พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,014 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716-1717/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่โดยตรง
จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถออกไปแล้ว แล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716-1717/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างในการขับรถ แม้ลูกจ้างเปลี่ยนเส้นทางไปทำธุระส่วนตัว
จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถไปรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่1 ขับรถออกไปแล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คนบาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยบริษัทประกันภัยและการรับช่วงสิทธิเรียกร้องจากผู้ทำละเมิด
เจ้าของรถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชน ได้เอารถประกันภัยไว้กับบริษัทโจทก์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับประกันวินาศภัย บริษัทโจทก์ได้เอารถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชนเสียหายไปให้อู่ซ่อมเสร็จ และมอบรถให้เจ้าของรับไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทโจทก์ก็ต้องมีความผูกพันที่จะต้องใช้ราคาค่าซ่อมให้แก่อู่ผู้ทำการซ่อมตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ เช่นนี้ นับว่าบริษัท โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วตามจำนวนเงินราคาค่าจ้างที่ได้ตกลงไว้กับอู่ผู้ทำการซ่อม บริษัทโจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่ถูกชนซึ่งมีต่อจำเลย บริษัทโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 880 วรรค 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังซ่อมรถให้คืนสภาพเดิม
เจ้าของรถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชน ได้เอารถประกันภัยไว้กับบริษัทโจทก์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับประกันวินาศภัย บริษัทโจทก์ได้เอารถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชนเสียหายไปให้อู่ซ่อมเสร็จและมอบรถให้เจ้าของรับไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทโจทก์ก็ต้องมีความผูกพันที่จะต้องใช้ราคาค่าซ่อมให้แก่อู่ผู้ทำการซ่อมตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ เช่นนี้ นับว่าบริษัทโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วตามจำนวนเงินราคาค่าจ้างที่ได้ตกลงไว้กับอู่ผู้ทำการซ่อม บริษัทโจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่ถูกชนซึ่งมีต่อจำเลย บริษัทโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของข้าราชการในการลงนามเช็คที่มีพิรุธ ธนาคารมีส่วนทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยที่ 3 เป็นเสมียนแผนกการเงินทำหน้าที่เขียนเช็คมาช้านานแล้ว และวิธีเขียนก็มีการเว้นช่องระยะไว้ข้างหน้า ่จำนวนเงินที่เขียนไว้แล้วเช่นนี้ อยู่เสมอและไม่เคยมีเหตุเกิดขึ้น ในคราวที่เกิดเรื่องนี้ จำเลยที่ 3 ก็เขียนเช็คโดยเว้นช่องระยะไว้ข้างหน้า จำนวนเงินที่เขียนไว้แล้วทำนองเดียวกันและผ่านการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่ชั้นรอง ๆ ผู้มีหน้าที่โดยเฉพาะมาแล้ว อีกทั้งมีหลักฐานการขอเบิกจ่ายมาถูกต้อง จึงเสนอเช็คให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายช่างผู้เชี่ยวชาญ กรมทางฯ ขณะมีงานอื่นกำลังปฏิบัติอยู่มาก และจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกการเงิน กองคลัง เช็นสั่งจ่ายและแล้วจำเลยที่ 3 นำเช็คนั้นไปเติมจำนวนเงินลงในช่องที่เว้นระยะไว้นั้ เป็นเหตุให้กรมทางฯ ต้องจ่ายเงินเกินจำนวนที่ควรต้องจ่ายจริงไป 600,000 บาท ดังนี้แม้เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 - 2 จะไม่รอบคอบแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ปฏิบัติงานโดยชอบด้วยหน้าที่แล้ว ควรเสียหายของโจทก์ก็จะไม่เกิดขึ้น ความเสียหายของโจทก์โดยตรงเกิดจากการที่ธนาคารยอมจ่ายเงินทั้งๆ ที่เช็ครายนี้มีพิรุธในข้อที่เติมจำนวนเงินทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ซึ่งแม้พิจารณาด้วยตาเปล่าของคนธรรมดา ก็เห็นชัดหาได้เกิดโดยตรงจากการไม่รอบคอบของจำเลยที่ 1 - 2 ไม่ ดังนี้ จำเลยที่ 1 - 2 ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินที่โจทก์ต้องเสียหายไปดังกล่าว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของข้าราชการในการลงนามเช็คที่มีพิรุธ: ธนาคารมีส่วนรับผิดชอบในการตรวจสอบ
จำเลยที่ 3 เป็นเสมียนแผนกการเงินทำหน้าที่เขียนเช็คมาช้านานแล้ว และวิธีเขียนก็มีการเว้นช่องระยะไว้ข้างหน้าจำนวนเงินที่เขียนไว้แล้วเช่นนี้ อยู่เสมอและไม่เคยมีเหตุเกิดขึ้นในคราวที่เกิดเรื่องนี้ จำเลยที่ 3 ก็เขียนเช็คโดยเว้นช่องระยะไว้ข้างหน้าจำนวนเงินที่เขียนไว้แล้วทำนองเดียวกันและผ่านการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่ชั้นรองๆ ผู้มีหน้าที่โดยเฉพาะมาแล้ว อีกทั้งมีหลักฐานการขอเบิกจ่ายมาถูกต้องจึงเสนอเช็คให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายช่างผู้เชี่ยวชาญกรมทางฯ ขณะมีงานอื่นกำลังปฏิบัติอยู่มาก และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกการเงิน กองคลัง เซ็นสั่งจ่ายและแล้วจำเลยที่ 3 นำเช็คนั้นไปเติมจำนวนเงินลงในช่องที่เว้นระยะไว้นั้น เป็นเหตุให้กรมทางฯ ต้องจ่ายเงินเกินจำนวนที่ควรต้องจ่ายจริงไป 600,000 บาทดังนี้ แม้เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1-2 จะไม่รอบคอบแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ปฏิบัติงานโดยชอบด้วยหน้าที่แล้ว ความเสียหายของโจทก์ก็จะไม่เกิดขึ้นความเสียหายของโจทก์โดยตรงเกิดจากการที่ธนาคารยอมจ่ายเงินทั้งๆ ที่เช็ครายนี้มีพิรุธในข้อที่เติมจำนวนเงินทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ซึ่งแม้พิจารณาด้วยตาเปล่าของคนธรรมดาก็เห็นชัดหาได้เกิดโดยตรงจากการไม่รอบคอบของจำเลยที่ 1-2 ไม่ดังนี้ จำเลยที่ 1-2 ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินที่โจทก์ต้องเสียหายไปดังกล่าว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้างในความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามสัญญา
จำเลยที่ 2 เป็นนายท้ายและผู้ควบคุมเรือยนต์ทำงานในฐานเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และรับจ้างลากจูงเรือของโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 ทำให้เรือบรรทุกข้าวของโจทก์ล่มเป็นไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างในการปฏิบัติงานตามสัญญา
จำเลยที่ 2 เป็นนายท้ายและผู้ควบคุมเรือยนต์ทำงานในฐานเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และรับจ้างลากจูงเรือของโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 ทำให้เรือบรรทุกข้าวของโจทก์ล่มเป็นไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาท หากมอบหมายให้ใช้รถในหน้าที่ และข้อตกลงซ่อมรถไม่ผูกพันเจ้าของรถ
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างและเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท. 12499 ได้มอบรถยนต์คันดังกล่าวให้จำเลยที ่1 ซึ่งเป็นลูกจ้างในตำแหน่งหัวหน้าช่างเครื่องยนต์ของบริษัท จำเลยที่ 2 ไปใช้ในตำแหน่งหน้าที่และในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันนั้น โดยตาวประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้นเป็นการเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้แล้วว่า การที่จำเลยที่ 1 ได้ขับรถนั้นโดยความประมาทเป็นเหตุให้ชนรถโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นการกระทำในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้น ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 / 2502)
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้น ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 / 2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาทในทางการจ้าง
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างและเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.12499 ได้มอบรถยนต์คันดังกล่าวให้จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างในตำแหน่งหัวหน้าช่างเครื่องยนต์ของบริษัทจำเลยที่ 2ไปใช้ในตำแหน่งหน้าที่และในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันนั้นโดยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้นเป็นการเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้แล้วว่า การที่จำเลยที่ 1 ได้ขับรถนั้นโดยความประมาทเป็นเหตุให้ชนรถโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นการกระทำในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลยซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้นข้อตกลงเช่นนี้ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2502)
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลยซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้นข้อตกลงเช่นนี้ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2502)