พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,014 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656-1659/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อความประมาทของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้มีผู้โดยสาร
ลูกจ้างมีหน้าที่ขับรถยนต์รับจ้างบรรทุกของ ในระหว่างทางลูกจ้างได้ให้ผู้อื่นอาศัยโดยสารรถยนต์มาด้วย และได้ขับรถโดยประมาททำให้รถคว่ำผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บนายจ้างย่อมต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656-1659/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อการประมาทของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้มีผู้โดยสารมาด้วย
ลูกจ้างมีหน้าที่ขับรถยนต์รับจ้างบรรทุกของ ในระหว่างทางลูกจ้างได้ให้ผู้อื่นอาศัยโดยสารรถยนต์มาด้วย และได้ขับรถโดยประมาททำให้รถคว่ำผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บ นายจ้างย่อมต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดนั้น อาจเกิดจากบุคคลหลายคนทำการละเมิดให้เกิดความเสียหายก็ได้ เช่นในคดีขับรถยนต์ชนกันโดยประมาทและแต่ละฝ่ายอาจรับผิดในความเสียหายยิ่งหย่อนกว่ากันได้สุดแต่ศาลจะวินิจฉัยตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นคนขับรถของนายจ้าง จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ขับรถชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายตายผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัวดังนี้เมื่อโจทก์ต่างเป็นผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตายซึ่งต่างเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันในคดีย่อมเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกันได้ตาม มาตรา59 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฝ่ายจำเลยแม้มิได้มีประโยชน์ร่วมกันก็ต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกันจำเลยทั้ง 4 จึงถูกฟ้องร่วมกันได้
จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นคนขับรถของนายจ้าง จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ขับรถชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายตายผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัวดังนี้เมื่อโจทก์ต่างเป็นผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตายซึ่งต่างเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันในคดีย่อมเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกันได้ตาม มาตรา59 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฝ่ายจำเลยแม้มิได้มีประโยชน์ร่วมกันก็ต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกันจำเลยทั้ง 4 จึงถูกฟ้องร่วมกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างในการขับรถขณะปฏิบัติงาน แม้เป็นการเลือกเส้นทางเอง
ลูกจ้างได้ขับรถยนต์ของนายจ้างตามทางการที่จ้าง ตอนขากลับลูกจ้างได้นำรถกลับไปบ้านแล้วจะนำไปเก็บยังโรงรถของนายจ้าง ระหว่างนั้นรถได้ชนกับรถของผู้อื่นเสียหายดังนี้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย เพราะการที่ลูกจ้างจะขับรถไปทางไหนย่อมอยู่ในความคิดของลูกจ้างอันเป็นการสะดวกและเหมาะสม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้เป็นการเลือกเส้นทางเอง
ลูกจ้างได้ขับรถยนต์ของนายจ้างตามทางการที่จ้าง ตอนขากลับลูกจ้างได้นำรถกลับไปบ้านแล้วจะนำไปเก็บยังโรงรถของนายจ้าง ระหว่างนั้นรถได้ชนกับรถของผู้อื่นเสียหายดังนี้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย เพราะการที่ลูกจ้างจะขับรถไปทางไหนย่อมอยู่ในความคิดของลูกจ้างอันเป็นการสะดวกและเหมาะสม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางแพ่งจากการใช้รถของราชการโดยมิได้รับอนุญาต และการขาดเจตนาจ้าง
การที่พลตำรวจเอารถของกรมตำรวจขับไปโดยพลการมิได้ขออนุญาตจากผู้ครอบครองรักษารถไปชนรถโจทก์เสียหาย เมื่อโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ขับรถไปชนรถโจทก์นั้นได้กระทำไปในทางที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 กรมตำรวจก็ไม่ต้องรับผิด และตามพฤติการณ์เช่นว่านี้ พลตำรวจเป็นผู้ครอบครองรถในขณะเกิดเหตุกรมตำรวจมิได้ครอบครองอันจะต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 (เข้าที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง นอกเหนือหน้าที่การงาน
ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งนายจ้างลงรับประทานอาหารแล้วลูกจ้างขับรถยนต์นั้นไปที่อื่นโดยพละการมิได้รับความยินยอมจากนายจ้าง แล้วไปชนคนตาย ดังนี้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้ แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้ แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างนอกเหนือหน้าที่ความรับผิด
ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งนายจ้างลงรับประทานอาหาร แล้วลูกจ้างขับรถยนต์นั้นไปที่อื่นโดยพลการมิได้รับความยินยอมจากนายจ้าง แล้วไปชนคนตาย ดังนี้นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในกรณีช้างทำลายทรัพย์สิน: ผู้ดูแลและเจ้าของช้าง
มารดาเป็นเจ้าของช้างแต่บุตรเป็นผู้ดูแลรักษาช้างนั้นไว้แทนมารดา าและบุตรยังได้จ้างลูกจ้างให้เป็นควานและ เป็นผู้เลี้ยงรักษาช้างนั้น เมื่อเกิดการละเมิด โดยลูกจ้างปล่อยปละประมาทเลินเล่อไม่รัะมัดระวังช้างเป็นเหตุให้ช้าง ไปทำลายสิ่งของของผู้อื่นเสียหายเช่นนี้ บุตรกับลูกจ้างต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เขา แต่มารดาผู้เป็น เจ้าของช้างไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย จึงไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ดูแลรักษาช้างต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากการประมาทเลินเล่อ แม้เจ้าของช้างมิได้เกี่ยวข้อง
มารดาเป็นเจ้าของช้างแต่บุตรเป็นผู้ดูแลรักษาช้างนั้นไว้แทนมารดา และบุตรยังได้จ้างลูกจ้างให้เป็นควานและเป็นผู้เลี้ยงรักษาช้างนั้นเมื่อเกิดการละเมิด โดยลูกจ้างปล่อยปละประมาทเลินเล่อไม่ระมัดระวังช้างเป็นเหตุให้ช้างไปทำลายสิ่งของของผู้อื่นเสียหายเช่นนี้ บุตรกับลูกจ้างต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เขา แต่มารดาผู้เป็นเจ้าของช้างไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย จึงไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย