บริเวณซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์และผู้ตายได้ถึงแก่ความตายแทบจะทันทีทันใดเช่นนี้ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1949/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย บริเวณอวัยวะสำคัญจนถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้สันไม้แปขนาดหน้ากว้าง4นิ้วหนา1นิ้วยาวประมาณ1เมตรตีผู้ตายอย่างแรง1ทีที่บริเวณคางด้านขวาบาดแผลเฉียงขึ้นไปทางดั้งจมูกยาว7เซนติเมตรกว้าง2เซนติเมตรลึก5เซนติเมตรขากรรไกรขวาหักดั้งจมูกยุบปลายจมูกฉีกขาดบริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากกองไฟพอที่จะเห็นเหตุการณ์ในบริเวณนั้นได้ซึ่งจำเลยย่อมจะมีโอกาสเลือกตีผู้ตายได้การที่จำเลยตีผู้ตายที่บริเวณซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์และผู้ตายได้ถึงแก่ความตายแทบจะทันทีทันใดเช่นนี้ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความร้ายแรงของบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำ
จำเลยใช้มีดยาว 8 นิ้ว กว้าง 2 นิ้วแทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ 2 แผล ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน และไม่สามารถประกอบกรณียกิจโดยปกติอีก 2 เดือน โดยไม่ปรากฏว่าตั้งใจเลือกแทงอวัยวะสำคัญนั้น กรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 เมื่อมิได้บรรยายว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยตาม มาตรา 297 ไม่ได้ คงลงโทษได้เพียง มาตรา 295
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การจ้องปืนและพฤติการณ์ที่ไม่มีการขัดขืน ไม่เพียงพอพิสูจน์เจตนาฆ่า
จำเลยจ้องปืนไปยังผู้เสียหาย โดยที่นิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไก ปืนหากเจตนาฆ่า ก็อาจยิงได้ทันที โดยที่ไม่อาจห้ามได้ทัน เหตุเกิดในเวลากลางวันที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุ1 เดือนเศษ จำเลยใช้ไม้ตีศีรษะ ช. พี่ภรรยาของผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายพาช.ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจก็ไม่น่าเป็นเหตุร้ายแรงถึงกับจะต้องฆ่ากัน เมื่อพี่เขยจำเลยมาจับมือที่ถือปืนให้ปากกระบอกเบนขึ้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยพยายามดิ้นรนขัดขืน ที่จะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ จำเลยไม่มีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย อาจกระทำไปเพื่อขู่ จึงไม่มีความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้เสียหาย