พบผลลัพธ์ทั้งหมด 286 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฉ้อค่าภาษีเป็นองค์ประกอบความผิด แม้มีกฎหมายยกเว้นเจตนาในการกระทำ
ตามความในบทบัญญัติของมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 นั้น หาได้ลบล้างองค์ประกอบความผิดที่จะต้องกระทำ "โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษี" ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 นั้น ให้สิ้นไปไม่ เพราะในมาตรา 16 หมายความถึงแต่เพียงมิให้คำนึงถึงเจตนาแห่งการกระทำเท่านั้นส่วนความมุ่งหมายแห่งการกระทำหรือความประสงค์ต่อผลนั้น ยังคงต้องเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 27 นั้นอยู่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2503)
จำเลยนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ตรวจรายละเอียดในแบบพิมพ์เพราะถือว่าเป็นของส่วนตัว แต่ไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จำเลยยังไม่มีความผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2503)
จำเลยนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ตรวจรายละเอียดในแบบพิมพ์เพราะถือว่าเป็นของส่วนตัว แต่ไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จำเลยยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฉ้อค่าภาษีเป็นองค์ประกอบความผิด แม้มาตรา 16 พ.ร.บ.ศุลกากร จะไม่ต้องคำนึงถึงเจตนาในการกระทำ
ตามความในบทบัญญัติของมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 นั้น หาได้ลบล้างองค์ประกอบความผิดที่ต้องกระทำ โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2482 นั้น ให้สิ้นไปไม่เพราะในมาตรา 16 หมายความถึงแต่เพียงมิให้คำนึงถึงเจตนาแห่งการกระทำหรือความประสงค์ต่อผลนั้น ยังคงต้องเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 27 นั้นอยู่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2503)
จำเลยนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้เสียภาษี แต่ไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จำเลยยังไม่มีความผิด
จำเลยนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้เสียภาษี แต่ไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จำเลยยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวไปกองริมตลิ่งยังไม่ถือเป็นความผิดฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร ต้องพิสูจน์เจตนาและลงมือกระทำจริง
จำเลยขนข้าวไปกองไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง 8 กระสอบมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือกหนึ่งเส้นยาว ประมาณ 4 วากองอยู่บนกระสอบริมตลิ่ง จำเลยว่าข้าวนี้เป็นของจำเลยจะนำขนไปที่บ้านเช่นนี้ถือว่ารูปคดียังห่างไกลกับความผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร เพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้ว่าแน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจะมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักรจำเลยก็อาจยังยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแต่เพียงอยู่ในชั้นตระเตรียมการและยังไม่เข้าคั่นพยายามนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวไปกองริมตลิ่งยังไม่ถึงขั้นพยายามนำออกนอกราชอาณาจักร ต้องมีเจตนาและกระทำไปในทางที่จะออกนอกราชอาณาจักร
จำเลยขนข้าวไปกองไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง 8 กระสอบมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือกหนึ่งเส้นยาวประมาณ 4 วากองอยู่บนกระสอบริมตลิ่ง จำเลยว่าข้าวนี้เป็นของจำเลยจะนำขนไปที่บ้าน เช่นนี้ถือว่ารูปคดียังห่างไกลกับความผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักรเพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้แน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจะมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักรจำเลยก็อาจยับยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแต่เพียงอยู่ในขั้นตระเตรียมการและยังไม่เข้าขั้นพยายามนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายบท: เลือกใช้บทกฎหมายที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้น ต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร นั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงเป็นบทหนักกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯ
ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร นั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงเป็นบทหนักกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดบทหนักในความผิดหลายบท ต้องพิจารณาอัตราโทษจำคุกสูงสุด ไม่ใช่อัตราโทษปรับ
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้นต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามพระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
ตาม พระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามพระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้ยังไม่ออกพ้นเขตแดน
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทย ก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้เรือยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือเป็นความผิด
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร 2469 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับโทษทางศุลกากรและยาสูบ: แยกปรับเป็นรายตัวได้, ความผิดกรรมเดียวกันใช้บทหนัก
ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรมาตรา 27 ศาลจะแยกปรับจำเลยเป็นรายตัวหรือปรับจำเลยรวมกันก็ได้ เมื่อรวมกันเป็น 4 เท่าราคาของรวมค่าอากรด้วย.
ในกรณีที่ลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร เมื่อมีเหตุลดหรือเพิ่มโทษจำเลยไม่เหมือนกัน ศาลต้องปรับแยกกัน.
การกระทำผิดฐานช่วยเหลือให้ทำการค้ายาสูบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร กับมียาสูบในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์เป็นกรรมเดียวกัน ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นบทหนัก.
ในกรณีที่ลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร เมื่อมีเหตุลดหรือเพิ่มโทษจำเลยไม่เหมือนกัน ศาลต้องปรับแยกกัน.
การกระทำผิดฐานช่วยเหลือให้ทำการค้ายาสูบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร กับมียาสูบในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์เป็นกรรมเดียวกัน ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นบทหนัก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร: แยกปรับหรือรวมปรับ, เหตุลดเพิ่มโทษ, และกรรมเดียวกัน
ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ศาลจะแยกปรับจำเลยเป็นรายตัวหรือปรับจำเลยรวมกันก็ได้เมื่อรวมกันเป็น4 เท่าราคา ของรวมค่าอากรด้วย
ในกรณีที่ลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร เมื่อมีเหตุลดหรือเพิ่มโทษจำเลยไม่เหมือนกัน ศาลต้องปรับแยกกัน
การกระทำผิดฐานช่วยเหลือให้ทำการค้ายาสูบตามพ.ร.บ.ศุลกากรกับมียาสูบในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์เป็นกรรมเดียวกันต้องลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นบทหนัก
ในกรณีที่ลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร เมื่อมีเหตุลดหรือเพิ่มโทษจำเลยไม่เหมือนกัน ศาลต้องปรับแยกกัน
การกระทำผิดฐานช่วยเหลือให้ทำการค้ายาสูบตามพ.ร.บ.ศุลกากรกับมียาสูบในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์เป็นกรรมเดียวกันต้องลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งเป็นบทหนัก