พบผลลัพธ์ทั้งหมด 480 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันและผู้จำนองยังคงอยู่เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอม แม้ศาลมีคำพิพากษาแล้ว
การที่ ท. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่โจทก์ และศาลพิพากษาให้คดีเสร็จเด็ดขาด ไปแล้ว แต่ ท. ยังมิได้ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่โจทก์ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเลย เพราะยังอยู่ในระหว่าง บังคับคดี ดังนี้ หนี้ที่ประกันจึงยังมิได้ระงับสิ้นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698 จำเลยผู้ค้ำประกัน และผู้จำนองจึงยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน ยุติข้อพิพาท แม้จะมีข้อโต้แย้งเรื่องความผิดสัญญาหรือความเสียหาย
จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ก่อสร้างอาคารเรียน โจทก์ใช้เหล็กเส้นผิดขนาดจากที่กำหนดไว้ในแบบในการก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าว โจทก์จึงบันทึกข้อความไว้ว่ายอมให้จำเลยหักเงินเป็นค่าปรับตามจำนวนที่จำเลยกำหนดไว้ได้และจำเลยยินยอมให้โจทก์ดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยไม่ต้องรื้ออาคารที่ก่อสร้างไปแล้ว ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเบี้ยปรับที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 แต่เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยมาทำความตกลงระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งมีผลเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 จำเลยย่อมมีสิทธิหักเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ ปัญหาว่าโจทก์ผิดสัญญาหรือไม่หรือจำเลยเสียหายมากน้อยเพียงใด ย่อมเป็นอันยุติไปแล้วโดยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีเหตุที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีก
การที่โจทก์บันทึกไว้ว่ายินดีให้หักเงินจำนวน 119,412 บาทก่อนหมายความว่าโจทก์ยอมให้หักไว้ก่อนตามจำนวนดังกล่าว โดยโจทก์ยินดีรับไปเฉพาะส่วนที่เหลือจากหักแล้ว
การที่โจทก์บันทึกไว้ว่ายินดีให้หักเงินจำนวน 119,412 บาทก่อนหมายความว่าโจทก์ยอมให้หักไว้ก่อนตามจำนวนดังกล่าว โดยโจทก์ยินดีรับไปเฉพาะส่วนที่เหลือจากหักแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สละมรดกบางส่วนและสัญญาแบ่งปันมรดก: ผลผูกพันตามกฎหมาย
แม้เอกสารที่โจทก์ทำจะมิใช่เอกสารสละมรดกตามความหมายของมาตรา 1612 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะได้ความว่าทรัพย์มรดกที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะทายาทนอกจากที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นแล้ว ยังมีทรัพย์อื่นอีกและการสละมรดกจะทำแต่เพียงบางส่วนไม่ได้ตามมาตรา 1613แต่เอกสารดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาแบ่งปันมรดกซึ่งโจทก์ลงลายพิมพ์นิ้วมือให้ไว้กับจำเลยว่า โจทก์เป็นทายาทของเจ้ามรดก มีสิทธิได้รับมรดกแต่โจทก์ไม่พึงปรารถนาที่จะรับโอนมรดก โดยตกลงยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรของเจ้ามรดกเป็นผู้รับโอนย่อมมีผลบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,852 และ 1750โจทก์เรียกร้องทรัพย์มรดกส่วนนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479-1480/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์หลังมีสัญญาประนีประนอมยอมความ และผลของการไม่จดทะเบียน
จ. กับ ส. และ ล. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลยอมยกที่ดินของตนให้ ว.ว. ได้ลงชื่อไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความตกลงรับที่ดินพิพาท เป็นการแสดงเจตนารับประโยชน์ตามสัญญาแล้ว ถือได้ว่า จ. มอบการครอบครองที่ดินให้ ว.ตั้งแต่วันนั้น.ว. ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาเกิน10 ปีแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 การไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือไม่ใช้สิทธิเรียกร้องเอาที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความภายใน 10 ปี หาทำให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินสูญสิ้นไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันโจทก์ สละสิทธิในมรดก
