คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 425

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,014 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของลูกจ้างและผู้ว่าจ้าง รวมถึงความรับผิดตามสัญญาประกันภัยรถยนต์
หลังเกิดเหตุแล้วโจทก์ จำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 3 หุ้นส่วนผู้จัดการและพนักงานประกันภัยของจำเลยที่ 4 ได้มีการเจรจาเรื่องค่าเสียหายกัน ทั้งได้ความว่ารถยนต์บรรทุกเป็นของจำเลยที่ 2เอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 4 ประกอบกับจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 2โดยจำเลยที่ 3 ยอมรับว่าจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์บรรทุกในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำด้วย เมื่อจำเลยที่ 2 ต้องรับผิด จำเลยที่ 4 ผู้รับประกันภัยรถยนต์จากจำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย รถยนต์โจทก์ถูกชนท้ายและไถลไปชนรถยนต์บรรทุกที่จอดอยู่ข้างหน้า ได้รับความเสียหายทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีสภาพพังยับเยินต้องซ่อมแซม ศาลกำหนดค่าซ่อมแซมให้ 106,705 บาทค่าขาดประโยชน์ 36 วัน วันละ 300 บาท เป็นเงิน 10,800 บาท น้อยกว่าที่โจทก์ขอ และการที่รถยนต์โจทก์ถูกชนเสียหายยับเยินย่อมเสื่อมราคาลง แม้จะทำการซ่อมแซมอย่างดีแล้วก็ตาม ศาลกำหนดค่าเสื่อมราคาเป็นเงิน 5,000 บาท เป็นการเหมาะสมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และสิทธิค่าอุปการะเลี้ยงดูเมื่อบุตรเสียชีวิต
จำเลยให้ ว.ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปรับปลาที่จังหวัดภูเก็ตมาส่งที่จังหวัดสมุทรสาครแต่ปลาที่จังหวัดภูเก็ตไม่มี ว. จึงรอรับปลาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต วันเกิดเหตุ ว. ขับรถยนต์บรรทุกพาคนงานของจำเลยไปเที่ยงที่หาดป่าตอง ดังนี้ จำเลยมีตัวแทนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ ว. ขับรถยนต์บรรทุกไปถึงจังหวัดภูเก็ตไม่มีปลา จำเลยก็น่า จะมีระเบียบให้คนขับรถยนต์บรรทุกมอบรถยนต์บรรทุกไว้ในความรับผิดชอบของตัวแทน แต่จำเลยไม่ได้สั่งหรือดำเนินการดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยยินยอมมอบให้ ว. ควบคุมดูแลรถยนต์บรรทุกตลอดระยะเวลาที่ ซ.อยู่ในจังหวัดภูเก็ตว. สามารถนำรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปใช้ได้ตลอดเวลา การที่ ว.ขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุพาคนงานของจำเลยไปเที่ยวย่อมถือได้ว่านาย ว. กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลย การที่ ว. กระทำละเมิดเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย โจทก์ผู้เป็นบิดาจึงขาดไร้ผู้อุปการะเลี้ยงดูย่อมมีสิทธิจะได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูอันเป็นค่าสินไหมทดแทนส่วนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสามประกอบมาตรา 1563 ไม่ว่าบิดามารดาจะมีฐานะมั่งมีหรือยากจนและประกอบอาชีพหาเลี้ยง ตนเองได้หรือไม่ และโดยไม่จำต้องพิจารณาว่าในขณะนั้นผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างที่ขับรถประมาทจนเกิดละเมิด และสิทธิในการได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดู
จำเลยให้ ว.ลูกจ้างขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปรับปลาที่จังหวัดภูเก็ตมาส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ปลาที่จังหวัดภูเก็ตไม่มีว. จึงรอรับปลาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตวันเกิดเหตุ ว. ขับรถยนต์บรรทุกพาคนงานของจำเลยไปเที่ยวที่หาดป่าตอง จำเลยมีตัวแทนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อ ว. ขับรถยนต์บรรทุกไปถึงจังหวัดภูเก็ตไม่มีปลาจำเลยก็น่าจะมีระเบียบให้คนขับรถยนต์บรรทุกมอบรถยนต์บรรทุกไว้ในความรับผิดชอบของตัวแทน แต่จำเลยไม่ได้สั่งหรือดำเนินการดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยยินยอมมอบให้ ว. ควบคุมดูแลรถยนต์บรรทุกตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต ว. สามารถนำรถยนต์บรรทุกไปใช้ได้ตลอดเวลา การที่ว.