คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 419

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 220 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสัญญา, อายุความชำรุดบกพร่อง, การเรียกคืนเงินค่าจ้างจากงานที่ชำรุด
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่า "โดยหนังสือนี้กรมโยธาเทศบาล(โดยหลวงสัมฤทธิวิศวกรรมอธิบดีกรมโยธาเทศบาล)----------------ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร(โดยนายแสวง ทิมทอง) เป็นโจทก์ฟ้องนายชิตเทศพิทักษ์ผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานฯ ซึ่งไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามเงื่อนไขฯ เป็นเหตุให้สะพานฯ ชำรุดและพัง ฯลฯ" เป็นการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรโดยตำแหน่งหน้าที่เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ไม่ใช่มอบอำนาจให้นายแสวง ทิมทองเป็นส่วนตัว ฟ้องจำเลย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2504)
กรมโยธาเทศบาลมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฟ้องคดีแทนปลัดจังหวัดในฐานะผู้รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจลงลายมือชื่อเป็นโจทก์ในคำฟ้องแทนได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ที่ห้ามมิให้ฟ้องผู้รับจ้างเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้นนั้นหมายถึง การฟ้องร้องในเมื่อได้รับมอบการที่ว่าจ้างนั้นแล้ว
การที่ผู้จ้างชำระค่าจ้างให้ผู้รับจ้างไปก่อนงานเสร็จโดยยังมิได้รับมอบงานที่ทำ งานนั้นวินาศลงและผู้ว่าจ้างเรียกเงินคืน เป็นกรณีเรียกเงินฐานผิดสัญญา มิใช่ฐานลาภมิควรได้ จะนำอายุความตามมาตรา 419 มาใช้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการเรียกคืนที่ดินหลังศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนนิติกรรม การฟ้องภายใน 1 ปี นับจากวันที่ทราบคำพิพากษาไม่ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินต่อกันโดยต่างทำนิติกรรมยกให้ที่ดินซึ่งกันและกัน ภายหลังศาลฎีกาได้พิพากษาว่า นิติกรรมที่จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตกเป็นโมฆะ โจทก์ต้องคืนที่ดินให้จำเลย ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยภายใน 1 ปี นับแต่วันทราบคำพิพากษาศาลฎีกา ขอให้จำเลยคืนที่ดินซึ่งจำเลยรับโอนจากโจทก์ไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยเรื่องอายุความในลักษณะขอให้เพิกถอนนิติกรรมหรือเรียกคืนลาภอันมิควรได้หรือในลักษณะใด คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความเรียกคืนที่ดินหลังศาลพิพากษาเพิกถอนนิติกรรม การฟ้องภายใน 1 ปี นับจากวันที่ทราบคำพิพากษา ไม่ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินต่อกันโดยต่างทำนิติกรรมยกให้ที่ดินซึ่งกันและกัน ภายหลังศาลฎีกาได้พิพากษาว่า นิติกรรมที่จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตกเป็นโมฆะ โจทก์ต้องคืนที่ดินให้จำเลย ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยภายใน 1 ปี นับแต่วันทราบคำพิพากษาศาลฎีกา ขอให้จำเลยคืนที่ดินซึ่งจำเลยรับโอนจากโจทก์ ไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยเรื่องอายุความในลักษณะขอให้เพิกถอนนิติกรรมหรือเรียกคืนลาภอันมิควรได้หรือในลักษณะใด คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนเงินที่ชำระเกิน การฟ้องใหม่ไม่ขาดอายุความหากอ้างฐานลาภมิควรได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักย้ายหลักเขตต์ที่ดินที่จำเลยขายแก่โจทก์ ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินที่ขาด หรือใช้ราคา ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องยักย้ายหลักเขตต์เป็นเรื่องเนื้อที่ที่ซื้อขายกันมีไม่ครบตามสัญญา และจะบังคับให้จำเลยใช้เงินราคาที่ดินไม่ได้ เพราะเป็นการฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ขาด พิพากษายกฟ้อง โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีใหม่เรียกเงินที่ชำระให้แก่จำเลยเกินไป อันเป็นการฟ้องเรียกเงินคืนฐานลาภมิควรได้ จึงนำอายุความตามมาตรา 467 มาบังคับไม่ได้ ต้องบังคับตามมาตรา 419 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการเรียกคืนลาภมิควรได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนเงินเกินชำระ: คดีก่อนไม่ใช่เรื่องขาดตกบกพร่อง แต่เป็นเรื่องเนื้อที่ซื้อขายไม่ครบ ศาลใช้มาตรา 419
คดีก่อนโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักย้ายหลักเขตที่ดินที่จำเลยขายแก่โจทก์ ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินที่ขาด หรือใช้ราคา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องยักย้ายหลักเขตเป็นเรื่องเนื้อที่ที่ซื้อขายกันมีไม่ครบตามสัญญา และจะบังคับให้จำเลยใช้เงินราคาที่ดินไม่ได้ เพราะเป็นการฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ขาดพิพากษายกฟ้อง โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีใหม่เรียกเงินที่ชำระให้แก่จำเลยเกินไป อันเป็นการฟ้องเรียกเงินคืนฐานลาภมิควรได้ จึงนำอายุความตามมาตรา467 มาบังคับไม่ได้ ต้องบังคับตามมาตรา 419 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการเรียกคืนลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เดิมและการปรับตามมาตรา 1005 กรณีจำเลยรับเงินแล้วตั๋วแลกเงินไม่สามารถเรียกเก็บได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์ แล้วออกตั๋วแลกเงินให้ โจทก์ไปเก็บเงินตามตั๋วแลกเงินไม่ได้ และทำคำคัดค้านไว้ จึงมาฟ้องเรียกเงินคืนดังนี้ เป็นการฟ้องเรียกเงินคืนตามมูลหนี้เดิมคดีเข้าอยู่ในมาตรา 1005 ต้องบังคับให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เดิมและการฟ้องเรียกเงินคืนจากตั๋วแลกเงินที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์ แล้วออกตั๋วแลกเงินให้ โจทก์ไปเก็บเงินตามตั๋วแลกเงินไม่ได้ และทำคำคัดค้านไว้ จึงมาฟ้องเรียกเงินคืน ดังนี้ เป็นการฟ้องเรียกเงินคืนตามมูลหนี้เดิม คดีเข้าอยู่ในมาตรา 1005 ต้องบังคับให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความลาภมิควน การซื้อขายโมคะ และการเริ่มนับอายุความ
สิทธิเรียกทรัพย์คืนที่กระทำเพื่อชำระหนี้ในนิติกรรมที่เเปนโมคะนั้น ย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับ
ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องบังคับตามสัญญา แต่ถูกสาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนถานลาภมิควนได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด
เมื่อมีกดหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเปนโมคะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพรีติการณ์พิเสสเฉพาะตัว
เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาดนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากสาให้เลิกสัญญาต่อกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความเรียกทรัพย์คืนจากนิติกรรมโมฆะ เริ่มนับจากวันที่รู้สิทธิ ไม่ใช่วันที่คดีถึงที่สุด
สิทธิเรียกทรัพย์คืนที่กระทำเพื่อชำระหนี้ในนิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้นย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับ ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องขอบังคับตามสัญญาแต่ถูกศาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนฐานลาภมิควรได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด เมื่อมีกฎหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพฤติการณ์พิเศษเฉพาะตัว เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาจนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากษาให้เลิกสัญญาต่อกัน
of 22