พบผลลัพธ์ทั้งหมด 498 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย และการใช้กฎหมายอาญาที่แก้ไขใหม่ที่มีโทษเบาแก่ผู้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ไม่ริบไม้ของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ริบไม้ของกลาง ฟ้องโจทก์อ้าง พระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 73 แก้ไขฉบับที่ 4 วรรคแรก ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาอ่านวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2522 โจทก์ยื่นอุทธรณ์วันที่8 มีนาคม 2522 เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ ต่อมาพระราชบัญญัติป่าไม้ แก้ไขโทษสูงขึ้นระหว่างอุทธรณ์ ก็ยังต้องใช้ระวางโทษเบาที่เป็นคุณตามเดิม ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยไม่ได้ต้องยกอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการกระทำที่เล็งเห็นผลอันตรายถึงชีวิต และความรับผิดตามกฎหมายจราจรทางบก
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาจะให้รถยนต์ที่ผู้ตายขับชนกับรถโดยสารประจำทางซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นอยู่แล้วว่า เมื่อรถโดยสารแล่นสวนทางมาในระยะใกล้ หากจำเลยได้หยุดและหักรถหลบเข้ามาทางซ้าย ผู้ตายต้องหลบมาทางขวา จะชนกับรถโดยสารในทันที ผู้ตายและผู้โดยสารต้องถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และรถทั้งสองชนกันมีคนตายและบาดเจ็บสาหัสดังเจตนาของจำเลย หรือมิฉะนั้นก็ขับรถด้วยความประมาทแสดงว่าฟ้องมีความประสงค์ให้ลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง หาใช่ขอให้ลงโทษทั้งสองอย่างไม่ ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) และจำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1547/2511)
จำเลยขับรถปิดเส้นทางไม่ยอมให้ผู้ตายซึ่งขับรถตามหลังมาแซงขึ้นหน้า เมื่อรถโดยสารประจำทางแล่นสวนทางมา จำเลยก็แกล้งเบรคให้รถหยุดในทันที การกระทำเช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายต้องหักรถหลบไปทางขวาและชนกับรถโดยสารนั้น ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าจะมีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บและตายเกิดขึ้นจากเหตุที่รถชนกันนั้น ฉะนั้นเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยผลแห่งการกระทำของจำเลยดังกล่าว จงได้ชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
จำเลยขับรถปิดเส้นทางไม่ยอมให้ผู้ตายซึ่งขับรถตามหลังมาแซงขึ้นหน้า เมื่อรถโดยสารประจำทางแล่นสวนทางมา จำเลยก็แกล้งเบรคให้รถหยุดในทันที การกระทำเช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายต้องหักรถหลบไปทางขวาและชนกับรถโดยสารนั้น ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าจะมีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บและตายเกิดขึ้นจากเหตุที่รถชนกันนั้น ฉะนั้นเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยผลแห่งการกระทำของจำเลยดังกล่าว จงได้ชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขับรถประมาท แข่งรถและกินทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ศาลฎีกายืนโทษตามกฎหมายเดิม
จำเลยขับรถบรรทุกน้ำมันยอมให้รถที่ตามมาแซงขึ้นแล้วแต่ยังแซงไม่พ้น จำเลยกลับแข่งและกินทางเข้าไปในทางรถที่แซง จึงเฉี่ยวกันจำเลยประมาทเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 29,66 ซึ่ง พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4),157 ยังเป็นผิด แต่โทษสูงกว่า ลงโทษตาม พระราชบัญญัติเดิม เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายจราจรใหม่และการปรับบทลงโทษ: กฎหมายฉบับใหม่เป็นคุณแก่จำเลย
จอดรถไม่ขนานชิดขอบทาง มีความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 54,148 เป็นคุณกว่า พระราชบัญญัติจราจร พ.ศ. 2477 มาตรา 19, 66 ศาลใช้กฎหมายใหม่ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองอาวุธสงครามก่อนประกาศคำสั่ง คณะปฏิรูปฯ ไม่ต้องรับโทษ หากถูกจับกุมก่อนประกาศ
จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและถูกจับก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ที่ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ มีผลใช้บังคับ แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้หลังวันที่ 14 ตุลาคม 2519 จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษศาลยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำสั่ง คปค. ที่ให้มอบอาวุธสงครามเพื่อหลีกเลี่ยงความผิด แม้ของกลางถูกยึดก่อน
จำเลยถูกจับดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนฯ ที่ใช้เฉพาะในการสงคราม แล้วมีคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ให้นำปืนมามอบแก่นายทะเบียนปืนจึงไม่อยู่ในครอบครองของจำเลยจำเลยก็ไม่ต้องรับโทษตามคำสั่งนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนใหม่มีผลย้อนหลังคุ้มครองผู้กระทำผิดก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้
แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดและเจ้าพนักงานตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน กับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามของกลางซึ่งเป็นของจำเลยกับพวกได้ก่อนพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 มีผลใช้บังคับ แต่ในระหว่างที่ยังไม่ได้ตัวจำเลยมาฟ้องได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯฉบับดังกล่าวออกใช้บังคับ ผู้ที่ปฏิบัติตามมาตรา 3 และมาตรา 5 แล้วไม่ต้องรับโทษพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับดังกล่าวจึงเป็นกฎหมายที่ออกมาใหม่ได้ยกเว้นโทษอันเป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก จำเลย ไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2246/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน: การพิจารณาอำนาจประหัตประหารของอาวุธ และการปรับตามมาตรา 80 แทนมาตรา 81
ตามปกติถือว่าปืนเป็นอาวุธร้ายแรง อาจทำให้ถึงตายได้ ปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายเป็นอาวุธปืนสั้น จะทำขึ้นเองหรือทำมาจากที่ใดไม่ปรากฏ แต่ได้ความว่าเมื่อยิงนัดหนึ่งแล้วต้องใช้มือจับลูกโม่ให้หมุนก่อนที่จะใช้ยิงนัดต่อไป กระสุนปืนที่ถูกผู้เสียหายไม่ได้เข้าตรง ๆ โดยเฉียดสีข้างเป็นบาดแผลกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายพลัดตกลงไปในคูและลุกขึ้นไม่ได้ แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีอำนาจประหัตประหาร ให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ ถ้ากระสุนปืนถูกอวัยวะอื่นที่เป็นส่วนสำคัญของร่างกาย กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 โดยถือว่าจำเลยลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) ประกอบด้วยมาตรา 80 หาใช่มาตรา 81 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2246/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน: การประเมินอำนาจประหัตประหารของอาวุธและมาตรา 80/81
ตามปกติถือว่าปืนเป็นอาวุธร้ายแรง อาจทำให้ถึงตายได้ ปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายเป็นอาวุธปืนสั้น จะทำขึ้นเองหรือทำมาจากที่ใดไม่ปรากฏ แต่ได้ความว่าเมื่อยิงนัดหนึ่งแล้วต้องใช้มือจับลูกโม่ให้หมุนก่อนที่จะใช้ยิงนัดต่อไป กระสุนปืนที่ถูกผู้เสียหายไม่ได้เข้าตรง ๆ โดยเฉียดสีข้างเป็นบาดแผลกว้าว 1 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายพลัดตกลงไปในคูและลุกขึ้นไม่ได้ แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีอำนาจประหัตประหารให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ ถ้ากระสุนปืนถูกอวัยวะอื่นที่เป็นส่วนสำคัญของร่างกาย กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 โดยถือว่าจำเลยลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (2) ประกอบด้วยมาตรา 80 หาใช่มาตรา 81 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2064/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำคุกก่อนประกาศคณะปฏิวัติ: ใช้กฎหมายเดิม
จำเลยทำผิดก่อนประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่21 พฤศจิกายน 2514 การลดโทษประหารชีวิตตาม มาตรา 52 เดิมลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 16 ปี ถึง 20 ปี เป็นคุณยิ่งกว่าประกาศคณะปฏิวัติ ข้อ 1 ซึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ศาลต้องใช้ มาตรา 52 เดิม