พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,014 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบริษัทขนส่งต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากลูกจ้างขับรถประมาท และค่าเสียหายที่เหมาะสม
ลูกจ้างของบริษัทเดินรถโดยสาร เป็นสารวัตรควบคุมการเดินรถและตรวจตั๋วขับรถโดยประมาทในเส้นทางของบริษัทในทางค้าปกติเพราะคนขับไม่อยู่บริษัทต้องรับผิดในความเสียหายที่รถตก คนโดยสารต้องตัดแขนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 ต้องใช้ค่าเสียหายรวมถึงการที่โจทก์ได้รับความเสียหายต้องตัดข้อมือขวาใช้แขนเทียมแทนเสียความสามารถประกอบการงาน และความเสียหายที่มิใช่ตัวเงินด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615-616/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยพิจารณาจากส่วนแห่งความประมาทและฐานความรับผิดของนายจ้าง
ฎีกากล่าวเพียงว่าค่าเสียหายไม่ควรเกินกว่าจำนวนเท่านั้นเท่านี้โดยไม่มีข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด ๆ สนับสนุนเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะอ้างอิงขึ้นกล่าวไว้โดยชัดแจ้งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขับวิ่งคู่กันไปแล้วเกิดกระแทกกันรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับเสียหลักวิ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนสามีและบิดาโจทก์ถึงตายเป็นเรื่องต่างทำละเมิด ไม่ใช่ร่วมกันทำละเมิดจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2ในผลแห่งการทำละเมิดของจำเลยที่ 2 ด้วย จำเลยที่ 1 ประมาทมาก ศาลให้จำเลยที่ 1,3 ใช้ค่าเสียหาย 9 ส่วน จำเลยที่ 2 ใช้ 1 ส่วน
รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขับวิ่งคู่กันไปแล้วเกิดกระแทกกันรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับเสียหลักวิ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนสามีและบิดาโจทก์ถึงตายเป็นเรื่องต่างทำละเมิด ไม่ใช่ร่วมกันทำละเมิดจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2ในผลแห่งการทำละเมิดของจำเลยที่ 2 ด้วย จำเลยที่ 1 ประมาทมาก ศาลให้จำเลยที่ 1,3 ใช้ค่าเสียหาย 9 ส่วน จำเลยที่ 2 ใช้ 1 ส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2982-2983/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องผู้รับประกันภัยโดยตรงเมื่อเกิดความเสียหายจากรถคันเอาประกันภัย ลูกจ้างขับประมาท ผู้รับประกันภัยต้องรับผิด
โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์คันที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้ ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้โดยตรงในฐานะเป็นผู้รับประกันภัยโดยไม่ต้องฟ้องผู้เอาประกันภัย
เมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยได้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วยความประมาทก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ต้องเสียหายโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
เมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยได้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วยความประมาทก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ต้องเสียหายโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2982-2983/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดต่อความเสียหายจากผู้ขับรถประมาท แม้ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์คันที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้ ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้โดยตรงในฐานะเป็นผู้รับประกันภัยโดยไม่ต้องฟ้องผู้เอาประกันภัย
เมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยได้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วยความประมาทก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ต้องเสียหายโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
เมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยได้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยด้วยความประมาทก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ต้องเสียหายโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794-2795/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้างที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ และสิทธิค่าขาดไร้อุปการะแม้มีผู้เลี้ยงดู
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถยนต์ประจำทางให้กับบริษัทจำเลยที่ 2 ตอนเกิดเหตุรถชนกันจำเลยที่ 1 ได้ขับรถไปส่งพนักงานของบริษัทจำเลยที่ 2 ตามบ้านแม้มีระเบียบของบริษัทว่าเมื่อพนักงานขับรถนำรถเข้ามาในบริษัทนำลูกกุญแจไปแขวนไว้แล้วจะนำรถออกไปอีกต้องรับอนุญาตจากผู้จัดการก่อน ระเบียบดังกล่าวเป็นระเบียบปฏิบัติภายใน จะนำมาใช้ยันบุคคลภายนอกไม่ได้ ทั้งระเบียบที่ว่านี้ก็มิได้ปฏิบัติเคร่งครัดถือได้ว่าการนำรถออกไปส่งพนักงานของบริษัทฯ อยู่ในระหว่างปฏิบัติงานทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2
เรื่องค่าขาดไร้อุปการะ แม้จะมีคนอื่นอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ หรือโจทก์มีฐานะดีไม่ได้รับความเดือนร้อน โจทก์ก็มีสิทธิจะได้รับค่าสินไหมทดแทน
เรื่องค่าขาดไร้อุปการะ แม้จะมีคนอื่นอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ หรือโจทก์มีฐานะดีไม่ได้รับความเดือนร้อน โจทก์ก็มีสิทธิจะได้รับค่าสินไหมทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794-2795/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดในผลละเมิดของลูกจ้างที่ขับรถในทางการที่จ้าง แม้มีระเบียบภายในและผู้ตายมีผู้ดูแล
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถยนต์ประจำทางให้กับบริษัทจำเลยที่ 2 ตอนเกิดเหตุรถชนกันจำเลยที่ 1 ได้ขับรถไปส่งพนักงานของบริษัทจำเลยที่ 2 ตามบ้านแม้มีระเบียบของบริษัทว่าเมื่อพนักงานขับรถนำรถเข้ามาในบริษัทนำลูกกุญแจไปแขวนไว้แล้ว จะนำรถออกไปอีกต้องรับอนุญาตจากผู้จัดการก่อน ระเบียบดังกล่าวเป็นระเบียบปฏิบัติภายใน จะนำมาใช้ยันบุคคลภายนอกไม่ได้ทั้งระเบียบที่ว่านี้ก็มิได้ปฏิบัติเคร่งครัดถือได้ว่าการนำรถออกไปส่งพนักงานของบริษัทฯ อยู่ในระหว่างปฏิบัติงานทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2
เรื่องค่าขาดไร้อุปการะ แม้จะมีคนอื่นอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ หรือโจทก์มีฐานะดีไม่ได้รับความเดือดร้อนโจทก์ก็มีสิทธิจะได้รับค่าสินไหมทดแทน
เรื่องค่าขาดไร้อุปการะ แม้จะมีคนอื่นอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ หรือโจทก์มีฐานะดีไม่ได้รับความเดือดร้อนโจทก์ก็มีสิทธิจะได้รับค่าสินไหมทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาผูกพันคดีแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 แม้ผู้เสียหายไม่ได้เป็นโจทก์
ในคดีส่วนอาญาศาลได้สืบพยานโจทก์จำเลยและได้มีการวินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นของคดีนั้นว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้อื่นเสียหายแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์คดีถึงที่สุดดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 โดยต้องฟังว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือกระทำละเมิดด้วยแม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ฟ้องหรือร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีอาญาด้วยก็ตาม
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ประมาทจากการขับรถ
ในคดีส่วนอาญาศาลได้สืบพยานโจทก์จำเลยและได้มีการวินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นของคดีนั้นว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้เสียหาย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุด ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 โดยต้องฟังว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือกระทำละเมิดด้วย แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ฟ้องหรือร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีอาญาด้วยก็ตาม
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในฐานะนายจ้าง: สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาจ้างแรงงาน และขอบเขตความรับผิดต่อการกระทำละเมิดของผู้อื่น
จำเลยที่ 14 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ. ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ. ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้างพ. ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ. จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ต้องรับผิดในละเมิดของผู้อื่นเมื่อจ้างทำของ ไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ.ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ.ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้าง พ.ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ.จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2