ขับรถยนต์บรรทุกพาคนงานของจำเลยไปเที่ยว ถือได้ว่ากระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องรับผิดร่วมกับ ว. การที่ว.กระทำละเมิดเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายโจทก์ผู้บิดาจึงขาดไร้ผู้อุปการะเลี้ยงดู ย่อมมีสิทธิจะได้รับ ค่าอุปการะเลี้ยงดูอันเป็นค่าสินไหมทดแทนส่วนหนึ่ง ตามกฎหมาย โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าในขณะนั้นผู้ตาย จะได้อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2536 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง และสิทธิเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดู
จำเลยให้ ว.ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปรับปลาที่จังหวัดภูเก็ตมาส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ปลาที่จังหวัดภูเก็ตไม่มีว.จึงรอรับปลาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต วันเกิดเหตุ ว.ขับรถยนต์บรรทุกพาคนงานของจำเลยไปเที่ยวที่หาดป่าตอง ดังนี้ จำเลยมีตัวแทนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อ ว.ขับรถยนต์บรรทุกไปถึงจังหวัดภูเก็ตไม่มีปลา จำเลยก็น่าจะมีระเบียบให้คนขับรถยนต์บรรทุกมอบรถยนต์บรรทุกไว้ในความรับผิดชอบของตัวแทน แต่จำเลยไม่ได้สั่งหรือดำเนินการดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยยินยอมมอบให้ ว.ควบคุมดูแลรถยนต์บรรทุกตลอดระยะเวลาที่ ว.อยู่ในจังหวัดภูเก็ต ว.สามารถนำรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปใช้ได้ตลอดเวลา การที่ ว.ขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุพาคนงานของจำเลยไปเที่ยว ย่อมถือได้ว่านาย ว.กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลย
การที่ ว.กระทำละเมิดเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายโจทก์ผู้เป็นบิดาจึงขาดไร้ผู้อุปการะเลี้ยงดู ย่อมมีสิทธิจะได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูอันเป็นค่าสินไหมทดแทนส่วนหนึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 443 วรรคสาม ประกอบมาตรา 1563 ไม่ว่าบิดามารดาจะมีฐานะมั่งมีหรือยากจนและประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองได้หรือไม่ และโดยไม่จำต้องพิจารณาว่าในขณะนั้นผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างในการปฏิบัติงาน แม้ลูกจ้างออกนอกเส้นทาง
จำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยร่วมมอบหมายงานให้จำเลยที่ 1 เป็นรายวันโดยจำเลยที่ 1 มารับกุญแจรถยนต์และรับคำสั่งจากจำเลยที่ 2 เมื่อทำงานเสร็จแล้วนำกุญแจมาคืนแสดงว่าการปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 แต่ละวันจะสิ้นสุดเมื่อนำรถยนต์มาเก็บที่ห้างจำเลยร่วม และมอบกุญแจให้จำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 มอบให้จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ไปบรรทุกแกลบ การที่จำเลยที่ 1 ขับรถออกไปในวันเกิดเหตุเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วม การที่จำเลยที่ 2 มอบหมายให้จำเลยที่ 1โดยลำพังขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยร่วมไปปฏิบัติงานแต่ละวันแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมไว้วางใจการปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ออกนอกเส้นทางไปดูการเกณฑ์ทหารแล้วรับชาวบ้านและโจทก์ขึ้นรถคันเกิดเหตุโดยไม่ได้ขออนุญาตจำเลยที่ 2 โดยขับไปตามถนนเลียบแม่น้ำซึ่งสามารถไปห้างจำเลยร่วมได้การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือได้ว่ายังอยู่ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิดขยายเมื่อศาลสั่งคืนคำฟ้อง และนายจ้างต้องรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้างที่มอบหมายให้คนอื่นขับรถ