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาและเป็นทายาทของ ถ.ผู้ตายจำเลยเป็นภริยาของ ถ..ก่อนตายถ.มีที่ดินมรดก 2 แปลง จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกได้โอนรับมรดกเอาเป็นของตนแต่ผู้เดียวเป็นการปิดบังเอาทรัพย์มรดกเกินส่วนที่ควรจะได้รับ ขอให้ศาลพิพากษากำจัดจำเลยไม่ให้รับมรดกของ ถ.แต่ได้ความว่าหลังจากถ.ตาย โจทก์จำเลยได้พากันไปที่สำนักงานที่ดิน แล้วโจทก์ได้ให้เจ้าพนักงานที่ดินทำบันทึกความว่า ที่โจทก์ยื่นคัดค้านการที่จำเลยขอรับมรดกของ ถ.นั้น โจทก์ขอถอนยอมให้จำเลยเป็นผู้รับมรดกแต่ผู้เดียว แล้วโจทก์พิมพ์มือโดยมีพยานรับรอง 2 คน ดังนี้เอกสารดังกล่าวจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งผูกพันโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกเอาส่วนแบ่งมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่แทนการแบ่งมรดก: การสละสิทธิเรียกร้องเดิมเมื่อรับชำระหนี้เป็นอย่างอื่น
ที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละประมาณ7 ไร่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์ไปขอแบ่งที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโดยจำเลยให้กระบือ 1 ตัว กับเงิน4,000 บาทแก่โจทก์แทน แต่จำเลยยังไม่มีเงินได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ โจทก์ทั้งสองยอมรับเอาเงินและกระบือแทนการขอแบ่งที่ดิน ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองได้สละสิทธิเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทแล้วโดยตกลงรับชำระหนี้เป็นเงินและกระบือแทน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามโจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทให้ผิดไปจากข้อตกลงนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเรียกร้องแบ่งมรดกด้วยการตกลงรับชำระหนี้เป็นเงินและทรัพย์สินอื่นแทน
ที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่า เป็นมรดกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละประมาณ 7 ไร่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์ไปขอแบ่งที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโดยจำเลยให้กระบือ 1 ตัว กับเงิน 4,000 บาท แก่โจทก์แทน แต่จำเลยยังไม่มีเงินได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ โจทก์ทั้งสองยอมรับเอาเงินและกระบือแทนการขอแบ่งที่ดิน ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์ทั้งสองได้สละสิทธิเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทแล้วโดยตกลงรับชำระหนี้ เป็นเงินและกระบือแทน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามโจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทให้ผิดไปจากข้อตกลงนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเฉพาะคดีแพ่ง ไม่กระทบสิทธิดำเนินคดีอาญา
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งเกี่ยวกับเช็คฉบับที่ฟ้องจำเลยในคดีอาญาศาลพิพากษาตามยอมแล้วแต่ข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วม (ผู้เสียหาย) ได้ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีส่วนอาญากับจำเลยแต่ประการใดดังนี้ ถือว่าคู่ความตกลงประนีประนอมยอมความกันแต่เฉพาะในคดีแพ่งเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่านา: สิทธิเช่าต่อเนื่องและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา
สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความว่า จำเลยยอมให้โจทก์เช่าทำนาต่อไปอีกในปีการทำนา 2518 ตามข้อสัญญาดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยตกลงให้โจทก์ได้เช่าทำนาในปี 2518 ต่อไปมิได้มีข้อความว่าโจทก์ตกลงเช่านาพิพาทเพียง 1 ปีทั้งไม่มีข้อความว่าโจทก์สละสิทธิการเช่านาพิพาทในปีต่อๆ ไปจำเลยย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 มาตรา 31โจทก์มีสิทธิเช่านาของจำเลยต่อไปโดยได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันยังคงมีผล แม้มีการทำสัญญายอมความและมีผู้ค้ำประกันรายใหม่ เพราะจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามเงื่อนไข
ผู้ร้องค้ำประกันลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นทุเลาการบังคับคดีระหว่างลูกหนี้อุทธรณ์ซึ่งตามสัญญามีผลจนคดีถึงที่สุด โดยนำโฉนดมาวางประกัน ชั้นฎีกาถือหลักประกันเดิม ระหว่างฎีกาโจทก์จำเลยยอมความกันแบ่งชำระหนี้ 18 งวด มีผู้อื่นเข้าค้ำประกันอีกด้วย สัญญาข้อ 8 ยอมคืนโฉนดต่อเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดที่ 7 แล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินงวดที่ 7 และเนื่องจากโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะสละและไม่ได้สิทธิอะไรจากสัญญา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 หนี้เดิมจึงยังคงมีอยู่ดังนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน เหตุที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยมีผู้ค้ำประกันตามสัญญาดังกล่าวอีก ไม่มีผลทำให้ความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป