คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 59

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,272 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาทจากเหตุไฟไหม้: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ห้ามฎีกา
ฎีกาของจำเลยที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นไปตามปกติธรรมดาของชาวสวนชาวไร่ทั่วไปซึ่งบุคคลในขณะจุดไฟเผาย่อมไม่คาดคิดถึงผลการกระทำของตนว่าเพลิงจะลุกลามไปจนน่าจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่น จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามฟ้องเพราะเป็นการกระทำที่ไม่อาจคาดคิดว่าน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น แต่เหตุที่เกิดเพลิงไม้ทรัพย์โจทก์ร่วมนี้เพราะจำเลยกระทำโดยประมาทนั้น การที่จะคาดคิดว่าการจุดไฟของจำเลยน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินผู้อื่นหรือไม่ เป็นความคิดเห็น เป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ข้างหน้าที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการกระทำความผิดสองกรรม: การทำร้ายร่างกายก่อนแล้วจึงพยายามฆ่า
จำเลยใช้ขวดตีผู้เสียหายขณะนอนหลับจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายผู้เสียหายพยายามลุกขึ้นนั่ง จำเลยเตะผู้เสียหายล้มลงเมื่อผู้เสียหายพยายามจะลุกขึ้นนั่งอีก จำเลยก็พูดว่า 'จะสู้หรือ' แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
จำเลยทราบว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายมีกระสุนบรรจุอยู่ ที่กระสุนด้านไม่ระเบิดอาจเป็นเพราะกระสุนเสื่อมคุณภาพหรือเป็นเหตุบังเอิญประการอื่น หาเป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามมาตรา 288, 80
จำเลยเพิ่งมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหลังจากทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กายไปแล้ว เพราะเข้าใจว่าผู้เสียหายจะลุกขึ้นมาต่อสู้ดังนั้น ที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายจน ได้รับอันตรายแก่กายกับพยายามฆ่าผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำอันเป็นความผิดสองกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหลังทำร้ายร่างกาย: การกระทำเป็นความผิดสองกรรม
จำเลยใช้ขวดตีผู้เสียหายขณะนอนหลับจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายผู้เสียหายพยายามลุกขึ้นนั่ง จำเลยเตะผู้เสียหายล้มลง เมื่อผู้เสียหายพยายามจะลุกขึ้นนั่งอีก จำเลยก็พูดว่า 'จะสู้หรือ' แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยทราบว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายมีกระสุนบรรจุอยู่ ที่กระสุนด้านไม่ระเบิดอาจเป็นเพราะกระสุนเสื่อมคุณภาพหรือเป็นเหตุบังเอิญประการอื่น หาเป็นการแน่แท้ว่าจะ ไม่สามารถทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลย ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามมาตรา 288,80 จำเลยเพิ่งมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหลังจากทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กายไปแล้ว เพราะเข้าใจว่าผู้เสียหายจะลุกขึ้นมาต่อสู้ ดังนั้น ที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กายกับพยายามฆ่าผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำอันเป็นความผิดสองกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธขู่เข็ญ: การกระทำโดยใช้อาวุธปืนข่มขู่เพื่อเอาทรัพย์สินเข้าข่ายความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยกับพวกอีก 1 คนเข้าไปนอนเล่นในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็น พี่เขยของจำเลยอยู่ก่อน แล้วจำเลยจึงขึ้นไปบนบ้านหยิบเอาวิทยุเทปของผู้เสียหายไป ป. บุตรชายของผู้เสียหายห้ามจำเลยกลับชักอาวุธปืน ออกมาเป็นทำนองขู่บังคับมิให้ขัดขวาง พฤติการณ์ที่จำเลยเอาทรัพย์ ของผู้เสียหายไปโดยใช้อาวุธปืนขู่บังคับนั้นหาใช่การถือวิสาสะไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่: พฤติการณ์ไม่ใช่การถือวิสาสะ
