พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนเข้าใส่รถโดยสารแม้ไม่ถูกตัวคน แต่ถือเป็นความพยายามฆ่าผู้อื่นได้ หากมีเจตนาและเล็งเห็นผลอันตราย
จำเลยยิงปืน 2 นัด ไปยังท้ายรถยนต์โดยสารที่ตนขับตามหลังไปเนื่องจากความไม่พอใจที่มีการขับรถยนต์แซงปาดหน้าซึ่งกันและกันระหว่างจำเลยและพนักงานขับรถยนต์โดยสาร กระสุนนัดหนึ่งทะลุกลางฝากระโปรงที่เก็บของและอีกนัดหนึ่ง ถูกเหนือไฟท้ายด้านขวา ต่ำกว่าที่ผู้โดยสารนั่งประมาณ15 และ 10 ซ.ม. จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่า อาจทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2118/2516)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าจากการยิงปืนใส่รถโดยสาร ศาลฎีกาวินิจฉัยเล็งเห็นผลถึงอันตรายถึงแก่ชีวิต แม้กระสุนไม่ทะลุ
จำเลยยิงปืน 2 นัด ไปยังท้ายรถยนต์โดยสารที่ตนขับตามหลังไปเนื่องจากความไม่พอใจที่มีการขับรถยนต์แซงปาดหน้าซึ่งกันและกันระหว่างจำเลยและพนักงานขับรถยนต์โดยสาร กระสุนนัดหนึ่งทะลุกลางฝากระโปรงที่เก็บของ และอีกนัดหนึ่ง ถูกเหนือไฟท้ายด้านขวา ต่ำกว่าที่ผู้โดยสารนั่งประมาณ 15 และ 10 ซ.ม. จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่าอาจทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
(เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2118/2516)
(เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2118/2516)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงทำร้ายร่างกายจากการวิวาท การพิจารณาเจตนาและสิทธิป้องกันตัว
จำเลยและผู้เสียหายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ต่างดื่มเหล้ามึนเมาแล้วเกิดปากเสียงทะเลาะกัน จำเลยจึงแทงผู้เสียหายด้วยความโมโห ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณท้องมีแผ่นไขมันในช่องท้องโผล่ออกมา มีบาดแผลทะลุลำไส้ใหญ่ไม่ปรากฏว่าบาดแผลมีความกว้างยาวเท่าใดและลำไส้มิได้ไหลออกมาจากบาดแผล การที่จำเลยแทงเพียงครั้งเดียวก็วิ่งหลบหนีไปโดยมิได้แสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้เสียหายแต่ประการใด ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
การที่จำเลยแทงผู้เสียเกิดจากทั้งสองฝ่ายสมัครใจวิวาทกันมิใช่ผู้เสียหายประทุษร้ายจำเลยฝ่ายเดียว อันเป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิป้องกันตัวได้จำเลยจึงอ้างว่าเป็นการป้องกันไม่ได้
การที่จำเลยแทงผู้เสียเกิดจากทั้งสองฝ่ายสมัครใจวิวาทกันมิใช่ผู้เสียหายประทุษร้ายจำเลยฝ่ายเดียว อันเป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิป้องกันตัวได้จำเลยจึงอ้างว่าเป็นการป้องกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3435/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบเจ้าของช้าง: ประมาทเลินเล่อในการควบคุมช้างตกมัน ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและทรัพย์สินเสียหาย
ช้างเป็นสัตว์ใหญ่เมื่อกำลังตกมันย่อมเป็นสัตว์ดุ จำเลยไม่คอยควบคุมดูแลโดยใกล้ชิด เพียงแต่ใช้เชือกผูก ไว้ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทและเป็นเหตุโดยตรงให้ฟ.ผู้เสียหายถูกช้างของจำเลยแทงด้วยงาได้รับอันตรายสาหัสแล้วช้างของจำเลยวิ่งไปพังบ้านของด. เสียหายอีกจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 และการ กระทำของจำเลยดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยปล่อยปละละเลยให้ ช้างเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 อีกบทหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3435/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในอาญาจากการควบคุมดูแลสัตว์ดุร้าย (ช้างตกมัน) โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและทรัพย์สินเสียหาย
ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ เมื่อกำลังตกมันย่อมเป็นสัตว์ดุ จำเลยไม่คอยควบคุมดูแลโดยใกล้ชิด เพียงแต่ใช้เชือกผูกไว้ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทและเป็นเหตุโดยตรงให้ ฟ. ผู้เสียหายถูกช้างของจำเลยแทงด้วยงาได้รับอันตรายสาหัส แล้วช้างของจำเลยวิ่งไปพังบ้านของ ด. เสียหายอีก จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 และการกระทำของจำเลยดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยปล่อยปละละเลยให้ ช้างเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 อีกบทหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การใช้มีดฟันผู้เสียหายแม้ไม่ถูกต้องมีเจตนาและเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดโต้ยาว 50 เซนติเมตร เฉพาะคมยาว 30 เซนติเมตร เงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าผู้เสียหายแต่ไม่ถูก คมมีดฝังลงในเนื้อไม้ลูกกรงครึ่งเซนติเมตรยาว 3 เซนติเมตร แสดงว่าได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การเงื้อมีดฟันผู้เสียหายแม้ไม่ถูก แต่มีเจตนาและเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดโต้ยาว 50 เซนติเมตร เฉพาะคมยาว 30 เซนติเมตรเงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าผู้เสียหายแต่ไม่ถูก คมมีดฝังลงในเนื้อไม้ลูกกรงครึ่งเซนติเมตรยาว 3 เซนติเมตรแสดงว่าได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้วจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3235/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า และบันดาลโทสะ: พฤติการณ์การทำร้ายด้วยอาวุธมีคม
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ที่เกิดเหตุมืดสลัว ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันผู้เสียหายไป 1 ที แล้วมิได้ฟันซ้ำอีกซึ่งลักษณะของขวานของกลางเป็นอาวุธที่หนักและมีคม ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าก็ย่อมจะฟันแรง บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับจึงไม่ฉกรรจ์ ประกอบกับผู้เสียหายกับจำเลยไม่มีเรื่องหมางใจกันมาก่อน ดังนี้ จำเลยมีเจตนาทำร้ายไม่มีเจตนาฆ่า การที่ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อนถูกอัณฑะโดยไม่มีเหตุผลใด ๆเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยฟันผู้เสียหายไปในทันที ดังนี้ เป็นการกระทำเพราะบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งอาวุธและการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความพิการ ศาลแก้ข้อกล่าวหาเป็นพยายามฆ่าและชิงทรัพย์
จำเลยกับพวกอีก 4 คน ไม่มีอาวุธ กลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหาย มีแต่เพียงเจตนาทำร้าย การแย่งอาวุธปืนของผู้เสียหายแล้วยิงผู้เสียหายจนตาบอดทั้ง 2 ข้าง เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในตอนหลังของจำเลยเพียงผู้เดียวโดยเจตนาจะแย่งอาวุธปืนเพื่อใช้ยิงผู้เสียหายโดยมี เจตนาฆ่า เป็นการกระทำโดยเจตนาลักเอาอาวุธปืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7),80 และ ฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสตาม มาตรา 340 วรรคสาม แต่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตาม มาตรา 288,80 และฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่น ได้รับอันตรายสาหัสตาม มาตรา 339 วรรคสี่ ปัญหานี้เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ฎีกาขึ้นมาโดยตรง ศาลฎีกา ก็แก้ไขให้ ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งอาวุธและการทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส ศาลแก้ไขข้อกล่าวหาจากพยายามฆ่าและปล้นทรัพย์เป็นพยายามฆ่าและชิงทรัพย์
จำเลยกับพวกอีก 4 คน ไม่มีอาวุธ กลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหาย มีแต่เพียงเจตนาทำร้าย การแย่งอาวุธปืนของผู้เสียหายแล้วยิงผู้เสียหายจนตาบอดทั้ง 2 ข้าง เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในตอนหลังของจำเลยเพียงผู้เดียว โดยเจตนาจะแย่งอาวุธปืนเพื่อใช้ยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า เป็นการกระทำโดยเจตนาลักเอาอาวุธปืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7), 80 และฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสตาม มาตรา 340 วรรคสาม แต่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตาม มาตรา 288, 80 และฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสตามมาตรา 339 วรรคสี่ ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ฎีกาขึ้นมาโดยตรงศาลฎีกาก็แก้ไขให้ถูกต้องได้