พบผลลัพธ์ทั้งหมด 498 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออนุญาตอาวุธปืนและการรับสารภาพในชั้นศาลมีผลต่อการตัดสินคดีอาญา
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 การที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ก็ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน .22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า "จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา" แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน .22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า "จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา" แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออนุญาตอาวุธปืนภายหลังกฎหมายฉบับแก้ไข และการรับสารภาพในชั้นศาล
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษการที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ก็ ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียนจำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน.22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การรับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า 'จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา' แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน.22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การรับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า 'จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา' แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลกระทบของกฎหมายยกเว้นโทษต่อคดีระหว่างพิจารณา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีกฎหมายยกเว้นโทษโดย พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับที่ 6 จำเลยได้รับผลตามกฎหมายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประโยชน์จากการมอบอาวุธปืนภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ แม้ฟ้องหลัง 90 วัน ก็ไม่ต้องรับโทษ
จำเลยกระทำผิดก่อนวันประกาศใช้พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 เจ้าพนักงานจับและยึดกระสุนปืนไว้เป็นของกลาง แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยภายหลังจากระยะเวลา 90 วัน ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ล่วงพ้นไปแล้วก็ตาม จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษ เพราะจำเลยได้รับประโยชน์ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่ง คปถ. ยกเว้นโทษฐานมีวัตถุระเบิด หากมอบให้นายทะเบียนตามกฎหมาย
คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ซึ่งสั่งณ วันที่ 7 ตุลาคม 2519 กำหนดให้ผู้มีวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ต้องรับโทษ ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2519 ฉะนั้น ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต้องถือว่าคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เมื่อมีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองฉบับที่ 12 ซึ่งสั่งและมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2519 ดังกล่าว ซึ่งระหว่างนั้นจำเลยยังมีสิทธิที่จะนำวัตถุระเบิดตามฟ้องไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนฯ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน กรณีต้องด้วยมาตรา 3 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา ที่จะต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษทางอาญาจากคำสั่ง คปถ. และหลักการใช้กฎหมายที่เป็นคุณต่อจำเลย
คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ซึ่งสั่ง ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2519 กำหนดให้มีผู้มีวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนห้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ต้องรับโทษ ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2519 ฉะนั้น ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต้องถือว่าคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เมื่อมีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองฉบับที่ 12 ซึ่งสั่งและมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2519 ดังกล่าว ซึ่งระหว่างนั้นจำเลยยังมีสิทธิที่จะนำวัตถุระเบิดตามฟ้องไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนฯ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน กรณีต้องด้วยมาตรา 3 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่จะต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาญาจากคำสั่ง คปถ. กรณีครอบครองอาวุธสงคราม และการมอบอาวุธตามคำสั่ง
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแต่ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้ผู้ที่มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ต้องรับโทษจึงต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืน และกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนโดย พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 แม้ไม่ได้ฎีกาในความผิดฐานนั้น
จำเลยถูกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นและฐานมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ ซึ่งตาม มาตรา 3 ได้ยกเว้นโทษให้โอกาสผู้มีอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายนำอาวุธปืนไปขอรับอนุญาตได้ภายในเก้าสิบวันไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงได้รับยกเว้นโทษด้วย ถึงแม้โจทก์จำเลยจะมิได้ฎีกาในความผิดฐานมีอาวุธปืนนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195และกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาเนื่องจากจำเลยเสียชีวิต และการยกเว้นโทษตามกฎหมายเฉพาะ
จำเลยที่ 2 ตายในระหว่างอายุความอุทธรณ์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องสำหรับจำเลยนั้นย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 ดังนั้น เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ตาย
ในระหว่างอายุความฎีกาได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้โอกาสแก่ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ดังนั้น แม้จำเลยที่ 4 จะมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะการสงครามไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 4 ก็ได้ยกเว้นโทษตามกฎหมาย และเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 จะไม่อุทธรณ์ฎีกาต่อมาก็ได้รับประโยชน์จากบทกฎหมายดังกล่าวด้วย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 4
ในระหว่างอายุความฎีกาได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้โอกาสแก่ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ดังนั้น แม้จำเลยที่ 4 จะมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะการสงครามไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 4 ก็ได้ยกเว้นโทษตามกฎหมาย และเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 จะไม่อุทธรณ์ฎีกาต่อมาก็ได้รับประโยชน์จากบทกฎหมายดังกล่าวด้วย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาเนื่องจากจำเลยถึงแก่ความตาย และการยกเว้นโทษตามกฎหมายอาวุธปืน
จำเลยที่ 2 ตายในระหว่างอายุความอุทธรณ์สิทธินำคดีอาญามาฟ้องสำหรับจำเลยนั้นย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 ดังนั้น เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ตาย
ในระหว่างอายุความฎีกาได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าวให้โอกาสแก่ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ พระราชบัญญัติใช้บังคับผู้นั้นไม่ต้องรับโทษดังนั้นแม้จำเลยที่ 4 จะมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะการสงครามไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 4 ก็ได้รับยกเว้นโทษตามกฎหมายและเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาต่อมาก็ได้รับประโยชน์จากบทกฎหมายดังกล่าวด้วยศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 4
ในระหว่างอายุความฎีกาได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าวให้โอกาสแก่ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ พระราชบัญญัติใช้บังคับผู้นั้นไม่ต้องรับโทษดังนั้นแม้จำเลยที่ 4 จะมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะการสงครามไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 4 ก็ได้รับยกเว้นโทษตามกฎหมายและเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาต่อมาก็ได้รับประโยชน์จากบทกฎหมายดังกล่าวด้วยศาลฎีกาจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 4