จำเลยกับพวกอีก 1 คนเข้าไปนอนเล่นในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็น พี่เขยของจำเลยอยู่ก่อน แล้วจำเลยจึงขึ้นไปบนบ้านหยิบเอาวิทยุเทปของผู้เสียหายไป ป. บุตรชายของผู้เสียหายห้าม จำเลยกลับชักอาวุธปืนออกมาเป็นทำนองขู่บังคับมิให้ขัดขวาง พฤติการณ์ที่จำเลยเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยใช้อาวุธปืนขู่บังคับนั้นหาใช่การถือวิสาสะไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตให้แก้ฟ้องคดีอาญาเมื่อข้อหาเปลี่ยนแปลง และผลกระทบต่ออำนาจศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสระหว่างพิจารณาผู้เสียหายถึงแก่ความตาย และได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้วโจทก์จึงขอแก้ฟ้องเป็นขอให้ลงโทษจำเลยฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายดังนี้กรณีมีเหตุอันควรและสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา163ศาลจะไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเพราะเหตุเพียงว่าหากอนุญาตแล้วจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาหาได้ไม่ เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วคดีเกินอำนาจศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 15 ศาลฎีกาจึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องและให้โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลชั้นต้นที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาในกรณีเมาสุราและยิงปืนโดยไม่มีเจตนาทำร้ายผู้อื่น ศาลยกฟ้อง
จำเลยเสพสุราจนเมามากครองสติไม่ได้ ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหายหรือผู้ใดในบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อเดินออกมาที่ลานบ้านผู้เสียหายจำเลยกดไกปืน ทำให้ปืนลั่นโดยมิได้เจตนาจะยิงทำร้ายผู้ใดแต่เนื่องจากปืนของกลางเป็นปืนยิงเร็วและยิงกระสุนเป็นชุด จำเลยไม่สามารถบังคับทิศทางของกระสุนปืนได้ กระสุนปืนบางนัดจึงถูกบ้านผู้เสียหายหาใช่เจตนายิงใส่บ้านผู้เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายกับพวกที่อยู่ในบ้าน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนบัตรปลอม - ความผิดมาตรา 245 - ผู้ใช้โดยไม่รู้ - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ
จำเลยมีธนบัตรของกลางเพียงฉบับเดียวนำไปชำระค่าร่วมประเวณีแก่หญิงเป็นธนบัตรที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับธนบัตรฉบับละ500 บาทที่แท้จริง จำเลยมีอาชีพค้าขายปลีกเนื้อสัตว์ในต่างจังหวัด อาจได้รับธนบัตรของกลางมาจากลูกค้าซื้อเนื้อสัตว์ โดยจำเลยไม่รู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 245

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวสำหรับหญิงสาวที่ถูกคุกคามทางเพศและการใช้กำลังเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
จำเลยเป็นหญิงสาวอายุ 15 ปี ผู้ตายเป็นชายหนุ่มอายุ 18 ปี ไม่มีภรรยา ขณะเกิดเหตุเป็นยามวิกาล ผู้ตายซึ่งดื่มสุราตั้งแต่ตอนเย็นคงจะเห็นโอกาสเหมาะที่จำเลยอยู่ ตามลำพังกับน้องสาวเล็กๆ จึงเข้าไปหาเพื่อแสดงความรักใคร่ ฉันชู้สาวจำเลยไม่ยินยอม จึงเกิดการขู่เข็ญและปลุกปล้ำกันขึ้น การที่มีดผู้ตายตกลงที่พื้น และจำเลยแย่งได้แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง 1 ที มีบาดแผลเพียงเล็กน้อยไม่ ทำให้ถึงตาย ย่อมเป็นการป้องกันสิทธิของตนซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่พอสมควรแก่เหตุเพราะหากไม่ กระทำ อาจถูกข่มขืนกระทำชำเราได้ แม้ผู้ตายจะเสียหลักพลัดตกลงไปในน้ำหมดสติจมน้ำถึงแก่ความตาย จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ป่วยโรคจิตจากพิษสุรากระทำความผิดในสภาวะไม่สามารถรู้ผิดชอบได้ จึงไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65
ก่อนเกิดเหตุจำเลยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประสาทขณะเกิดเหตุอาการป่วยเป็นโรคจิตจากพิษสุรากำเริบขึ้นอีกมีอาการประสาทหลอนหวาดระแวงกลัวคนจะทำร้าย ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาอยู่กินกันมาด้วยความเรียบร้อยไม่เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน จึงพาจำเลยไปรักษาที่บ้านบิดาจำเลย ขณะนั่งคุยกันอยู่ที่แคร่ไม้ข้างล่าง จำเลยใช้มีดเชือดคอและฟันทำร้ายผู้ตายมีคนพบจำเลยนั่งงุนงงอยู่ใกล้ ๆ ดังนี้ จำเลยได้กระทำผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ ไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะโรคจิตจากพิษสุราจำเลยไม่ต้องรับโทษในความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ตามมาตรา 65 วรรคแรก
of 128