ศาลสั่งคืนคำฟ้องให้โจทก์ไปยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายในกำหนดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 176 เดิม ซึ่งบังคับใช้อยู่ในขณะนั้นคดีของโจทก์ย่อมขยายอายุความออกไป 6 เดือน เมื่อโจทก์นำฟ้องมายื่นใหม่ภายใน 6 เดือน ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ เมื่อบุคคลอื่นขับรถแทนลูกจ้างในทางการที่จ้างของจำเลย ต้องถือว่าการที่ลูกจ้างให้คนอื่นขับรถแทนจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยผู้เป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้าง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าของรถต่อการละเมิดของลูกจ้าง: เจ้าของรถไม่ต้องรับผิดหากการละเมิดเกิดจากลูกจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุ การที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของรถยนต์จะต้องรับผิดร่วมกับผู้กระทำละเมิดจากการขับรถยนต์คันดังกล่าวโดยประมาทด้วย จึงไม่เป็นการพิพากษาให้จำเลยที่ 1 รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นอกเหนือไปจากคำฟ้องแต่ประการใด แต่เมื่อการละเมิดเกิดจากการกระทำของลูกจ้าง ช. บุตรจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ และจำเลยที่ 2ผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 ย่อมไม่ต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรถไม่ต้องรับผิดหากการละเมิดเกิดจากลูกจ้างของบุตร
โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกการที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของรถยนต์บรรทุกจะต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำละเมิดจากการขับรถยนต์คันดังกล่าวโดยประมาทด้วย พิพากษาให้จำเลยที่ 1 รับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่เป็นการพิพากษานอกเหนือไปจากคำฟ้อง จำเลยที่ 1 มอบรถยนต์บรรทุกดังกล่าวให้แก่ ช. บุตรจำเลยไปครอบครองใช้สอย จ. ลูกจ้าง ช. ขับรถยนต์บรรทุกดังกล่าวโดยประมาทชนกระบือแล้วเลยไปชนรถจักรยานยนต์ของโจทก์ที่โจทก์ขับสวนมา การละเมิดเกิดจากการกระทำของลูกจ้างบุตรจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม-ความรับผิดนายจ้าง: จำเลยต้องรับผิดเมื่อลูกจ้างทุจริตและศาลพบว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม
คำให้การของจำเลยที่ 2 ปฏิเสธเพียงว่า คำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่บรรยายสภาพแห่งข้อหาให้ชัดแจ้ง ทั้งข้อความก็ไม่ต่อเนื่องไม่สามารถเข้าใจข้อความแห่งคำฟ้อง เป็นการยกถ้อยคำในกฎหมายมาอ้าง โดยมิได้บรรยายว่าสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องของโจทก์ข้อใดที่ไม่ชัดแจ้งและไม่ชัดแจ้งอย่างไร คำให้การจำเลยจึงแสดงเหตุไม่ชัดแจ้ง ไม่มีประเด็นว่าฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ก็เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกา การฝากและถอนเงินจากบัญชีชื่อของโจทก์เป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 เองทั้งหมด โจทก์มิได้รู้เห็นด้วย จึงไม่ผูกพันโจทก์และการที่จำเลยที่ 1 ทุจริตปลอมลายมือชื่อโจทก์ถอนเงินจากบัญชีโจทก์ เป็นการละเมิด ธนาคารจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้างในการปฏิบัติงานตามคำสั่ง
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างรายวันของจำเลยที่ 2 เหตุละเมิด เกิดขึ้นในขณะจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์สามล้อมาเก็บ ที่โกดังของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 เคยสั่งลูกจ้างทุกคน ว่า เลิกงานแล้วให้นำรถจักรยานยนต์สามล้อไปเก็บไว้ที่โกดัง เหตุละเมิดจึงเกิดขึ้นในขณะที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 และตามมาตรา 425 นี้ นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างรายวันหรือลูกจ้างรายเดือนก็ตาม
of 102