คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 425

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,014 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: แม้มีสัญญาระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอก จำเลยยังต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการกระทำของลูกจ้าง
แม้นายหัดผู้เช่ารถโจทก์จะมีข้อสัญญารับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเช่าด้วยประการใดๆ ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างนายหัดกับโจทก์ ส่วนการที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์โดยตรง เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ และเมื่อจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้าง จำเลยที่ 2 จะอ้างเอาสัญญาระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้างและบุคคลภายนอกจากการขับรถประมาท รวมถึงการกำหนดค่าสินไหมทดแทนที่สมควร
รถคันเกิดเหตุเป็นรถของผู้มีชื่อเอามาวิ่งร่วมวิ่งรับคนโดยสารในเส้นทางสัมปทานของจำเลยที่ 2 โดยแบ่งส่วนได้ให้จำเลยที่ 2 แต่เจ้าของรถต้องโอนรถให้มีชื่อบริษัทจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของในทะเบียนรถ คนขับ คนเก็บเงิน ต้องแต่งเครื่องแบบของบริษัท และรถก็ต้องทาสีของบริษัทด้วย ถือว่าจำเลยที่ 2 ได้มีและใช้รถคันเกิดเหตุในกิจการของจำเลยที่ 2 แล้ว ต้องถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้ทำละเมิด (อ้างฎีกาที่ 1576/2506)
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่า เงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องโจทก์ได้เรียกร้องในฐานะที่จำเลยละเมิดต่อร่างกายโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446 แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายรายละเอียดอันจะถือเป็นเกณฑ์คำนวณค่าเสียหายก็ดี หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ ศาลมีอำนาจที่จะกะค่าสินไหมทดแทนให้ตามสมควรแก่รูปคดีได้
จำเลยขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์ฝ่ายที่ต้องนำสืบเสร็จแล้ว โดยอ้างว่าเป็นพยานสำคัญที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์ในคดีของจำเลย หากศาลเห็นว่าแม้จะอนุญาตให้จำเลยสืบพยานตามที่ระบุไว้นั้น ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น จะไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างพยานเพิ่มเติมก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้าง และการกำหนดค่าเสียหายจากละเมิดต่อร่างกาย ศาลไม่เห็นควรอนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติม
รถคันเกิดเหตุเป็นรถของผู้มีชื่อเอามาวิ่งร่วมวิ่งรับคนโดยสารในเส้นทางสัมปทานของจำเลยที่ 2 โดยแบ่งส่วนได้ให้จำเลยที่ 2 แต่เจ้าของรถต้องโอนรถให้มีชื่อบริษัทจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของในทะเบียนรถ คนขับ คนเก็บเงินต้องแต่งเครื่องแบบของบริษัท และรถก็ต้องทาสีของบริษัทด้วย ถือว่าจำเลยที่ 2 ได้มีและใช้รถคันเกิดเหตุในกิจการของจำเลยที่ 2 แล้ว ต้องถือว่าจำเลยที่ 2เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้ทำละเมิด (อ้างฎีกาที่1576/2506)
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่า เงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องโจทก์ได้เรียกร้องในฐานะที่จำเลยละเมิดต่อร่างกายโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446 แม้โจทก์จะไม่ได้ บรรยายรายละเอียดอันจะถือเป็นเกณฑ์คำนวณค่าเสียหายก็ดี หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ ศาลมีอำนาจที่จะกะค่าสินไหมทดแทนให้ตามสมควรแก่รูปคดีได้
จำเลยขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์ฝ่ายที่ต้องนำสืบเสร็จแล้ว โดยอ้างว่าเป็นพยานสำคัญที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์ในคดีของจำเลย หากศาลเห็นว่าแม้จะอนุญาตให้จำเลยสืบพยานตามที่ระบุไว้นั้น ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น จะไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างพยานเพิ่มเติมก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้างนอกเหนือการปฏิบัติงานตามสัญญา
ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกรับจ้างของนายจ้างได้ขับรถยนต์บรรทุกของบุคคลอื่นที่มาฝากนายจ้างไว้เพื่อไปเที่ยวงานวัดในตอนกลางคืน แม้นายจ้างจะรู้เห็นยินยอมด้วยก็หาใช่เป็นเรื่องที่ลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้างขณะใช้รถยนต์ส่วนตัว
ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกรบจ้างของนายจ้าง ได้ขับรถยนต์บรรทุกของบุคคลอื่นที่มาฝากนายจ้างไว้เพื่อไปเที่ยวงานวัดในตอนกลางคืน แม้นายจ้างจะรู้เห็นยินยอมด้วย ก็หาใช่เป็นเรื่องที่ลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างตามประมวบกฎหมายแห่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากกระบือดุ: นายจ้างต้องรับผิดชอบต่อความประมาทของลูกจ้างในการเลี้ยงสัตว์
การที่ผู้เลี้ยงกระบือดุพากระบือเดินไปในทางที่ไม่ใช่ทางสำหรับกระบือเดินและเข้าไปใกล้บ้านที่มีกระบืออื่นผูกล่ามอยู่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้กระบือดุนั้นวิ่งเข้าไปชนกระบือที่ผูกล่ามอยู่ได้ ดังนี้เป็นการกระทำโดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยของบุคคลที่เลี้ยงสัตว์ดุ
กระบือดุของจำเลยขวิดโจทก์เพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของลูกจ้างของจำเลยขณะปฏิบัติการตามทางการที่จ้าง
จำเลยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากกระบือดุ ผู้เลี้ยงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อพากระบือเดินในที่สาธารณะใกล้กระบืออื่น
การที่ผู้เลี้ยงกระบือดุพากระบือเดินไปในทางที่ไม่ใช่ทางสำหรับกระบือเดินเข้าไปใกล้บ้านที่มีกระบืออื่นผูกล่ามอยู่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้กระบือดุนั้นวิ่งเข้าไปชนกระบือที่ผูกล่ามอยู่ได้ ดังนี้เป็นการกระทำโดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยของบุคคลที่เลี้ยงสัตว์ดุ
กระบือดุของจำเลยขวิดโจทก์เพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของลูกจ้างของจำเลยขณะปฏิบัติการตามทางการที่จ้าง จำเลยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง, ค่าปลงศพ, ค่าขาดไร้อุปการะ, และดอกเบี้ย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาผู้ปกครองผู้ตายซึ่งมีอายุ 19 ปี จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือยกเป็นข้อต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่บิดาผู้ปกครองผู้ตาย ข้อที่ว่าผู้ตายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์หรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นโต้เถียงกัน
ผู้มีชื่อนำรถยนต์เข้ามาวิ่งร่วมในเส้นทางสัมปทานของบริษัทจำเลยที่ 2 โดยโอนกรรมสิทธิ์รถให้จำเลยที่ 2 ต้องพ่นสีและตีตราเป็นรถของจำเลยที่ 2 คนเก็บเงินค่าโดยสารต้องแต่งเครื่องแบบของจำเลยที่ 2 ถ้าประพฤติตนไม่ดี ผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 2 มีอำนาจพิจารณาลงโทษได้ ตั๋วที่จำหน่ายแก่ผู้โดยสารก็เป็นตั๋วของจำเลยที่ 2 นอกจากนี้จำเลยที่ 2 ยังได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าบริการเมื่อรถเข้าจอดเทียบสถานีของจำเลยที่ 2 เที่ยวละ 3 บาท พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ชี้ชัดว่าจำเลยที่ 2 ยอมรับว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถของจำเลยที่ 2 หรือจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับเจ้าของรถมีรถยนต์ดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการหารายได้ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 คนขับรถปฏิบัติกิจการของจำเลยที่ 2 โดยมีสินจ้าง จำเลยที่ 2 จึงเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดของจำเลยที่ 1 ซึ่งขับรถชนบุตรโจทก์ในระหว่างขับรถขนส่งคนโดยสารในกิจการของจำเลยที่ 2 (อ้างฎีกาที่ 1576/2506)
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นจะต้องพิจารณาตามความสมควร ตามความจำเป็น และตามฐานะของผู้ตายและบิดามารดา ทั้งต้องพิจารณาถึงประเพณีการทำศพตามลัทธินิยมประกอบด้วย และต้องไม่ใช่รายการที่ฟุ่มเฟือยเกินไป
