พบผลลัพธ์ทั้งหมด 283 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในข้อความหมิ่นประมาท แม้จะไม่อยู่ในขณะเกิดเหตุ
ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 เห็นได้ชัดว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งให้บรรณาธิการเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็นบรรณาธิการ เมื่อหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ จำเลยย่อมมีความผิดในฐานะเป็นตัวการ จะอ้างว่าไม่อยู่ ไม่รู้เห็น ปัดความรับผิดไปให้รองบรรณาธิการนั้นหาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรมเป็นข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลยโดยอาศัยบทความที่เขียนโดยชาวต่างประเทศที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อความโดยย่อว่า ซีไอเอ ได้จ่ายเงิน 250 ล้านบาทอุดหนุนหน่วย "นวพล" ที่ซีไอเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยบางคนตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบประชาชนและนักศึกษาที่มีกิจกรรมต่อต้านสหรัฐฯโจทก์เป็นผู้เสนอโครงการ "นวพล" นี้โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมของสหรัฐฯ มาก่อนเงินอุดหนุน "นวพล" นี้ เฉพาะตัวโจทก์ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 8 หมื่นบาท ดังนี้ แม้หากจะฟังว่าข้อความตามที่จำเลยลงโฆษณานั้นมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ก็ตามแต่การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(3) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเผยแพร่ข้อความโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลยโดยอาศัยบทความที่เขียนโดยชาวต่างประเทศที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อความโดยย่อว่า ซีไอเอ ได้จ่ายเงิน 250 ล้านบาทอุดหนุนหน่วย "นวพล" ที่ซีไอเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยบางคนตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบประชาชนและนักศึกษาที่มีกิจกรรมต่อต้านสหรัฐฯโจทก์เป็นผู้เสนอโครงการ "นวพล" นี้โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมของสหรัฐฯ มาก่อนเงินอุดหนุน "นวพล" นี้ เฉพาะตัวโจทก์ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 8 หมื่นบาท ดังนี้ แม้หากจะฟังว่าข้อความตามที่จำเลยลงโฆษณานั้นมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ก็ตามแต่การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(3) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2408/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทต้องระบุข้อความใส่ความชัดเจน หากไม่ชัดเจนและไม่บรรยายให้เห็นถึงความเสียหาย ฟ้องไม่ชอบ
เมื่อข้อความและเอกสารท้ายฟ้องที่หาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ ไม่มีความหมายชัดแจ้งอันจะพึงเห็นได้อยู่ในตัวว่าเป็นการใส่ความ ทั้งโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าข้อความตอนใดเป็นการใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอย่างไร เพียงแต่บรรยายคำว่า "อัปมงคลฟิล์ม" และ "บริษัทขี้เรื้อน" จำเลยมีเจตนาจะให้ผู้อ่านเข้าใจว่าหมายถึงโจทก์เท่านั้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2408/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหมิ่นประมาทต้องระบุรายละเอียดชัดเจนถึงการใส่ความที่ทำให้เสียชื่อเสียง การบรรยายเพียงคำพูดที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่ชอบ
เมื่อข้อความและเอกสารท้ายฟ้องที่หาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ ไม่มีความหมายชัดแจ้งอันจะพึงเห็นได้อยู่ในตัวว่าเป็นการใส่ความ ทั้งโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าข้อความตอนใดเป็นการใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอย่างไร เพียงแต่บรรยายคำว่า "อัปมงคลฟิล์ม" และ "บริษัทขี้เรื้อน" จำเลยมีเจตนาจะให้ผู้อ่านเข้าใจว่าหมายถึงโจทก์เท่านั้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271-2272/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อความประกาศพ้นจากตำแหน่ง ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท หากไม่สื่อความหมายถูกไล่ออก
ลงข้อความประกาศหนังสือพิมพ์ว่า "โจทก์ได้พ้นจากตำแหน่งรองประธานชมรมแล้ว จึงเรียกมาเพื่อทราบ ถ้าหากบุคคลผู้นี้มีการแอบอ้างชื่อชมรมหรือกระทำการสิ่งอื่นใดทางชมรมร้านขายยา กทม. จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น" ดังนี้คำว่าพ้นจากตำแหน่งๆ หมายความโจทก์ออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว มิได้หมายความว่า โจทก์ถูกไล่ออกส่วนคำว่า "แอบอ้าง" อาจจะเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ หรือทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือดูหมิ่นเกลียดชังแต่อย่างใด ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271-2272/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อความประกาศพ้นจากตำแหน่ง ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท หากไม่ทำให้เสียชื่อเสียง
ลงข้อความประกาศหนังสือพิมพ์ว่า "โจทก์ได้พ้นจากตำแหน่งรองประธานชมรมแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ ถ้าหากบุคคลผู้นี้มีการแอบอ้างชื่อชมรมหรือกระทำการสิ่งอื่นใดทางชมรมร้านขายยา กทม. จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น" ดังนี้คำว่าพ้นจากตำแหน่งฯ หมายความว่าโจทก์ออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วมิได้หมายความว่า โจทก์ถูกไล่ออกส่วนคำว่า "แอบอ้าง" อาจจะเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ หรือทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังแต่อย่างใด ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดขอบเขตฟ้องหมิ่นประมาท - การพิสูจน์คำพูดที่จำเลยกล่าวต่อบุคคลที่สามต้องสอดคล้องกับคำฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยให้ข่าวหนังสือพิมพ์หมิ่นประมาทโจทก์ ได้ความว่าจำเลยกล่าวแก่นักข่าวของหนังสือพิมพ์พาดพิงถึงโจทก์ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกล่าวแก่นักข่าวถึงโจทก์ด้วยถ้อยคำว่าอย่างไร จึงเอาคำที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยกล่าวแก่นักข่าวมาลงโทษจำเลยเกินฟ้องไม่ได้ ข้อความที่หนังสือพิมพ์ลงหมิ่นประมาทโจทก์ตามที่นักข่าวนำไปลงพิมพ์นั้นฟังไม่ได้ว่าจำเลยสมคบร่วมด้วย ข้อความพาดหัวก็ไม่ใช่ถ้อยคำของจำเลย จำเลยมิใช่ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ ไม่มีความผิดตาม มาตรา 328
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การติชมเจ้าพนักงานด้วยความสุจริตและเป็นธรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
บุตรจำเลยถูกตำรวจจับข้อหาขับรถจักรยานยนต์ไม่มีใบขับขี่ไม่เสียภาษีขับรถเป็นที่น่าหวาดเสียว และรถถูกยึดไปไว้ที่สถานีตำรวจ จำเลยไปติดต่อกับโจทก์ซึ่งเป็นสารวัตรจราจร เพื่อขอรับรถคืน โจทก์เป็นเจ้าพนักงานที่จะต้องปฏิบัติการตามหน้าที่เกี่ยวกับคดีที่บุตรจำเลยต้องหา แทนที่จะพูดให้จำเลยเข้าใจ กลับพูดแรงไป การที่จำเลยส่งข้อความไปลงหนังสือพิมพ์ถึงอธิบดีกรมตำรวจซึ่งเป็นเป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์ มีใจความเป็นการแสดงความเสียใจน้อยใจของจำเลย และขอร้องให้ผู้ใหญ่ในกรมตำรวจสอดส่องตักเตือนตำรวจให้พูดจาแนะนำประชาชนในสิ่งที่ประชาชนไม่รู้อย่างสุภาพ เพื่อให้ตำรวจเข้ากับประชาชนได้ จึงเป็นการติชมโจทก์ด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ และจำเลยลงข้อความนั้นโดยสุจริตตามเรื่องที่เกิดแก่จำเลย กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทและฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตอบโต้ด้วยสุจริตเพื่อปกป้องชื่อเสียง: การใส่ความและการป้องกันส่วนได้เสีย
ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การที่หนังสือพิมพ์ของโจทก์นำรูปจำเลยไปรวมอยู่ในกลุ่มคนร้ายและอาชญากรในหน้าปกหนังสือพิมพ์ เป็นการทำให้คนทั้งหลายเข้าใจว่าจำเลยเป็นบุคคลประเภทเดียวกับคนร้ายและอาชญากรเหล่านั้น ทำให้จำเลยเสื่อมเสียชื่อเสียง จำเลยย่อมมีสิทธิตอบโต้โดยสุจริตเพื่อให้การกระทำดังกล่าวของโจทก์ไร้ผล ไม่มีคนเชื่อ ดังนั้น การที่จำเลยกล่าวต่อหน้าสาธารณชนว่า "โจทก์เป็นบรรณธิการ จิตใจต่ำช้ามาก จิตใจเลวทรามต่ำช้ามาก ........ ไอ้คนปัญญาทรามอย่างนี้ ผมไม่มีวันไปร่วมด้วย" ย่อมทำให้ผู้ที่ได้รับฟังไม่เลื่อมใสโจทก์ อันมีผลทำให้ผลร้ายที่จำเลยได้รับจากการกระทำของโจทก์ลดน้อยถอยลง เป็นการห้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนโดยสุจริตตามคลองธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1077/2504)