พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาภาษีอากรต้องใช้ราคาตามบัญชีราคาสินค้าที่ทั้งคู่ยอมรับ แม้จะอนุมัติภายหลังก็ไม่กระทบราคาอันแท้จริง
โจทก์และจำเลยต่างถือเอาราคาตามที่ปรากฏในบัญชีราคาสินค้ามาเป็นเกณฑ์เพื่อประเมินราคาสินค้าพิพาท โดยโจทก์ถือตามบัญชีราคาสินค้าเก่า จำเลยถือตามบัญชีราคาสินค้าใหม่ ย่อมเท่ากับต่างยอมรับว่า ราคาตามบัญชีราคาสินค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดการที่โจทก์สั่งซื้อสินค้าพิพาทเข้ามาโดยโจทก์ต้องชำระราคาตามบัญชีราคาสินค้าใหม่ ซึ่งบริษัทผู้ขายในต่างประเทศได้แสดงไว้แล้วว่าบัญชีราคาสินค้าดังกล่าวมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2531โจทก์นำสินค้าเข้ามาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2531 โดยสำแดงราคาตามบัญชีราคาสินค้าใหม่อันมีผลใช้บังคับแล้วดังนี้ ย่อมต้องถือว่าราคาตามราคาสินค้าใหม่เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินราคาสินค้าพิพาท การที่จำเลยเพิ่งอนุมัติให้ใช้บัญชีราคาสินค้าใหม่ภายหลังโจทก์นำสินค้าเข้ามาแล้ว ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงราคาอันแท้จริงในท้องตลาด อันต้องถือเป็นเกณฑ์ในการประเมินราคา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3596/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีอากรขาเข้าเพิ่มเติมต้องมีหลักฐานเปรียบเทียบราคาที่น่าเชื่อถือและเป็นปัจจุบัน
บัตรราคาสินค้าและบันทึกการวิเคราะห์ราคาของกรมศุลกากรเป็นเอกสารภายในของโจทก์ที่ทำขึ้นบุคคลภายนอกไม่อาจจะทราบได้ทั้งการประเมินราคาสินค้าก็ปรากฏว่ามีการประเมินภายหลังจากจำเลยที่ 1 นำสินค้าเข้ามาแล้วเป็นเวลากว่า 4-5 ปี กรณีเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ราคาสินค้าที่ปรากฏในบัตรราคาสินค้าและบันทึกการวิเคราะห์ราคาที่เจ้าพนักงานประเมินของโจทก์นำมาเทียบเคียง กับราคาสินค้าของจำเลยที่ 1 เป็นราคาของสินค้าประเภทเดียวกันชนิดเดียวกันกับสินค้าของผู้อื่นซึ่งนำเข้าในราชอาณาจักรมาแล้วในเวลาเดียวกันและใกล้เคียงกันกับเวลาที่จำเลยที่ 1 นำเข้า เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้ได้ความดังกล่าว จึงไม่อาจจะถือเอาราคาตามที่เจ้าพนักงานประเมินของโจทก์ทำการประเมินสินค้าของจำเลยที่ 1 เพิ่มเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดได้การประเมินภาษีอากรขาเข้าเพิ่มเติมสำหรับสินค้าดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3596/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากรต้องมีหลักฐานเปรียบเทียบราคาที่น่าเชื่อถือและเป็นปัจจุบัน หากไม่มีหลักฐานเพียงพอ การประเมินราคาสินค้าเพิ่มเติมจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
บัตรราคาสินค้าและบันทึกการวิเคราะห์ราคาของกรมศุลกากรเป็นเอกสารภายในของโจทก์ที่ทำขึ้น บุคคลภายนอกไม่อาจจะทราบได้ทั้งการประเมินราคาสินค้าของโจทก์ก็ปรากฏว่ามีการประเมินภายหลังจากจำเลยที่ 1 นำสินค้าเข้ามาแล้วเป็นเวลากว่า 4-5 ปี กรณีเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ราคาสินค้าที่ปรากฏในบัตรราคาสินค้าและบันทึกการวิเคราะห์ราคาที่เจ้าพนักงานประเมินของโจทก์นำมาเทียบเคียง กับราคาสินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าของจำเลยที่ 