พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีเจตนาและส่วนร่วมในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้มีการพาไปที่เกิดเหตุ หรือรู้เห็นภายหลัง
จำเลยทั้งสองกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน วันเกิดเหตุ บ.ชวนจำเลยทั้งสองไปเที่ยวโดยนั่งรถสามล้อไป ด้วยกันเมื่อผ่านหน้าบ้านผู้ตายพบผู้ตาย บ.ผละลงจากรถ ไปยิงผู้ตายโดยกะทันหันเพราะมีเรื่องอาฆาตกันอยู่เดิม ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รู้หรือร่วมคบคิดกับ บ.มา ก่อนแม้เมื่อ บ. ยิงผู้ตายแล้วจะย้อนกลับมาขึ้น รถสามล้อดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 ถีบไป และจำเลยที่ 2 จะเคยไปถามหาผู้ตายก่อนเกิดเหตุพฤติการณ์เพียงเท่านี้จะ ถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้ตาย หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า-ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความร้ายแรงของการกระทำและอาวุธที่ใช้เพื่อกำหนดความผิดฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกาย
จำเลยใช้ไม้ขนาดกว้าง 3 นิ้ว หนา 1 นิ้วครึ่ง ยาว1 วา เท่าที่จะหาได้ในที่เกิดเหตุ ตีหน้าผากผู้เสียหาย1 ที กะโหลกศีรษะแตก รักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 10 วัน แสดงว่าไม่ตั้งใจจะใช้อาวุธที่ร้ายแรงทั้งมิได้ตีซ้ำเมื่อผู้เสียหายล้มลงอยู่ในโอกาสที่จะตีได้อีก สาเหตุเดิมก็เพียงเป็นคนต่างถิ่นไม่ค่อยถูกกัน การบาดเจ็บก็มิได้รุนแรงมากมาย แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 โดยมิได้บรรยายว่าผู้เสียหายทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ดังนี้เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จะพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) มิได้ คงลงโทษได้เพียงตาม มาตรา 295
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว การใช้กำลังเกินสมควร และการยกฟ้องอาญาเมื่อไม่มีความผิดตามกฎหมายอาวุธปืน
การวิวาทหมายถึงการสมัครใจเข้าต่อสู้ทำร้ายกันคำพูดของจำเลยที่ว่าการย้ายตำรวจต้องมีขั้นตอนต้องมีคณะกรรมการอย่าไปเชื่อให้มากนักเป็นเพียงการแสดงความเห็นในการสนทนาเท่านั้น มิได้มีข้อความใดที่เป็นการท้าทายให้ผู้ตายหรือผู้เสียหายออกมาต่อสู้ทำร้ายกับจำเลยเพียงแค่นี้จะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทมิได้ จำเลยถูกตีที่ทัดดอกไม้ด้านขวาจนร่วงตกจากเก้าอี้เข่าทรุดลงกับพื้น ผู้ตายเข้าล็อกคอและดึงคอเสื้อจำเลยไว้พร้อมกับพูดว่าเอาให้ตายและมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจะรุมทำร้ายจำเลยจำเลยสะบัดหลุดแล้วชักปืนออกมาขู่ โดยหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนว่าอย่าเข้ามาทันใดนั้นมีคนเข้ามาตะปบปืนในมือจำเลยเพื่อจะแย่งปืนปืนลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายจำเลยวิ่งหนีแต่คนกลุ่มนั้นวิ่งไล่ตามจะ ทำร้ายจำเลย จำเลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าอีก 1นัดแล้ววิ่งไปได้หน่อยหนึ่งก็หมดสติล้มลงกระสุนปืนนัดที่สองพลาดไปถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือพยายามฆ่าจำเลยจึงไม่มีความผิดและจะถือว่าจำเลยกระทำให้ผู้อื่นตายโดยประมาทหรือรับอันตรายสาหัสโดยประมาทมิได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปืนของกรมตำรวจซึ่งจำเลยมีสิทธิพกอาวุธปืนได้ทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน กรณีของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 8ทวิ และจำเลยย่อมไม่มีความผิดตาม มาตรา 72ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯเมื่อปรากฏแก่ศาลฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม การพกพาอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต และอำนาจยกฟ้องของศาลฎีกา
การวิวาทหมายถึงการสมัครใจเข้าต่อสู้ทำร้ายกันคำพูดของจำเลย ที่ว่าการย้ายตำรวจต้องมีขั้นตอนต้องมีคณะกรรมการอย่าไปเชื่อให้มากนัก เป็นเพียงการแสดงความเห็นในการสนทนาเท่านั้น มิได้มีข้อความใด ที่เป็นการท้าทายให้ผู้ตายหรือผู้เสียหายออกมาต่อสู้ทำร้ายกับจำเลย เพียงแค่นี้จะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทมิได้
จำเลยถูกตีที่ทัดดอกไม้ด้านขวาจนร่วงตกจากเก้าอี้เข่าทรุดลงกับพื้น ผู้ตายเข้าล็อกคอและดึงคอเสื้อจำเลยไว้พร้อมกับพูดว่าเอาให้ตาย และมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจะรุมทำร้ายจำเลยจำเลยสะบัดหลุด แล้วชักปืนออกมาขู่ โดยหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนว่าอย่าเข้ามาทันใดนั้นมีคนเข้ามาตะปบปืนในมือจำเลยเพื่อจะแย่งปืน ปืนลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายจำเลยวิ่งหนี แต่คนกลุ่มนั้นวิ่งไล่ตามจะทำร้ายจำเลย จำเลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าอีก 1 นัด แล้ววิ่งไปได้หน่อยหนึ่งก็หมดสติล้มลงกระสุนปืนนัดที่สองพลาดไป ถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือพยายามฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดและจะถือว่าจำเลยกระทำให้ผู้อื่นตายโดยประมาท หรือรับอันตรายสาหัสโดยประมาทมิได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปืนของกรมตำรวจซึ่งจำเลย มีสิทธิพกอาวุธปืนได้ทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน กรณีของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 8 ทวิ และจำเลย ย่อมไม่มีความผิดตาม มาตรา 72 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เมื่อปรากฏแก่ศาลฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้อง
จำเลยถูกตีที่ทัดดอกไม้ด้านขวาจนร่วงตกจากเก้าอี้เข่าทรุดลงกับพื้น ผู้ตายเข้าล็อกคอและดึงคอเสื้อจำเลยไว้พร้อมกับพูดว่าเอาให้ตาย และมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจะรุมทำร้ายจำเลยจำเลยสะบัดหลุด แล้วชักปืนออกมาขู่ โดยหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนว่าอย่าเข้ามาทันใดนั้นมีคนเข้ามาตะปบปืนในมือจำเลยเพื่อจะแย่งปืน ปืนลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายจำเลยวิ่งหนี แต่คนกลุ่มนั้นวิ่งไล่ตามจะทำร้ายจำเลย จำเลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าอีก 1 นัด แล้ววิ่งไปได้หน่อยหนึ่งก็หมดสติล้มลงกระสุนปืนนัดที่สองพลาดไป ถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือพยายามฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดและจะถือว่าจำเลยกระทำให้ผู้อื่นตายโดยประมาท หรือรับอันตรายสาหัสโดยประมาทมิได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปืนของกรมตำรวจซึ่งจำเลย มีสิทธิพกอาวุธปืนได้ทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน กรณีของจำเลยจึงไม่อยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 8 ทวิ และจำเลย ย่อมไม่มีความผิดตาม มาตรา 72 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เมื่อปรากฏแก่ศาลฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาชิงทรัพย์ - การขอเงินโดยสุจริต ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ขณะผู้เสียหายนั่งคุยกับ จ. จำเลยที่ 2 ได้เข้าไปขอเงิน 5 บาท ผู้เสียหายพูดว่าไม่มีให้จำเลยที่1 ใช้มีดจี้คอผู้เสียหายและพูดว่า ถ้าไม่ให้เจ็บตัวจ. ส่งเงิน 10 บาท ให้ผู้เสียหายแล้วผู้เสียหายส่งให้จำเลยที่ 2 รับไป เมื่อได้เงินแล้วจำเลยที่ 2 ได้เดินไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 และถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ ค้นตัวได้เงินเพียง10 บาทที่ จ.ให้ไปเท่านั้นจ.ตอบคำถามค้านว่าให้เงินแก่จำเลยที่ 2 ด้วยความสมัครใจเต็มใจ เพราะสงสาร ดังนี้ พฤติการณ์แห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำโดยสุจริตมิได้มีเจตนา ร่วมกับจำเลยที่ 1 เพื่อทำการชิงทรัพย์ผู้เสียหายมาแต่แรกเมื่อได้เงินตามที่ขอแล้วก็ไม่ขู่เอาทรัพย์อื่นต่อไปอีกการเอา เงินไปจึงถือไม่ได้ว่า เกิดจากการลักทรัพย์จึงไม่เป็น ความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการขอเงินและพฤติการณ์หลังได้รับเงิน ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ขณะผู้เสียหายนั่งคุยกับ จ. จำเลยที่ 2 ได้เข้าไปขอเงิน 5 บาท ผู้เสียหายพูดว่าไม่มีให้จำเลยที่ 1 ใช้มีดจี้คอผู้เสียหายและพูดว่า ถ้าไม่ให้เจ็บตัว จ. ส่งเงิน 10 บาท ให้ผู้เสียหายแล้วผู้เสียหายส่งให้จำเลยที่ 2 รับไป เมื่อได้เงินแล้วจำเลยที่ 2 ได้เดินไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 และถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ ค้นตัวได้เงินเพียง10 บาทที่ จ.ให้ไปเท่านั้น จ.ตอบคำถามค้านว่าให้เงินแก่จำเลยที่ 2 ด้วยความสมัครใจ เต็มใจ เพราะสงสาร ดังนี้ พฤติการณ์แห่งคดีเห็นได้ว่า จำเลยที่ 2 กระทำโดยสุจริตมิได้มีเจตนา ร่วมกับจำเลยที่ 1 เพื่อทำการชิงทรัพย์ผู้เสียหายมาแต่แรก เมื่อได้เงินตามที่ขอแล้วก็ไม่ขู่เอาทรัพย์อื่นต่อไปอีก การเอา เงินไปจึงถือไม่ได้ว่า เกิดจากการลักทรัพย์จึง ไม่เป็น ความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการกระทำที่ทำให้ถึงแก่ความตาย แม้เกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา
จำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถูกที่ด้านหลัง กระสุนปืนตัดบริเวณไขสันหลังขาด ผู้ตายเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวจนจดเท้าและถึงแก่ความตายสืบเนื่องมาจากบาดแผลที่ถูกยิงและภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรงหลังจากเกิดเหตุ 9 เดือนเศษ ดังนี้ผู้ตายถึงแก่ความตายสืบเนื่องมาจากบาดแผลที่ถูกยิง แม้จะเนื่องจากการรักษาไม่ดีจนบาดแผลติดเชื้อ ก็เป็นผลธรรมดาอันสืบเนื่องมาจากการกระทำของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - การยิงปืนไปที่กองมะพร้าว - ไม่ถึงแก่ความตาย - ยกฟ้อง
จำเลยยิงปืนลูกซองยาว 1 นัดไปที่กองมะพร้าว 400 ลูกซึ่งบรรทุกอยู่ในกระบะรถยนต์สูงถึงหลังคารถเมื่อรถแล่นเลยตำแหน่งที่จำเลยยืนไม่ต่ำกว่า 3 - 4 วา จำเลยย่อมเล็งเห็นแล้วว่าไม่มีทางที่กระสุนปืนจะทะลุกองมะพร้าวซึ่งสูงถึงหลังคารถไปถูกผู้เสียหายที่นั่งในเก๋งหน้ารถได้ ฟังได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การยิงปืนไปที่กองมะพร้าวสูงถึงหลังคารถ ไม่ถึงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายในรถ
จำเลยยิงปืนลูกซองยาว 1 นัดไปที่กองมะพร้าว 400 ลูกซึ่งบรรทุกอยู่ในกระบะรถยนต์สูงถึงหลังคารถเมื่อรถแล่นเลยตำแหน่งที่จำเลยยืนไม่ต่ำกว่า 3-4 วา จำเลยย่อมเล็งเห็นแล้วว่าไม่มีทางที่กระสุนปืนจะทะลุกองมะพร้าวซึ่งสูงถึงหลังคารถไปถูกผู้เสียหายที่นั่งในเก๋งหน้ารถได้ ฟังได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การกระทำโดยไม่มีเจตนาและเหตุผลแห่งการทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายรักใคร่กันดี ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนวันเกิดเหตุผู้ตายมาช่วยจำเลยเกี่ยวข้าว ผู้ตายหยอกล้อจำเลยเรื่องหาสุรามาไม่พอดื่ม จำเลยใช้เคียวเกี่ยวข้าวฟันผู้ตายถูกบริเวณเอวข้างซ้ายในขณะที่ผู้ตายกำลังก้มลงเกี่ยวข้าว จำเลยมีโอกาสที่จะเลือกฟันถูกตายให้ถูกอวัยวะที่สำคัญได้แต่กลับฟันบริเวณลำตัว และฟันเพียงครั้งเดียวมิได้ฟันซ้ำอีกทั้ง ๆ ที่มีโอกาสทำได้ผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องมีโลหิตตกในช่องปอดและมีลมในช่องปอดมากกดให้หัวใจหยุดเต้น ซึ่งน่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่าที่จำเลยจะเล็กเห็นหรือประสงค์ให้เกิดผลเช่นนั้น พฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า