การที่บุตรตายลงทำให้บิดาต้องขาดไร้อุปการะ บิดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการต้องขาดไร้อุปการะ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูบิดาหรือไม่ (อ้างฎีกาที่ 1742/2499)
ค่าสินไหมทดแทนค่าขาดไร้อุปการะเป็นหนี้ค่าเสียหายในอนาคตซึ่งมีจำนวนกำหนดแน่นอน โจทก์สามารถบังคับได้ในวันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา โจทก์จึงมีสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง, ค่าปลงศพ, ค่าขาดไร้อุปการะ และดอกเบี้ย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาผู้ปกครองผู้ตายซึ่งมีอายุ 19 ปีจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือยกเป็นข้อต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่บิดาผู้ปกครองผู้ตาย ข้อที่ว่าผู้ตายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์หรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นโต้เถียงกัน
ผู้มีชื่อนำรถยนต์เข้ามาวิ่งร่วมในเส้นทางสัมปทานของบริษัทจำเลยที่ 2 โดยโอนกรรมสิทธิ์รถให้จำเลยที่ 2 ต้องพ่นสีและตีตราเป็นรถของจำเลยที่ 2 คนเก็บเงินค่าโดยสารต้องแต่งเครื่องแบบของจำเลยที่ 2 ถ้าประพฤติตนไม่ดี ผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 2 มีอำนาจพิจารณาลงโทษได้ ตั๋วที่จำหน่ายแก่ผู้โดยสารก็เป็นตั๋วของจำเลยที่ 2 นอกจากนี้จำเลยที่ 2 ยังได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าบริการเมื่อรถเข้าจอดเทียบสถานีของจำเลยที่ 2 เที่ยวละ 3 บาท พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ชี้ชัดว่าจำเลยที่ 2 ยอมรับว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถของจำเลยที่ 2 หรือจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับเจ้าของรถมีรถยนต์ดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการหารายได้ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 คนขับรถปฏิบัติกิจการของจำเลยที่ 2 โดยมีสินจ้าง จำเลยที่ 2 จึงเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดของจำเลยที่ 1 ซึ่งขับรถชนบุตรโจทก์ในระหว่างขับรถขนส่งคนโดยสารในกิจการของจำเลยที่ 2 (อ้างฎีกา ที่ 1576/2506)
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นจะต้องพิจารณาตามความสมควร ตามความจำเป็น และตามฐานะของผู้ตายและบิดามารดา ทั้งต้องพิจารณาถึงประเพณีการทำศพตามลัทธินิยมประกอบด้วย และต้องไม่ใช่รายการที่ฟุ่มเฟือยเกินไป
การที่บุตรตายลงทำให้บิดาต้องขาดไร้อุปการะบิดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการต้องขาดไร้อุปการะ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูบิดาหรือไม่ (อ้างฎีกาที่ 1742/2499)
ค่าสินไหมทดแทนค่าขาดไร้อุปการะเป็นหนี้ค่าเสียหายในอนาคตซึ่งมีจำนวนกำหนดแน่นอน โจทก์สามารถบังคับได้ในวันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา โจทก์จึงมีสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของผู้เช่าซื้อ และการฟ้องรวมค่าเสียหายของครอบครัว
ผู้ที่เช่าซื้อทรัพย์โดยมีข้อสัญญาว่าผู้เช่าซื้อจะระมัดระวังดูแลรักษาทรัพย์นั้นให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยคงเดิม การชำรุดเสียหายเป็นหน้าที่ของผู้เช่าซื้อจะต้องซ่อมแซม เมื่อทรัพย์นั้นถูกทำละเมิดให้เสียหาย และผู้เช่าซื้อได้ชำระเงินค่าซ่อมแซมไปแล้ว จึงเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องรักษาตัวเกิน 20 วัน โจทก์ต้องรักษาตัว เสียค่ายา ค่ารักษา จึงขอคิดค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายรวมทั้งค่าทนทุกข์ทรมาน 5,000 บาท ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม เพราะค่าเสียหายเป็นค่าอะไร เท่าใดเสียให้แก่ใคร เมื่อใด และเพราะเหตุใดนั้น เป็นรายละเอียดซึ่งต้องนำสืบในชั้นพิจารณา(อ้างฎีกาที่ 497/2499)
โจทก์เช่าซื้อรถมาใช้ในครอบครัวระหว่างโจทก์และสามีโจทก์ โดยใช้ไปทำงานด้วยกันโดยสามีโจทก์เป็นผู้ขับ เมื่อจำเลยทำละเมิดทำให้รถดังกล่าวเสียหายต้องเข้าอู่ซ่อม เป็นเหตุให้โจทก์และสามีโจทก์ต้องจ้างรถยนต์รับจ้างไปทำงานและรับแพทย์มารักษาโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวรวมกันมาได้
of 102