1 เป็นราคาของสินค้าประเภทเดียวกันชนิดเดียวกันกับสินค้าของผู้อื่นซึ่งนำเข้าในราชอาณาจักรมาแล้วในเวลาเดียวกันและใกล้เคียงกันกับเวลาที่จำเลยที่ 1 นำเข้า เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้ได้ความดังกล่าวจึงไม่อาจจะถือเอาราคาตามที่เจ้าพนักงานประเมินของโจทก์ทำการประเมินสินค้าของจำเลยที่ 1 เพิ่มเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดได้ การประเมินภาษีอากรขาเข้าเพิ่มเติมสำหรับใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากรที่สูงกว่าราคาซื้อขายจริง ความน่าสงสัยของราคาพิเศษและแนวทางปฏิบัติของกรมศุลกากร
ราคาสินค้าที่เจ้าพนักงานประเมินถือตามเป็นราคาที่ผู้นำเข้าได้นำเข้าก่อนโจทก์ไม่นานนัก และบางรายก็ปรากฏว่าได้นำเข้าหลังโจทก์เพียง 1 วัน เป็นการที่เจ้าพนักงานประเมินได้ปฏิบัติตามคำสั่งเฉพาะของกรมศุลกากรที่ 14/2524 และคำสั่งทั่วไปของกรมศุลกากรที่8/2530 ซึ่งแม้คำสั่งดังกล่าวจะมิใช่กฎหมายแต่ก็แสดงว่าเป็นการปฏิบัติที่มีแนวทางที่ถูกต้องชอบธรรมและกระทำโดยสุจริตและแม้ราคาสินค้าที่บริษัทอื่นนำเข้ามาจะเป็นราคาในช่วงเวลาก่อนและหลังการนำเข้าของโจทก์ แต่เมื่อเป็นราคาที่อยู่ในระยะเวลาใกล้ชิดกันมากและโดยปกติสินค้ามัก จะขึ้นราคาไปเรื่อย ๆ เมื่อราคาที่นำเข้ามาก่อนกลับสูงกว่าที่โจทก์นำเข้าจึงมีเหตุให้น่าสงสัยว่า ราคาที่ซื้อมาอาจมิใช่ราคาอันแท้จริง หากราคาที่โจทก์ซื้อต่ำกว่าราคาที่บริษัทอื่นซื้อเพราะโจทก์เป็นลูกค้าประจำและโจทก์สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก หรือเพราะบริษัทผู้ขายย่อมขายให้ลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกันก็ย่อมแสดงว่าราคาที่โจทก์ซื้อเป็นราคาที่ได้หักทอนหรือลดหย่อนซึ่งเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการลดหย่อนทั่ว ๆ ไป การลดหย่อนดังกล่าวจึงเป็นการลดหย่อนกรณีพิเศษเฉพาะราย ซึ่งตาม พ.ร.บ. ศุลกากรฯมาตรา 2 จะถือเอามาเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาอันแท้จริงตามหลักศุลกากรและแนวทางปฏิบัติของกรมศุลกากร
ราคาสินค้าที่เจ้าพนักงานประเมินถือตามเป็นราคาที่ผู้นำเข้าได้นำเข้าก่อนโจทก์ไม่นานนัก และบางรายก็ปรากฏว่าได้นำเข้าหลังโจทก์เพียง 1 วัน เป็นการที่เจ้าพนักงานประเมินได้ปฏิบัติตามคำสั่งเฉพาะของกรมศุลกากรที่ 14/2524 และคำสั่งทั่วไปของกรมศุลกากรที่ 8/2530 ซึ่งแม้คำสั่งดังกล่าวจะมิใช่กฎหมาย แต่ก็แสดงว่าเป็นการปฏิบัติที่มีแนวทางที่ถูกต้องชอบธรรมและกระทำโดยสุจริต เมื่อราคาที่นำเข้ามาก่อนกลับสูงกว่าที่โจทก์นำเข้าจึงมีเหตุให้น่าสงสัยว่า ราคาที่ซื้อมาอาจมิใช่ราคาอันแท้จริงหากราคาที่โจทก์ซื้อต่ำกว่าราคาที่บริษัทอื่นซื้อเพราะโจทก์เป็นลูกค้าประจำและโจทก์สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมากหรือเพราะบริษัทผู้ขายย่อมขายให้ลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกัน ก็ย่อมแสดงว่าราคาที่โจทก์ซื้อเป็นราคาที่ได้หักทอนหรือลดหย่อน ซึ่งเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการลดหย่อนทั่ว ๆ ไป การลดหย่อนดังกล่าวจึงเป็นการลดหย่อนกรณีพิเศษเฉพาะราย ซึ่งตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 2 จะถือเอามาเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาศุลกากร: การประเมินราคาซื้อขายที่ไม่เป็นราคาแท้จริงเมื่อมีราคาซื้อขายที่แตกต่างกัน
