คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 64

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5333/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเพโมลีนหลังประกาศเปลี่ยนประเภทวัตถุออกฤทธิ์ และการใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ที่เป็นคุณต่อจำเลย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 58(พ.ศ. 2532)เรื่องเปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์ ตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ย่อมมีผลบังคับเช่นกฎหมาย จำเลยครอบครองเพโมลีน โดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้วจึงไม่ต้องปรับบทลงโทษในความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก การมีเพโมลีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย มิใช่เป็นความผิดในตัวเอง แต่เป็นความผิดเพราะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งแต่เดิมจัดอยู่ในวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตให้ขายได้ตามสภาพและพฤติการณ์จำเลยอาจไม่รู้ว่าการมีเพโมลีนไว้ในครอบครองเพื่อขายเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และหากจำเลยสามารถนำพยานหลักฐานมีพิสูจน์เช่นว่านั้นได้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2535 ให้ยกเลิกมาตรา 13 เดิมและใช้ความใหม่แทน และให้เพิ่มความเป็นมาตรา 13 ทวิ การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 13 ทวิ และมีโทษตามมาตรา ซึ่งมาตรา 89 ที่แก้ไขใหม่มีโทษเบากว่าโทษตามมาตรา 89 เดิม จึงต้องลงโทษจำเลยตามมาตรา 89 ที่แก้ไขใหม่เพราะเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3818/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลโดยยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัด มีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
จำเลยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดอยู่ในขณะที่ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาเทศบาล โดยไม่ยอมลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาจังหวัด เป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 21(7) และมาตรา 65 แม้จำเลยได้ปรึกษา ผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่นก่อนแล้วว่าจำเลยสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาเทศบาลได้ เพราะสภาพการเป็นสมาชิกสภาจังหวัด ของจำเลยจะสิ้นสุดก่อนวันเลือกตั้ง ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด ทางอาญาโดยแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 และจะอ้างว่าได้รับยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 ประกอบด้วยมาตรา 59 ก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3009/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติมีผลผูกพัน แม้ผู้บุกรุกอ้างว่าไม่รู้
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงเป็นป่าสงวนแห่งชาติและทางราชการได้ปิดประกาศสำเนากฎกระทรวงและแผนที่ท้ายกฎกระทรวงไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนันท้องที่ และที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในหมู่บ้านท้องที่นั้นตามมาตรา 9 แห่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2507 แล้ว ย่อมมีผลให้ที่ดินในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติทันที จำเลยที่ 2 จะอ้างว่าไม่รู้ว่าที่ดินแปลงที่เกิดเหตุเป็นป่าสงวนแห่งชาติหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งขยายผลถึงการเลือกตั้งทุกประเภท จำเลยทราบดีว่าถูกเพิกถอนสิทธิแล้ว
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 แล้ว ต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณี รวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด โดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 64
การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งข้ามกฎหมาย: สิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน เมื่อถูกเพิกถอนแล้วมีผลในทุกกรณี
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 แล้วต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณีรวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ. 2482 ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดโดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 64 การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและพกพาอาวุธปืนเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มีเหตุผลป้องกันทรัพย์สิน ก็ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน
มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะ ย่อมเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้.
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มโดยวางอาวุธปืนไว้ใต้เบานั่งหน้ารถ อ้างว่าเพื่อป้องกันทรัพย์สินดังนี้ กรณีถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์แต่เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตมีหน้าที่ขับรถบรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มและไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต อ้างเหตุป้องกันทรัพย์สินไม่สมเหตุผล ศาลให้รอการลงโทษเนื่องจากจำเลยสุจริต
มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะ ย่อมเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ จำเลยขับรถยนต์บรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่ม โดยวางอาวุธปืนไว้ใต้เบาะนั่งหน้ารถ อ้างว่าเพื่อป้องกันทรัพย์สินดังนี้ กรณีถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ แต่เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตมีหน้าที่ขับรถบรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่ม และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความอาฆาตต่อเนื่องและการจ้างวานฆ่าผู้อื่น ศาลลงโทษจำเลยทั้งสองฐานพยายามฆ่าและจ้างวาน
จำเลยที่ 1 อาฆาตผู้เสียหายได้พยายามหลายครั้งที่จะทำลายชีวิตผู้เสียหายต่อเนื่องกันมาที่สุดได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ดังนี้ความผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ลงมือกระทำต้องปรับตาม ม.249,60 ส่วนจำเลยที่ 1 ผู้จ้างด้วยความแค้นและพยายามนั้นต้องปรับตาม ม.250(3),60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ใช้เรือที่มีลูกเรือเป็นชาวต่างชาติละเมิดกฎหมายประมง เจ้าของเรือไม่ต้องรับผิดหากไม่ได้อยู่ในเรือขณะละเมิด
ใช้เรือไทยซึ่งมีคนต่างด้าวทั้งหมดประจำเรือทำการละเมิด พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิ์การประมง ฯ ถ้าเจ้าของเรือไม่อยู่ในเรือขณะละเมิดเจ้าของเรือไม่มีความผิดไม่ต้องคำนึงว่าเจ้าของเรือเป็นผู้ใช้คนอื่นหรือไม่ ส่วนพวกใช้เรือทั้งหมดมีความผิด
ฟ้องระบุว่า เจ้าของเรือไม่อยู่ขณะทำการละเมิด และว่าจำเลยใช้เรือไทยที่มีคนต่างด้าวทั้งหมด จำเลยก็รับสารภาพ ดังนี้เป็นฟ้องที่รับฟังลงโทษจำเลยผู้ใช้เรือได้ โจทก์ไม่จำต้องระบุว่าไม่มีผู้ควบคุมเรือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้จ้างคนต่างด้าวเผาถ่าน: นายจ้างไม่มีความผิดเนื่องจากกรรมมิชอบ
จำเลยซึ่งเปนนายจ้างและเปนคนไทยไช้ไห้คนต่างด้าวทำการเผาถ่านไม่ผิดตาม ม. 174 ก.ม. อาญา
ถ่านที่เผาโดยคนต่างด้าวซึ่งต้องห้ามตามกดหมายเปนของที่ไม่ต้องริบเพราะการเผาถ่านไม่เปนความผิดไนตัวเอง และถ่านที่เผาก็ไม่ไช่ของที่ได้มาโดยการกะทำผิดอันพึงจะริบ
of 4