ราคาสินค้าที่เจ้าพนักงานประเมินถือตามเป็นราคาที่ผู้นำเข้าได้นำเข้าก่อนโจทก์ไม่นานนัก และบางรายก็ปรากฏว่าได้นำเข้าหลังโจทก์เพียง 1 วัน เป็นการที่เจ้าพนักงานประเมินได้ปฏิบัติตามคำสั่งเฉพาะของกรมศุลกากรที่ 14/2524 และคำสั่งทั่วไปของกรมศุลกากรที่ 8/2530ซึ่งแม้คำสั่งดังกล่าวจะมิใช่กฎหมาย แต่ก็แสดงว่าเป็นการปฏิบัติที่มีแนวทางที่ถูกต้องชอบธรรมและกระทำโดยสุจริต เมื่อราคาที่นำเข้ามาก่อนกลับสูงกว่าที่โจทก์นำเข้า จึงมีเหตุให้น่าสงสัยว่า ราคาที่ซื้อมาอาจมิใช่ราคาอันแท้จริง หากราคาที่โจทก์ซื้อต่ำกว่าราคาที่บริษัทอื่นซื้อเพราะโจทก์เป็นลูกค้าประจำและโจทก์สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมากหรือเพราะบริษัทผู้ขายย่อมขายให้ลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกัน ก็ย่อมแสดงว่าราคาที่โจทก์ซื้อเป็นราคาที่ได้หักทอนหรือลดหย่อน ซึ่งเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการลดหย่อนทั่ว ๆ ไป การลดหย่อนดังกล่าวจึงเป็นการลดหย่อนกรณีพิเศษเฉพาะราย ซึ่งตามพระราชบัญญัติ-ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 2 จะถือเอามาเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2590/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าที่ไม่เคยมีผู้นำเข้ามาก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการใช้ราคา FOB เป็นฐานในการประเมินถูกต้อง
สินค้าประเภทที่จำเลยนำเข้ามาในประเทศไม่เคยมีผู้ใดนำเข้ามาก่อน กรมศุลกากร โจทก์จึงถือเอาราคา เอฟ.โอ.บี เป็นฐานเพื่อกำหนดราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อเสียภาษี โดยไม่ปรากฏว่าราคาเอฟ.โอ.บี ที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาเป็นจริง ต้องฟังว่าราคาที่จำเลยสำแดงในใบขนสินค้าถูกต้องและเจ้าพนักงานประเมินเพื่อเรียกเก็บภาษีอากรจากราคาดังกล่าว จึงชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาที่แท้จริงและการอุทธรณ์ผลการประเมินภาษี
ผู้ขายสินค้าในประเทศญี่ปุ่นตั้งราคาสินค้าให้โจทก์ตามราคาที่ปรากฏในใบกำกับสินค้า (อินวอยซ์) และบัญชีราคาสินค้า (ไพรซ์ลิสท์)ซึ่งเป็นราคาที่ขายให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย เพราะจำเป็นต้องแข่งขันกับสินค้าของผู้ผลิตรายอื่น อีกทั้งสินค้า เป็นอะไหล่รถจักรยานยนต์รุ่นเก่าแต่ผู้ใช้ในประเทศไทยยังใช้อยู่ ประกอบกับมีอะไหล่เทียมขายแข่งขัน แต่ราคาสินค้าก็ยังสูงกว่า ราคา ของอะไหล่รถจักรยานยนต์ยี่ห้ออื่น ซึ่งราคานี้ทางเจ้าพนักงาน ของ จำเลยรับรองหรืออนุมัติราคาไว้แล้ว ดังนี้ ย่อมถือว่าราคาตาม ใบกำกับสินค้าและบัญชีราคาสินค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด จำเลย จะ นำเอาราคาตามบัญชีราคาสูงสุด (เอ็กซ์ปอร์ตไพรซ์ลิสท์) ที่ จำเลย ขอจากผู้ขายในประเทศญี่ปุ่นและเป็นราคาที่ผู้ขายตั้ง ไว้ สำหรับ เสนอขายแก่ลูกค้าทั่วโลกมาใช้โดยที่ยังไม่ปรากฏว่า เป็น ราคา ที่ ผู้ขายได้ขายตามราคานั้นให้แก่ผู้ใดบ้าง หรือไม่ปรากฏ ว่า โจทก์ ซื้อ สินค้าจากผู้ขายในราคาที่สูงกว่าราคาที่ปรากฏตาม ใบกำกับสินค้า และบัญชีราคาสินค้าไม่ได้ ประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน (ฉบับที่ 2)เรื่อง ยกเลิกและแต่งตั้งเจ้าพนักงานประเมินตาม ประมวลรัษฎากร กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยอยู่ในฐานะ เจ้าพนักงานประเมินด้วยเมื่อเจ้าพนักงานได้โต้แย้งราคาสินค้า สั่งให้ตัวแทนของโจทก์แก้ไขเพิ่มเติมราคาสินค้าตลอดจนค่าอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้น จึงถือได้ว่าคำสั่งของ เจ้าพนักงานประเมินดังกล่าวเป็นการแจ้งประเมินค่าภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาล ด้วยโจทก์จึงต้องอุทธรณ์คัดค้านต่อคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์เสียก่อนจึงจะมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลเกี่ยวกับ ค่าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนภาษีอากรและการประเมินราคาที่ถูกต้องตามกฎหมายศุลกากร
การขอคืนเงินภาษีอากรในจำนวนที่เสียไว้เกินจำนวนที่พึงต้องเสียจริงภายในสองปีนับแต่วันนำของเข้าเพราะเหตุเกี่ยวด้วยราคาแห่งของใด ๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2467 มาตรา10 วรรคท้าย นั้น จะต้องโต้แย้งหรือแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนการส่งมอบว่าจะขอคืนเงินภาษีอากรในจำนวนที่เห็นว่าเสียไว้เกินจำนวนที่พึงเสียจริง มิฉะนั้นย่อมไม่มีสิทธิขอคืนไม่ว่าจะอยู่ในระยะ 2 ปี หรือไม่ การขอคืนหนังสือค้ำประกันมิใช่การขอคืนเงินภาษีอากรจึงไม่ต้องห้ามด้วยบทบัญญัติของมาตรา 10 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ต้องบังคับด้วยอายุความทั่วไป10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 กระบอกลูกสูบเครื่องยนต์ที่โจทก์นำเข้านอกจากจะมีเครื่องหมายการค้ายี่ห้อ เอ็น.พี.อาร์. แล้ว ยังมีเครื่องหมายการค้าอื่นด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยนำสินค้าดังกล่าวของโจทก์ที่มียี่ห้อฮีโน่ประทับอยู่ไปเปรียบเทียบกับอะไหล่แท้ซึ่งเป็นสินค้ายี่ห้อฮีโน่ ปรากฏว่าเป็นสินค้าที่มีเนื้อโลหะ ขนาด และน้ำหนักเหมือนกันทุกประการ ส่วนสินค้าของโจทก์ที่มีเครื่องหมายการค้ายี่ห้ออีซูซุหรือโตโยต้านั้น แม้จะไม่ปรากฏผลการเปรียบเทียบก็ตาม แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าสินค้าของโจทก์แตกต่างจากอะไหล่แท้ดังกล่าวอย่างไร จึงต้องถือว่าสินค้าของโจทก์มีราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตามราคาของอะไหล่แท้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากรต้องใช้ราคาขายส่งเงินสดของสินค้าประเภทเดียวกัน หากเป็นสินค้าทดแทนห้ามเทียบเคียงราคาสินค้าแท้
การพิจารณาถึงราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าชนิดใดจะต้องนำราคาขายส่งเงินสดของสินค้าอย่างเดียวกันมาเป็นเครื่องเปรียบเทียบ เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นอะไหล่ยานยนต์เทียมจึงจะนำราคาอะไหล่ยานยนต์แท้มาเปรียบเทียบและลดราคาลงร้อยละ20 ดังที่คำสั่งทั่วไปของจำเลยระบุไว้หาได้ไม่และเมื่อจำเลยมิได้นำสืบว่าราคาตามระเบียบดังกล่าวถือได้ว่าเป็นราคาของหรือราคาอันแท้จริงในท้องตลาดได้เพียงใด จึงไม่มีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่าโจทก์จะต้องชำระค่าอากรตามระเบียบดังกล่าว การประเมินราคาสินค้าเพิ่มของจำเลยเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย.